ไปพบข้อความนี้จากเวปฯ วัดไทยในอเมริกาแห่งหนึ่ง เห็นว่าเตือนใจได้ดีสำหรับตนเองที่พยายามฝึกเรื่องความคิด  เลยนำมาฝากครับ มี key words บางคำสามารถนำไปพิจารณาขยายความได้ ตามสติปัญญาแต่ละท่าน  ถ้า คลิ๊ก โดนต้องจริต ก็เก็บไว้พิจารณา ถ้าไม่ใช่ ก็ปล่อยผ่านไปนะครับ

“เราทุกคนมีสติปัญญาอยู่แล้ว เพียงแต่เราใช้สติปัญญาไปในทางโลก คือ ใช้ในการเรียน การทำมาหากิน หาความสะดวกสบายในแต่ละวัน  แต่ปัญญาอันเดียวกันนี้เองที่เราจะฝึกพลิกให้เป็นไปในทางธรรม เพื่อใช้สอนใจเราให้รู้ เห็น และเข้าใจความเป็นไปของโลกที่เป็นสัจธรรม มิใช่เป็นไปตามสมมุติโลก

"ความคิดที่ถูกต้องตามความเป็นจริง หรือ สัมมาทิฏฐิ เป็นหัวใจหลัก ถ้าเรามีสัมมาทิฏฐิเป็นตัวนำ การคิดพิจารณาทำความเข้าใจเรื่องอื่นต่อไปก็จะถูกต้อง จึงสำคัญมากที่เราต้องฝึกคิดก่อน ส่วนการทำสมาธินั้น ขณะที่เราสังเกต คิดพิจารณาอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นเหตุเป็นผลนั้น สมาธิความตั้งใจมั่นเกิดขึ้นอยู่แล้ว"

ธรรมและโลกอยู่ด้วยกัน เมื่อทำงานทางโลกก็ให้น้อมสอนใจเพื่อให้เกิดงานทางธรรมควบคู่ไปด้วย จะได้คุ้มค่ากับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด”

อยากสอบถามให้รู้ครับ

" คิดดีก็เป็นทางเย็น ถ้าคิดไม่เป็นก็เย็นสบาย"

คำถาม1 คือ  คิดไม่เป็นก็เย็นสบาย หรือ คิดให้เป็นก็เย็นสบาย

อันไหนเป็นข้อความที่ถูกต้องของ หลวงพ่อเกษมกันแน่ (ไม่ได้ลองภูมินะครับ ผมยังไม่ทราบจริงๆ)

คำถาม 2  ถ้าข้อความต่อไปนี้ ถูกต้อง ตามคำหลวงพ่อเกษม

" คิดดีก็เป็นทางเย็น ถ้าคิดไม่เป็นก็เย็นสบาย"

เพื่อนๆ ตีความกันว่าอย่างไรครับ ช่วยบอกเป็นธรรมทาน

      ในฐานะที่เป็นคนชอบคติธรรมนี้ของ ลป. ก็ขอยืนยันข้อความ แต่ผมต้องขออนุญาตในเรื่องของการตีความ เพราะข้าน้อยด้อยปัญญามิบังอาจตีความของพระสุปฏิปันโณ ผู้ที่สาธุชนทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่พระเจ้าแผ่นดิน ยังก้มพระเศียรกราบบูชาบารมีแห่งธรรมของ ลป. ทั้งๆที่เกือบตลอดชีวิตท่านอาศัยป่าช้าเป็นเครื่องอาศัยในการเดินทางธรรม...

        ที่ชอบก็เป็นตามที่สติปัญญาของผมจะพิจารณาและเข้าใจเอาเองได้บ้าง ขอย้ำคำว่า " ได้บ้าง " แต่ ณ วันนี้ และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ผมจะเข้าไม่ถึงธรรมนี้ของ ลป. จริงๆ เสียที แต่ก็มีผู้ที่พยายามอธิบายและผมว่าก็น่าสนใจดี ลองเข้าไปที่ www.watthummuangna.com ดูนะครับ 

 กราบบูชา ลป.เกษม เขมโก ด้วยเศียรเกล้า ขอบารมี แห่ง " ตุ๊เจ้า " (ตามที่ครูบาศรีวิชัย ท่านได้ทำนายไว้) คุ้มครอง ปกปักรักษา สมาชิก(เว็บ ลป.ดู่)และครอบครัว ให้ประสพแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใด ขอให้สมด้งปรารถนาด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ  

ขอบคุณที่ตอบครับ แหมเล่นบอกว่าไม่บังอาจตีความก็ไม่มีใครกล้าตอบซีครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่าครูบาอาจารย์บางครั้งท่านก็แสดงธรรมเพื่อให้คนตีความ เราตีความผิดหรือถูกคงยากที่ใครจะบอกได้ หรือหาข้อสรุปได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการฝึกความคิดความเห็นเท่านั้นเองครับ ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังอาจ หรืออะไรที่เราตีความ แต่เหมือนกับถามว่าเราเข้าใจความหมายว่าอย่างไรเท่านั้นเอง บางทีเราเข้าใจในมุมหนึ่ง แต่มีท่านอื่นๆ มองอีกมุมหนึ่ง ก็จะช่วยพัฒนาต่อยอดความคิดกันและกัน

เป็นความเขื่อส่วนตัว (อีกแล้ว) ว่าการตีความ การฝึกความคิด เป็นเรื่องสำคัญในภาคปฏิบัติ เพราะตำรา หรือคำสอนครูบาอาจารย์ ใครก็หาศึกษาหาอ่านเอาได้  แต่การตีความ จะต่างกันไปแต่ละคน ถ้าเล่าสู่กันฟังบ้างก็จะเป็นประโยชน์ครับ ยังอยากรู้จริงๆ ว่า ท่านต่างๆ มีความเข้าใจความหมายว่าอย่างไร สำหรับวลีธรรมที่กล่าวไปแล้ว

ขอขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณเมธา และขอบคุณสำหรับพรของคุณ ronram ด้วย

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปเช่นเดียวกัน

โชคดีครับ