มีเรื่องมากมายที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในหลวงทรงเสด็จไปกราบเยี่ยมหลวงปู่ครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคอีสาน
ยิ่งพระองค์ได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์ที่ในหลวงและพระราชินีทรงให้ความเคารพรักอย่างสูง แนะนำให้พระองค์ปฏิบัติเป็นแบบอย่างของการเข้าวัดฟังธรรมเพื่อดึงคนเข้าหาศาสนา อันเป็นแนวทางที่จะรักษาความสงบของบ้านเมืองในช่วงที่มีขยายแนวคิดเรื่องคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย พระองค์ก็จะไม่ละเลยที่จะหาโอกาสไปกราบนมัสการครูบาอาจารย์ในละแวกท้องถิ่นที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสงเคราะห์
และภาพเหตุการณ์ความน่ารักที่เล่าสืบ ๆ กันมาของหลวงปู่ชอบกับในหลวง ก็คือ หลวงปู่ชอบซึ่งเพิ่งจะเดินทางมาเยี่ยมหลวงปู่ขาวที่วัดอนาลโย จ.หนองบัวลำภู (สมัยนั้นยังขึ้นอยู่กับจังหวัดอุดรธานี) ก็ได้เป็นจังหวะที่ทางสำนักพระราชวังแจ้งไปยังวัดหลวงปู่ขาวให้เตรียมการรับเสด็จในหลวงและเจ้าฟ้าชาย
หลวงปู่ขาวก็ประหม่า ยิ่งหลวงปู่ชอบยิ่งไปกันใหญ่ จะหนีกลับเข้าป่าด้วยเหตุผลว่าพูดจากับพระเจ้าแผ่นดินไม่เป็น แต่เมื่อจวนตัวเข้า ทั้งหลวงปู่ขาวและหลวงปู่ชอบก็จำต้องอยู่รับเสด็จ
วันนั้น ในหลวงและเจ้าฟ้าชายทรงชุดทหารในการมาปฏิบัติพระราชกิจในจังหวัดอุดรธานี จากนั้นพระองค์ก็เสด็จต่อมายังวัดหลวงปู่ขาวเป็นการส่วนพระองค์โดยไม่มีขบวนเสด็จ และได้นั่งสนทนากับหลวงปู่ขาวและหลวงปู่ชอบอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นก็ทรงเสด็จกลับ
พอมีญาติโยมมาถามหลวงปู่ชอบว่าสนทนาอะไรกับในหลวงและเจ้าฟ้าชาย
หลวงปู่ชอบกลับบอกว่า "ไม่เห็นมา ให้รออยู่ ...เห็นมีแต่ทหารพ่อลูก มาพูดคุยอยู่เป็นนานสองนาน" หลวงปู่ยังว่า "คนพ่อเพิ่นงามกว่าลูกนะ" นอกจากนี้ หลวงปู่ชอบยังพูดอาย ๆ ว่านึกว่าถ้าเป็นกษัตริย์ก็ต้องใส่ชฎามา
หลังจากนั้น ในหลวงก็ทรงหาโอกาสมากราบเยี่ยมหลวงปู่ขาวและหลวงปู่ชอบอยู่เสมอ ๆ และที่สำคัญที่เป็นเครื่องยืนยันถึงความรักและความห่วงใยของครูบาอาจารย์ที่มีต่อในหลวงก็คือบันทึกของคุณหมออวย เกตุสิงห์ ซึ่งเคยบวชอยู่กับหลวงปู่ขาว ว่าหลวงปู่ขาวท่านจะเข้าที่ทำภาวนาเพื่อช่วยรักษาอาการทุกครั้งที่ในหลวงทรงพระประชวร
ในขณะเดียวกัน เวลาหลวงปู่ขาวอาพาธ ในหลวงก็มักนำขันพร้อมดอกไม้มาขอต่ออายุหลวงปู่ครูบาอาจารย์ ว่า"อย่าเพิ่งทิ้งขันธ์ ขอให้อยู่ไปนาน ๆ" ซึ่งครูบาอาจารย์ก็มักไม่ตอบรับ หากแต่ตอบว่า "มันหนักกระดูก ...ขันธ์มันเป็นทุกข์หนัก ...แบกขันธ์มันหนักกว่าแบกครก"
(เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เก็บตกมาจากเรื่องเล่าของคุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต ผู้ซึ่งเคยอุปัฏฐากและเขียนประวัติพระกรรมฐานหลายรูป)
|