เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ขณะนั้นผมประจำอยู่หน่วยที่บุรีรัมย์ ได้ไปกราบบูชา นั่งภาวนาและกระทำประทักษิณ ที่พระธาตุพนม น่าจะเป็นคร้งที่ 5-6 ที่ผมไปปฏิบัติบูชาที่นั่น
จากนั้นผมได้มานั่งข้างๆองค์พระธาตุ ในลักษณะนั่งทับส้น เพื่อมาตั้งจิตอธิษฐานยกพระเสี่ยงทายเป็นครั้งแรก(ใครเคยไปคงทราบแต่ก่อนพระเสี่ยงทายอยู่บริเวณข้างองค์พระธาตุ ปัจจุบันย้ายมาไว้ตรงวิหารด้านหน้าองค์พระธาตุ)
ก่อนยกผมได้รวบรวมสมาธิ ตั้งจิตให้แน่วแน่หนักแน่นและมั่นคง จนจิตสบายๆ จีงอาราธนาคุณพระรัตนตรัย คุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสาวกอรหันตเจ้าทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ เทพเทวดาทั้ง16 ชั้นฟ้า15ชั้นดิน ท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 แม่ธรณี พญายมราช เทพเทวาที่รักษาองค์พระธาตุพนม เทพเทวาที่รักษาตัวข้าฯ
ข้าขอถวายอานิสงส์ผลบุญที่ข้าฯได้ทำมาดีแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติจนปัจจุบันชาติและที่ข้าฯได้กระำทำในวันนี้ให้กับทุกพระองค์ ขอได้โมทนาสาธุ และขอให้มีความสุข ขอให้พ้นจากทุกข์ ขอให้มีภพภูมิที่สูงขึ้น ด้วยอานิสงส์นี้ ขอให้ทุกพระองค์ได้ชี้แนะและยืนยันในคำเสี่ยงทายของข้าฯ
ซึ่งผมได้อธิษฐานความว่า "หากสิ่งที่ลูกได้ปฎิบัติมาถูกแล้วดีแล้ว และจะทำให้ลูกได้บวชเป็นพระอีกในบั้นปลาย (บวชเณรแล้ว 3 บวชพระแล้ว 2) และถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า ลูกขอให้พระเสี่ยงทายนี้เบายกขึ้น ผมก็ยกขึ้นเหนือหัวได้สบายๆ แล้วผมก็กล่าวสาธุและวางพระลงที่เดิม
ตอนนี้ผมยังไม่รู้สึกอะไร จากนั้นผมได้รวบรวมสมาธิอีกครั้ง เมื่อจิตนิ่งและสบายดีแล้ว จึงได้อธิษฐานกลับอีกครั้งความว่า "หากคำอธิษฐานของลูกเป็นจริงดั่งนั้น ขอให้พระเสี่ยงทายนี้หนักยกไม่ขึ้น แล้วผมก็ยกพระเสี่ยงทายอีกครั้ง ปรากฏว่าผมยกขึ้นครับ.......แต่กลับยกขึ้นห่างจากพื้นไดัประมาณ1-2นิ้ว ในอากัปกิริยาเดิมคือนั่งทับส้นอยู่ และพยายามออกแรงยกจนแขนเกร็ง ก็ยกไม่ขึ้นเหมือนมีใครมากดทับไว้
แต่ผมไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น กลับเปลี่ยนท่านั่งจากทับส้นมาเป็นชันเข่า โดยพระวางอยู่ที่เดิมแต่มิอสองข้างของผมไม่ได้ปล่อยออกจากพระเสี่ยงทายเลย และบังอาจคิดท้าทายอีกต่างหากว่า "ให้รู้กันไปว่าจะยกไม่ขึ้น" (ไม่ได้ตั้งสมาธิหรืออธิษฐานอะไรเลย) ผลปรากฏเหมือนเดิมห่างจากพื้น1-2นิ้ว ออกแรงยังไงก็ไม่ขึ้น
ผมก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น กลับเปลี่ยนท่านั่งชันเข่าเป็นยืนโก้งโค้งเพราะมือไม่ได้ปล่อยออกจากพระฯ จากนั้นก็ท้าทายซ้ำอีกว่า "เอาซิ ให้รู้กันไปว่าจะไม่ขึ้น" แล้วผมก็ยกแบบที่ว่ามีกำลังเท่าไหร่ใส่หมด (ผมแข็งแรงเป็นนักกีฬารักบี้, ฟุตบอลและอื่นๆ) ผลกลับไม่เหมือนเดิมครับพ่อแม่พี่นัอง คราวนี้องค์พระเสี่ยงทายไม่ได้พ้นจากพื้นเลยครับ....
สาธุ..... ผมปิติและขนลุกทั้งตัว เพียงชั่วเวลานั้น แล้วผมก็กราบองค์พระธาตุพนม ด้วยความนอบน้อมและสวยงามทั้งภายนอกและภายในใจผม และยิ้มอย่างมีความสุขด้วยความอิ่มใจอย่างพอเหมาะพอดีแบบสบายๆ ไม่ได้คิดเรื่องอื่นใดหรือลิงโลดใจในสื่งที่เกิดขึ้น แต่กำลังใจในการที่จะทำความดีและสร้างสมบุญบารมี ไม่ต้องพูดถึง ประมาณมิได้เลย
ล่าสุดเมื่อก่อนเข้าพรรษาก็ได้ไปอีกครั้งหนึ่ง ได้ไปเจอกลุ่มชมรมพระธาตุโดยบังเอิญ เลยได้ร่วมบุญสร้างพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ในองค์พระธาตุพนม (เผื่อจะมีบุญเช่นหลวงปู่ชอบฯบ้าง ที่อดีตชาติท่านเคยทำบุญสร้างพระธาตุพนม และอธิฐานให้ได้บวชได้พ้นทุกข์ ซึงชาตินั้นท่านเป็นพ่อค้าชาวลาวข้ามฝั่งโขงมาทำบุญด้วยผ้าขาวหนึ่งวาและเงิน 50 สตางค์ โมทนาสาธุกันนะครับ)
ทีจริงการไปครั้งนั้น ผมไปทำบุญกับครูบาแก้ว (ศิษย์เอกท่านหนึ่งของหลวงปู่แว่น ธนปาโล สมัยอยู่วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง อัฐิหลวงปู่ท่านเป็นพระธาตุ) และลูกศิษย์ของท่าน เริ่มสร้างพระธาตุเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารึริกธาตุที่สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรฯ พระราชทานให้ครูบา และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอีกนับล้านองค์ ที่ได้มาเป็นอัศจรรย์จากที่นิมิตเห็นท่านพ่อลีแห่งวัดอโศการาม มาบอกว่า "กูเอาพระธาตุมาให้แล้ว"
ซึงที่ครูบาได้มามีทั้งของสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าตัณหังกร พระพุทธเจ้าทีปังกร พระพุทธเจ้ากัสปะ พระพุทธโคดม เป็นต้น เจดีย์สร้างที่วัดโคกสมบูรณ์ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยการบอกบุญผ้าป่าสร้างเจดีย์ครั้งแรกนี้ ได้ปัจจัยถึงล้านกว่าบาท โมทนาสาธุกันนะครับ เอาไว้ผมมาต่อเรื่องหลวงปู่คำพันธ์ฯนะครับ ขอความเจริญในธรรมและความสุขมีแด่ทุกท่าน
|