การปฏิบัติจริงๆ ต้องปฏิบัติเมื่อประสบอารมณ์ มีสติตามรู้เท่าทันอารมณ์
อยู่ตลอดเวลา ไม่เลือกเวลา สถานที่ หรือโอกาส ทุกอิริยาบถเป็นการปฏิบัติ
อยู่ทั้งนั้น
การนั่งสมาธิ นั่งให้ตัวตรง อย่าเงยหน้ามากไป อย่าก้มหน้าเกินไป
เอาขนาดพอดี เหมือนพระพุทธรูปนั่นแหละ มันจึงสว่างไสวดี ครั้นจะเปลี่ยน
อิริยาบถ ก็ให้อดทนจนขีดสุดเสียก่อน ปวดก็ให้ปวดไป อย่าเพิ่งรีบเปลี่ยน
อย่าคิดว่า "บ๊ะ ไม่ไหวแล้ว พักก่อนเถอะน่า" อดทนมันจนปวดถึงขนาดก่อน
พอมันถึงขนาดนั้นแล้วก็ให้ทนต่อไปอีก ทนต่อไปๆ จนมันไม่มีแก่ใจจะว่า
"พุทโธ" เมื่อไม่ว่า "พุทโธ" ก็เอาตรงที่มันเจ็บนั้นแหละมาแทน "อุ๊ย เจ็บ
เจ็บแท้ๆ หนอ" เอาเจ็บนั้นมาเป็นอารมณ์แทน "พุทโธ" ก็ได้ กำหนดให้
ติดต่อกันไปเรื่อยๆ นั่งไปเรื่อย ดูซิว่าเมื่อปวดจนถึงที่สุดแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
พระพุทธเจ้าท่านว่า มันเจ็บเอง มันก็หายเอง ให้มันตายไปก็อย่าเลิก
บางครั้งมันเหงื่อแตกเม็ดโป้งๆ เท่าเม็ดข้าวโพดไหลย้อยมาตามอก ถ้าครั้น
ทำจนมันได้ข้ามเวทนาอัันหนึ่งแล้ว มันก็รู้เรื่องเท่านั้นแหละ ให้ค่อยทำไป
เรื่อยๆ อย่าเร่งรัดตัวเองเกินไป
เวลาในชีวิตของเรามีไม่มาก ให้สอนตัวเอง ไม่ต้องไปพยายามสอนคนอื่น
เดินไปเดินมาก็ให้สอนตัวเอง เอาชนะตัวเอง ไม่ต้องเอาชนะคนอื่น จะยืน
จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะไป จะมา ทุกอย่างจิตกำหนดอยู่เสมอ... ถ้าเราตามดู
จิตเรา มันจะเห็นกิเลส มันจะเห็นจิตของเราสม่ำเสมอ สติจะติดต่อเป็นวงกลม
ปฏิบัติเช่นนี้เร็ว เร็วมาก ปัญญามันจะเกิดขึ้น มันจะเห็นไปตามสภาวะมันเอง
ทุกๆ อย่าง
|