luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   ข้อธรรมคำสอน โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน  (Read: 11121 times - Reply: 4 comments)   
nidapan

Posts: 6 topics
Joined: 12/8/2554

ข้อธรรมคำสอน โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
« Thread Started on 5/10/2554 19:47:00 IP : 125.24.50.95 »
 

*********

ที่มา หนังสือ ธัมมะในลิขิต ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ฉบับพิมพ์เป็นธรรมทานเพื่อถวายเป็นอาจาริยบูชา ดำเนินการพิมพ์โดย บริษัทพรีมา พับบลิชชิง จำกัด (มปป.)

คติธรรมที่ปกหน้า (ใน)

อย่าเห็นทุกข์ สมุทัย เป็นคนละคนนอกจากตนไป และอย่าเห็นนิโรธ มรรค เป็นมิตรสหายมาจากต่างแดน พึงทราบว่าอริยสัจทั้งสี่เป็นลวดลายของจิตดวงเดียว ของคนๆ เดียวเท่านั้น ... ๑๑ เมษายน ๒๕๐๒

ส่วนของข้อความในฉบับที่ ๑๐ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๐ (จาก ๕๗ ฉบับ ซึ่งรวบรวมโดย คุณเอี๋ยน ธัมมัญญู)

การเร่งทางด้านจิตตภาวนานั้นแลจะได้เห็นภัยของโลกทั้งมวล สังขารเราแก่เข้าทุกวัน เปลี่ยนไปทุกขณะลมหายใจ

ความหมายของจิตซึ่งปรุงไปก่อนเป็นอุปสรรคแก่ปัญญาซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ปัญญาที่เกิดขึ้นจากปัจจุบันจิตเป็นปัญญาที่จะเปลื้องความสงสัยได้โดยลำดับ ดังนั้น เราควรรักษาจิตให้เป็นปัจจุบัน ตั้งอยู่กับกายกับอารมณ์ที่เกิดจากจิต โดยเฉพาะเรื่องของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และอสุภธรรมทั้งหลายจะปรากฏขึ้นเองด้วยปัญญาอันละเอียดอ่อน ซึ่งอาศัยปัจจุบันจิตเป็นภาคพื้น

ความที่คาดคะเนนั้นทำได้ทุกคนเพราะไม่ใช่ของจริง ทำไปๆ เลยเกิดด้านหรือชินไปเสียอย่างดื้อๆ ยกตัวอย่างคนเรียนปริยัติมากๆ จำได้มากๆ ซึ่งไม่ใช่ปัญญา แล้วจะรู้สึกว่ามีทิฐิมานะมากเพราะสำคัญว่าตนรู้มาก ใครจะสอนคนเช่นนั้นเขายังไม่ฟังเสียง เพราะเขาสำคัญว่าความรู้ของเขาที่เรียนมาสูงจดท้องฟ้าเสียแล้ว ดังนี้ เป็นต้น

ความทำจริงมุ่งต่อความหลุดพ้นจริงๆ แม้จะเรียนเฉพาะกรรมฐาน ๕ เท่านั้น สาวกของพระพุทธเจ้าก็ปรากฏในตำราว่าหลุดพ้นได้หลายองค์ การเรียนมากเรียนน้อยอาจเป็นอุปนิสัย ซึ่งเคยสั่งสอนปริยัติมาแต่ชาติปางก่อนก็ได้ สรุปความแล้ว เรียนมากเรียนน้อยจะต้องไหลลงรวมในข้อปฏิบัติ คือ หลักจิตตภาวนาทั้งนั้น ซึ่งเป็นหลักมุ่งประสงค์ของพระองค์โดยแท้ทีเดียว อนึ่ง ความรู้ทั้งหมด จะเป็นสุตมยปัญญา จินตามยปัญญา หรือปัญญาเกิดจากการศึกษามากน้อยทั้งหลายเหล่านี้ จะต้องกลับมาฟักตัวอยู่ที่ภาวนามยปัญญา อันเป็นส่วนรวมของปัญญาทั้งหลาย เหมือนแม่น้ำทั้งหลายไหลมารวมลงมหาสมุทรฉะนั้น

ภาวนาปัญญานี้ เบื้องต้นต้องเข้าอาศัยจิตที่ตั้งมั่น (ปัจจุบันจิต) เสียก่อน เพราะปัจจุบันจิตดังที่อธิบายแล้วข้างต้น ย่อมเป็นภาคพื้นหรือบ่อเกิดแห่งปัญญาทุกประเภท หรือเหมือนพื้นดินเป็นที่อาศัยเกิดแห่งพืชทุกชนิดนั้น ดังนั้น อุบายทั้งปวงเมื่อเราพยายามรักษาจิตให้ตั้งอยู่เฉพาะในวงแห่งกายแลจิตแล้ว จะเกิดขึ้นเองและจะตัดความสงสัยภายในจิตได้เป็นลำดับ ตั้งแต่ต้นจนตลอดอวสาน จะหนีจากหลักปัจจุบันจิตซึ่งสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันกับกายแลจิตอันเป็นตัวเหตุสำคัญไปไม่ได้เลย

ผู้เรียนมากก็ดี ผู้เรียนน้อยก็ดี ที่จะถอดถอนความสงสัยอันมีอยู่ภายในจิตไม่ได้ ก็เพราะหนีจากหลักความจริงคือกายกับจิตซึ่งเป็นรากฐานของปัจจุบันจิตนั้นเอง เมื่อบังคับจิตให้ตั้งอยู่ในรากฐานอันนี้แล้ว เรื่องปัจจุบันจิตจะปรากฏตัวขึ้นเอง โดยไม่ต้องไปคว้าหาที่ไหน เมื่อปัจจุบันตั้งมั่นแล้ว ปัญญานับแต่ชั้นต่ำ-กลาง และปัญญาส่วนละเอียดสูงสุดก็จะแตกแขนงกิ่งก้านขึ้นมาจากนั้นเป็นลำดับ เหมือนบุคคลก่อไฟให้ติดเชื้อด้วยดีแล้ว ควันซึ่งอาศัยไฟเป็นเหตุนั้น จะตั้งขึ้นตั้งแต่ควันหยาบ ควันปานกลาง และควันที่ละเอียดสุดจากเปลวไฟนั้นเป็นลำดับ ฉะนั้นพึงทราบเรื่องของปัญญาทุกประเภท จะต้องเกิดจากปัจจุบันจิตเช่นเดียวกับควันไฟเกิดจากเปลวไฟนั้นเถิด

ส่วนของข้อความในบันทึกลำดับที่ ๑๑  (จากเทศนาธรรมที่แสดง ณ วัดอโศการาม เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๐๒ ซึ่งบันทึกโดย คุณแม่ชีมธุรปาณิกา)

ผู้ใดปฏิบัติรักษาศีล ผู้นั้นก็จะเป็นเจ้าของสมบัติคือศีล ผู้ใดปฏิบัติสมาธิ ผู้นั้นก็จะเป็นเจ้าของสมบัติคือสมาธิ ผู้ใดเจริญปัญญา ผู้นั้นก็จะเป็นเจ้าของสมบัติคือปัญญา

ถ้าเราเป็นผู้พิจารณาตัวเราเองอยู่ทุกเวลา ทั้งในกลางวันและกลางคืนแล้ว เราก็ต้องเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งศีลสมบัติ สมาธิสมบัติ และปัญญาสมบัติ

คติธรรมที่ปกหลัง (ใน)

เสื่อมจงรู้ตาม เจริญจงรู้ตาม เผลอหรือไม่เผลอจงตามรู้ทุกอาการ จึงจัดว่านักค้นคว้าความรู้เท่าในอาการเกิดๆ ดับๆ ของสิ่งเหล่านี้ด้วยปัญญาเสมอไป นั่นแลจัดว่าเป็นผู้รู้เท่าทันโลก และเรียนโลกจบ จึงจะพบของจริง... ๗ ธันวาคม ๒๕๐๒

 *********

 _/|\_ พุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชา

 

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: ข้อธรรมคำสอน โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
จำนวนข้อความทั้งหมด:  3
1
แสดงความคิดเห็น
metha

Posts: 127 topics
Joined: 9/12/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 5/10/2554 20:11:00 IP : 14.207.136.218 »   
Re: ข้อธรรมคำสอน โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
 

"การเร่งทางด้านจิตตภาวนานั้น แลจะได้เห็นภัยของโลกทั้งมวล..."

เห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นภัย =

กายนี้ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่กายนี้
เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

เวทนาไม่ใช่เรา เราไม่ใช่เวทนานี้
เราไม่มีในเวทนา เวทนาไม่มีในเรา

สัญญาไม่ใช่เรา เราไม่ใช่สัญญา
สัญญาไม่มีในเรา เราไม่มีในสัญญา

สังขารไม่ใช่เรา เราไม่ใช่สังขาร
สังขารไม่มีในเรา เราไม่มีในสังขาร

วิญญาณไม่ใช่เรา เราไม่ใช่วิญญาณ
วิญญาณไม่มีในเรา เราไม่มีในวิญญาณ

ขันธ์ทั้ง๕ ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่ขันธ์ ๕
ขันธ์๕ ไม่มีในเรา เราไม่มีในขันธ์ ๕

พิจารณาแล้ว พิจารณาเล่า...
พิจารณาทุกวัน ทุกๆวัน ทุกๆวัน 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 2  « on 5/10/2554 22:24:00 IP : 124.121.199.83 »   
Re: ข้อธรรมคำสอน โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
 

คุณนิดาคัดธรรมะมาแต่ละตอนล้วนเป็นคติสำคัญ ๆ ทั้งนั้น

เอาไว้สอนใจเจ้าของแต่ละคน ๆ ได้เป็นอย่างดี

อนุโมทนากับคุณนิดาด้วยครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
nidapan

Posts: 6 topics
Joined: 12/8/2554

ความคิดเห็นที่ 3  « on 6/10/2554 9:10:00 IP : 125.24.30.95 »   
Re: ข้อธรรมคำสอน โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
 

_/|\_ ขอขอบพระคุณคุณเมธาและพี่พรสิทธิ์ค่ะ

 

เป็นจริงและถูกตรงที่ต้องสอนใจตนและวัดจิตวัดใจตน ผู้มีโอกาสประสบกับธรรมะใดๆ ในฐานะผู้ดู ผู้อ่าน หรือผู้ฟังก็ดี ผู้นั้นก็ได้ประสบกับธรรมะเครื่องสอนและย้อมใจแล้วในเบื้องนั้นเป็นลำดับๆ ก่อนหลัง แต่เมื่อประสบกับธรรมะนั้นแล้ว จะเกิดผลต่อไปอย่างไร จะเป็นประโยชน์หรือเปล่าประโยชน์ต่อผู้นั้นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องสุดแต่ใจของผู้นั้นเอง ส่วนธรรมะแท้ก็ทรงคุณค่าแห่งธรรมอยู่ในธรรมนั้นเองทุกเมื่อเชื่อกาล

 

นิดาซึ่งยังเป็นเพียง ผู้เดินทาง มาแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ก็ได้อาศัยการตั้งศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่ประเสริฐสูงสุด อาศัยการขวนขวายศึกษาน้อมนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์และครูบาอาจารย์ มาเป็นหลักในการดำเนินความเพียรพยายาม ตามแนวทางแห่งศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยความเพียรพยายามใคร่ครวญเพื่อการเพียรระวังและพยายามแก้ไขในข้อบกพร่องที่ย่อมต้องมีอยู่เป็นธรรมดาสำหรับ ผู้เดินทาง ในขณะเวลาใดๆ เท่าที่ระดับกำลังแห่งสติในตนจะระลึกได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ก็เพื่อพยายามเตรียมตนไว้สำหรับพยาธิธรรม และมรณธรรมที่จะต้องมาถึงกายตนซึ่งพระธรรมท่านว่าไม่อาจยึดถือว่าเป็นกายตน ไม่คราวใดก็คราวหนึ่งอย่างแน่นอนและอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย ... ผู้เดินทาง ก็เป็นเพียง ผู้เดินทาง ที่ยังต้องพยายาม ... จดจ่อ ... และใคร่ครวญ ตลอดการเดินทางตามหลัก และตลอดบริบทรายทางของตน ตราบเท่าที่ยังไม่สิ้นสุดการเดินทาง ... การสอนใจตน วัดจิตวัดใจตน แก้ไขและพัฒนาตน เป็นเครื่องยังประโยชน์ในธรรมปฏิบัติอย่างสำคัญยิ่งโดยเฉพาะแก่ใจของแต่ละบุคคลเอง  _/|\_

 

ที่เว็บแห่งนี้ มีธรรมะดีๆ จากหลากหลายครูบาอาจารย์ ทั้งที่คุณเมธา พี่พรสิทธิ์ และกลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ ตลอดจนเพื่อนสมาชิกนำมาแบ่งปัน จึงเป็นสถานอันควรแก่การเข้ามา ฟังธรรมตามกาล ตามแต่ความใคร่ครวญยินดีและรื่นเริงในธรรมของแต่ละคน การได้มีโอกาสเข้ามาร่วม ฟังธรรมตามกาล และ แบ่งปันธรรมะ ณ เว็บแห่งนี้ในห้วงเวลาหนึ่ง นับว่าเป็นประโยชน์แก่ตนเองสมควรตามธรรมแล้ว นิดาขอขอบพระคุณท่านสมาชิกทุกท่านในกลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำซึ่งเป็นผู้มีความสำคัญยิ่งในการสร้างสรรค์ประโยชน์ของเว็บธรรมะแห่งนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่พรสิทธิ์ในฐานะที่เป็นเสมือนผู้เปิดประตูต้อนรับนิดาเข้ามาสู่ธรรมะหลวงปู่ดู่ดังความเป็นมาที่ได้กล่าวไว้แล้วแต่แรกเข้ามา ณ ที่นี้ ... ขอขอบพระคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านในการแบ่งปันธรรมะ ... นิดาขออนุโมทนากับคุณเมธา พี่พรสิทธิ์ และทุกท่านผู้ใฝ่ใจในธรรม ตลอดจนขออาราธนาคุณแห่งพระไตรสรณาคมณ์โปรดอำนวยความสวัสดีในธรรมแก่ทุกท่านค่ะ _/|\_

 

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 11 Visits: 16,686,990 Today: 222 PageView/Month: 68,518