luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........  (Read: 200479 times - Reply: 203 comments)   
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
« Thread Started on 12/8/2555 0:21:00 IP : 180.183.226.116 »
 

คำถาม-คำตอบ (๑)  ปัญหาธรรม โดยหลวงตาพระมหาบัว 

สวัสดีค่ะทุกท่าน พอดีคนแอบอ่าน ไปพบหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ ถาม-ตอบ เป็นหนังสือที่องค์หลวงตาพระมหาบัว

ตอบคำถามที่มีผู้ถามปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 คนแอบอ่านตั้งใจว่า หากมีเวลาว่างจะนำมาพิมพ์ให้อ่าน

เป็นระยะๆ ต่อเนื่องกันไป

 

และเนื่องจากวันนี้เป็น "วันแม่" จึงขอนำเรื่องนี้มาลงในวันแม่ เป็นเรื่องแรกค่ะ

 

ถาม

 
หนูมีปัญหาที่ต้องการกราบรบกวนหลวงตา หนูคิดอยู่นานเหมือนกัน ไม่ค่อยอยากรบกวนหลวงตา

เพราะได้ทราบว่าสุขภาพหลวงตาไม่ค่อยดี แต่สถานการณ์มันเลวลงทุกวัน จึงทำให้หนูตัดสินใจ

เขียนมารบกวน


หนูและพี่สาวดูแลคุณแม่อายุ 84กว่าแล้ว ท่านเป็นโรคอัมพฤกษ์ (ร่างกายซีกขวาไม่ทำงาน)มา2ปีแล้ว

และเราก็ตั้งใจจะดูแลท่านจนกว่าชีวิตท่านจะถึงที่สุด แต่แม่เรียกร้องมากโดยเฉพาะเรื่องกิน คุณแม่

ทานตลอดเวลา เรียกให้ป้อนอาหารแทบทุกครึ่งชั่วโมง และทานครั้งละคำสองคำก็บอกพอ ท่าน

เลือกสรรอาหารจนแทบจะหมดปัญญาสรรมาให้ บ่อยครั้งที่ให้อาหารเคยชอบกลับไม่ทาน จะทานอีกอย่าง

ซึ่งไม่ใช่ว่าจะหาได้ทุกครั้งไปเป็นอย่างนี้มาตลอด 2ปี จนลูกเบื่อหน่าย เมื่อเบื่อมากเข้าก็กลายเป็นโทสะ

ระยะหลังนี้หนูและพี่สาวดุคุณแม่บ่อยซึ่งทุกครั้งที่ดุ หนูก็ไม่สบายใจ เสียใจตนเองทุกครั้ง ตั้งใจว่าจะทำดีๆ

กับท่าน แต่พอเข้าไปหาท่านได้เห็นพฤติกรรมของท่านก็อดโกรธไม่ได้

 

หลวงตาคะ ทำอย่างไรแม่ถึงจะกวนน้อยลง หรือตอนเด็กๆหนูจะตื๊อท่านมาก แต่ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า

หนูเลี้ยงง่ายที่สุดในบรรดาลูกทั้งหมด หรือชาติก่อนๆหนูเคยกวนท่านมาก หนูไม่อยากดุ ไม่อยากโกรธ

แม่เลย หนูกลัวตกนรก และจริงๆหนูก็รู้ว่าแม่มีความทุกข์ และหนูก็พยายามช่วยท่าน แต่ท่านไม่ยอม

รับรู้อะไรเลย นอกจากท่านจะทำตามต้องการของท่านเท่านั้น ท่านไม่ยอมรอคอยอะไรด้วย ถ้าจะทานอะไร

จะต้องนำมาให้ท่านเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ได้ท่านจะโวยวายอยู่นั่นจนกว่าจะได้ตามต้องการ พอได้ทานแต่2คำ

แล้วสั่งให้เอาไปเก็บ อีก10-15นาทีก็จะเรียกทานของอย่างอื่นต่อไป กลางคืนก็ทาน แต่ก่อนเกรงใจ

ไม่เรียกไม่ปลุกเดี๋ยวนี้ท่านเรียกทุกเวลา

 

หลวงตาได้โปรดชี้แนะหนูด้วย หนูยอมรับว่าหนูเป็นลูกที่ไม่ดี ดูพ่อดุแม่(ทั้งๆที่ไม่อยากดุ)หลวงตา

จะดุด่าหนูก็ได้ค่ะขอแต่เพียงช่วยให้แม่กวนน้อยลง เลี้ยงให้ง่ายๆหน่อย หรือให้หนูมีใจเยือกเย็น

อดทนต่อพฤติกรรมของแม่ได้ หนูกราบขอบารมีหลวงตาด้วย สมาธิหนูตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้ความเท่าไหร่

หนูพยายามนำเรื่องแม่มาพิจารณาเหมือนกันก็ยังไม่ได้ผล หนูไม่อยากทำเวรทำกรรมกับพระอรหันต์ของหนู

และหนูก็ตั้งใจที่จะตอบแทนพระคุณท่านจนถึงที่สุด

 

ตอบ


แม่เป็นคนป่วย เราเป็นคนดีปกติ ไม่ควรแสดงกิริยาผิดปกติต่อคนไข้ซึ่งไม่ปกติในธาตุขันธ์และจิตใจ

การขอรับประทานบ่อยและการเอาตามใจตัวเอง นั่นเป็นอาการระบายความทุกข์ทรมานของคนป่วย

แต่ละครั้งแต่ละอาการต่อลูกๆ ผู้เป็นคนดีปกติทางธาตุขันธ์ จึงควรเห็นใจให้ความอบอุ่นแก่ท่าน

ท่านหวังพึ่งลูกๆทุกอย่างทั้งเป็นทั้งทุกข์ทั้งตาย ไม่มีที่พึ่งไม่มีที่เรียกร้องนอกจากลูกๆของตนเท่านั้น

  

คนอื่นก็เป็นคนอื่นแม่ก็ทราบว่าเป็นคนอื่น จึงไม่รบกวนใครๆนอกจากลูกๆของตนเท่านั้น พระคุณของแม่

ล้นฟ้าล้นแผ่นดินที่ควรเทิดทูนสุดหัวใจ แต่คุณของความโมโหโทโสความดุด่านั้นไม่มี นอกจากมี

แต่โทษล้วนๆของมันเท่านั้น จึงไม่ควรเอาความดุมาแข่งพระคุณของแม่ต่อไปอีก ที่เป็นมาแล้วก็ควร

ยอมรับว่าผิดต่อแม่ ความโมโหความดุจะหมอบหัวลง ไม่โผล่หัวขึ้น แผ่พังพานต่อสู้กับผู้มีพระคุณล้นฟ้า

อีกต่อไป อาหารที่หามาให้ท่านไม่ทันหรือหามาไม่ได้ ก็บอกท่านโดยดีว่าไม่ทันไม่ได้ พร้อมกับ

การแสดงกิริยานุ่มนวลต่อท่านสมกับเราเป็นลูกผู้ดีของท่านที่ไว้ใจ ลงใจในเราจนฝังใจชนิดถอนไม่ขึ้น

  

จงเมตตาท่านสุดหัวใจตลอดไป อย่านำยาพิษคือกิริยาไม่ดีและดุด่ามาเป็นคู่แข่งพระคุณท่าน

และเผาลนท่านให้แสลงตาแสลงใจได้ทุกข์เพราะเราอีกต่อไป

 

เรากวนท่านตอนอยู่ในห้อง ตกคลอกออกมา เวลายังเด็กยังเล็กจนรู้เดียงสาและบัดนี้ กวนมาก ยุ่งมาก

วุ่นวายท่านมาก ไม่มีใครยุ่งวุ่นวายเกินลูกๆ ยุ่งวุ่นวายพ่อ – แม่ กรุณาทบทวนให้ละเอียดระหว่างเรา

กับแม่กวนกัน วุ่นวายกันเรื่อยมา ความดุความต่ำที่เคยมีในตัวเรากับแม่จะไม่เป็นคู่แข่งกันอีกต่อไป

จะมีแต่ความเมตตากรุณาอันเป็นธรรมความชุ่มเย็นล้วนๆ ต่อกันจนอวสาน


                                    *******

    

    "สุขสันต์วันแม่ทุกท่าน" ค่ะ 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
จำนวนข้อความทั้งหมด:  88
<
1
2
3
4
5
6
7
8
9
>
แสดงความคิดเห็น
เหลิม

Posts: 2 topics
Joined: 18/5/2555

ความคิดเห็นที่ 41  « on 3/7/2556 8:04:00 IP : 134.204.208.36 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 

อนุโมทนา สาธุ กับพี่คนแอบอ่านครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 42  « on 16/7/2556 12:59:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


เทศนาธรรมขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด

 

"สรุปความลงแล้วว่า จิตที่หาความสุขไม่ได้ก็เพราะความรบกวนตนเองด้วยอารมณ์ที่เป็นข้าศึก เมื่อนำอารมณ์อันเป็นอรรถเป็นธรรมเข้าไปเป็นเครื่องยึดแทนอารมณ์ไม่ดี จิตย่อมมีความสงบเย็นได้  จิตสงบได้มากน้อย ความสุขย่อมเกิดขึ้นมากน้อยตามๆ กัน  จึงไม่มีความสุขใด อยู่ในสถานที่ใด พอที่นำมายึดนำมาอวดโลกหรืออวดผู้หนึ่งผู้ใดได้  นอกจากเสาะแสวงหาจิต ด้วยวิธีการที่ถูกต้องดังที่กล่าวมานี้

การเสาะแสวงหาความสุขทางด้านจิตใจโดยผิดทางนั้น แสวงหาทางไหนก็จะเจอแต่ยาพิษ คว้าน้ำเหลวกันทั้งเพ ถ้าไม่ฝึกหัดอบรมด้วยธรรมหรือนำธรรมเข้าสู่ใจ มีจิตตภาวนาเป็นสำคัญ โดยมีสติเป็นเครื่องบังคับงานที่ทำทุกระยะที่บำเพ็ญ  ไม่ให้จิตเผลอจากงานของตนที่กำลังทำอยู่เวลานั้น

เช่น  กำลังบริกรรมภาวนา ก็ให้มีสติรับทราบกับคำบริกรรมของตนไปทุกระยะไม่ขาดสาย โดยไม่ต้องคาดต้องหมายว่ามรรคผลนิพพานจะเกิดขึ้นได้ในแง่ใด หรือจะเกิดขึ้นในลักษณะใด อันเป็นการก่อกวนงานของตนให้ล้มเหลวไปได้ ให้มีแต่ปัจจุบันธรรม คือ คำบริกรรมกับสติควบคุมกันโดยเฉพาะ สติรู้อยู่กับธรรมบทนั้นๆ เท่านั้น เป็นปัจจุบันอยู่โดยสม่ำเสมอ  ผลจะพึงปรากฏเป็นความสงบสุขขึ้นมาเอง เมื่อใจหาทางเล็ดลอดออกไปหาอารมณ์อันเป็นข้าศึกไม่ได้ เพราะการบังคับบัญชาด้วยสติมีกำลังเพียงพอ

 

ผู้เจริญทางด้านปัญญา ปัญญาเคลื่อนไหวไปไหน สติตามสอดส่องไปด้วย เรื่องความรู้ความฉลาดย่อมจะแตกแขนงออกไปเป็นลำดับลำดาหาประมาณไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าปัญญาแล้วหาความสิ้นสุดไม่ได้ เมื่อเจ้าของมีความสนใจพาคิดอ่านไตร่ตรอง ในสภาวธรรมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกอยู่เสมอด้วยความสนใจ  มีสติเป็นเครื่องกำกับรักษา ความเฉลียวฉลาด ความคล่องแคล่วว่องไว การปลดเปลื้องสิ่งที่เคยยึดถือจะเป็นไปได้โดยลำดับ เพราะอำนาจแห่งปัญญาที่มีสติเป็นเครื่องควบคุมไม่แยกกัน"

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 43  « on 25/7/2556 17:02:00 IP : 180.183.226.191 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 44  « on 25/7/2556 17:03:00 IP : 180.183.226.191 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
ปุถุชน

Posts: 1 topics
Joined: 8/5/2556

ความคิดเห็นที่ 45  « on 26/7/2556 9:29:00 IP : 202.29.26.249 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 

ขอบพระคุณพี่คนแอบอ่านยิ่งครับผม

ขออนุญาตน้อมนำธรรมะ เพื่อทำประจำใจครับผม ความเพียร+สติ(ความไม่ประมาท)=ลูกศิษย์ตถาคต

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 46  « on 29/7/2556 22:13:00 IP : 223.205.238.97 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 47  « on 29/7/2556 22:15:00 IP : 223.205.238.97 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 48  « on 30/7/2556 23:07:00 IP : 27.145.188.119 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 
คนแอบอ่าน Talk:
...
- กล่าวค้าปฏิญาณร่วมรักษาวัตรปฏิบัติ ปฏิปทา และมรดกของหลวงตาฯ ต่อรูปเหมือนองค์หลวงตา


สาธุ สาธุ
ขอบคุณพี่คนแอบบอ่านที่ช่วยประชาสัมพันธ์ครับ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 49  « on 1/8/2556 8:38:00 IP : 110.164.210.134 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


หลวงตามหาบัวเทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

มีข้อบังคับตัวเองวันเข้าพรรษา

(คัดมาเพียงบางส่วนค่ะ)

 

วันนี้เป็นวันประชุม เรียกว่า อาสาฬหะ คือวันประชุมรวม จะเข้าพรรษาวันพรุ่งนี้ วันนี้เป็นวันเพ็ญ เดือน ๘ เป็นวันรวมกันที่จะเข้าพรรษา เมื่อเข้าพรรษาแล้วพระท่านมีข้อวัตรปฏิบัติ ท่านจะสมาทานธุดงค์ข้อใดเพิ่มเติมอีกในธุดงค์ ๑๓ ข้อ  ควรแก่กาลสถานที่เวล่ำเวลาต่างกัน ในพรรษานี้ท่านจะอธิษฐานในธุดงค์ ๑๓ ข้อ ท่านเคยรับอยู่แล้วข้อใด ปฏิบัติอยู่แล้วกับข้อใด แล้วท่านจะสมาทานเพิ่มเติมเข้าอีกในข้อใด เป็นเรื่องของพระที่ท่านมีธุดงควัตร เข้าใจไหม

ธุดงค์ แปลว่า เครื่องกำจัดกิเลสนั่นเอง กำจัดความสกปรกโสมม เรียกว่าธุดงควัตร ข้อวัตรปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสตัวสกปรกโสมม ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ พี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบทั่วหน้ากัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เช้าไปแล้ว ท่านจะไม่รับบิณฑบาตที่ตามมาดังที่เคยปฏิบัติ ท่านจะรับแค่หน้าวัดเท่านั้น ถือเอาเขตหน้าวัดอันเก่านี่นะ ไม่ใช่หน้าวัดอันใหม่ นอกนั้นท่านไม่รับ นี่เป็นธุดงค์ข้อหนึ่งซึ่งต้องปฏิบัติตอนเช้าไปเลย จากนั้นธุดงค์ต่างๆ ปฏิบัติตลอดเวลาก็มี อันตอนเช้าก็บังคับแต่เช้าไปแล้ว นี่พระท่านมีเครื่องบังคับท่าน สำหรับพระผู้มุ่งปฏิบัติต่อศีลต่อธรรมต่อมรรคผลนิพพาน ท่านจะไม่ลดละในการประพฤติปฏิบัติตัวตามร่องรอยแห่งศาสดาคือธรรมและวินัย นี่ละศาสดาของพวกเราทั้งหลาย คือธรรมและวินัย ท่านจะปฏิบัติอย่างเข้มงวดกวดขัน

 

เฉพาะวินัยนั้นท่านปฏิบัติสม่ำเสมอ เคร่งครัดมาตลอดอยู่แล้ว ส่วนธรรมนั้นท่านจะมีข้อเพิ่มเติม เช่น ธุดงค์ ๑๓ นี้เรียกว่าเป็นฝ่ายธรรม ส่วนศีลนั้นท่านปฏิบัติตั้งแต่บวชมาเรียบร้อยแล้ว ท่านปฏิบัติไม่มีการบกพร่องอะไรเลย ส่วนธรรมมีการเพิ่มเติม มีลดลงบ้างเป็นธรรมดา แต่อย่างไรก็ตามในพรรษาเช่นนี้บรรดาพระธุดงคกรรมฐาน ท่านจะเข้มงวดกวดขันในธรรมทั้งหลาย เช่น ธุดงค์ ๑๓ ข้อ เป็นต้น ท่านเข้มงวดกวดขันเพื่อองค์ของท่านนั่นเอง แล้วเราที่เป็นฝ่ายฆราวาสลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ก็ควรจะยึดข้อปฏิบัติในข้อใดก็ตามที่เป็นความสัตย์ความจริงต่อตนเอง เพื่อความดีงามทั้งหลาย

 

เช่น การให้ทาน เราก็เคยให้ทานอยู่แล้วตามปรกตินิสัยของเรา แต่ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ ไม่มีข้อบีบบังคับ เช่นวันไหนว่างหรือไม่ว่างอะไร ก็ไม่มีอะไรบีบบังคับ เป็นไปตามอัธยาศัย แต่เวลาเราเข้าพรรษาแล้วนี้ เช่นอย่างทาน นี่บีบบังคับตัวเองนะ วันหนึ่งจะไม่ให้ขาดการให้ทาน แม้ที่สุดได้ให้ทานพระองค์หนึ่งไปบิณฑบาต ทัพพีหนึ่งหรือข้าวก้อนหนึ่งก็เอา กล้วยลูกหนึ่งสองลูกก็ตามจะไม่ให้ขาดการให้ทาน ในพรรษานี้จะไม่ให้ขาดการให้ทาน ต้องได้ให้ทานทุกวันๆ นี่เรียกว่า ทานบารมีหนึ่ง สัจจะบารมีหนึ่ง มีความสัตย์ความจริงบังคับตนในการให้ทาน นี่ก็ให้พากันจำเอาไว้

 

ที่นี่พวกที่เคยสูบฝิ่นกินกัญชาสุรายาเมา อย่างน้อยในพรรษาที่ไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์กันเลยนั้น อย่างน้อยในพรรษาผู้ต้องการบุญการกุศลเป็นที่ระลึก เป็นหลักใจของตัวเอง ในพรรษานี้จะงดเว้นทั้งหมด สุรายาเมาอะไรเหล่านี้ไม่ใช่พวกยาเสพย์ติด อันนั้นมันเลยไปแล้ว เพียงสุรายาเมาที่กินกันทั่วประเทศไทยเรานี้ ตั้งแต่วันนี้ไปแล้วจะต้องปิดไปเลย ปิดปากไม่ให้มันดื่มสุรา เปิดใจไว้สำหรับรับความสัตย์ความจริงจากศีลจากธรรมปฏิบัติตน สุราจะไม่มาแตะ ตายก็ตายไปเลย ในสามเดือนนี้จะไม่แตะ นี่เรียกว่างดเว้น มีข้อบังคับตัวเองถ้าอยากเป็นคนดี ถ้าไม่อยากเป็นคนดีก็ปล่อยไปเรื่อย เลอะเทอะไปเรื่อย หมดคุณค่า ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งถึงวันตายหาคุณค่าไม่ได้คนๆ นั้น คนที่มีคุณค่ามีสาระพอที่จะได้เกาะได้ยึดบ้างก็ต้องเป็นคนมีคำสัตย์คำจริง เช่นอย่างให้ทานไม่ละ วันหนึ่งแม้ไม่ได้มาก ได้ให้ทานพระองค์หนึ่งก็ยังดี เรียกว่าไม่ขาดการให้ทาน

 

 

การรักษาศีล เอ้า ศีล ๕ เอาให้สมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นข้อบังคับเราอย่างนี้ การดื่มสุรายาเมางดเว้นทุกสิ่งทุกอย่างในบรรดาของมึนเมาเราจะไม่กินเลย นี่ก็เป็นข้อบังคับตัวเราเพื่อเป็นคนดีแต่ละข้อๆ ให้พากันจำเอาไว้ แล้วจะไหว้พระตามกำหนดไว้ จะไหว้พระได้มากน้อยเพียงไรในวันหนึ่งๆ เฉพาะอย่างยิ่งเวลาจะนอนให้ไหว้พระเสียก่อนเรียบร้อยแล้วนั่งภาวนา เอา เพียง ๑๐ นาทีนี้เป็นยังไง ในรอบวันหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมงขอเพียง ๑๐ นาทีเป็นการภาวนา เพื่ออบรมจิตใจเราให้สงบอารมณ์วุ่นวายทั้งหลาย จะได้หรือไม่ได้ ต้องทดสอบเจ้าของ บังคับเจ้าของ ไม่อย่างนั้นหาความดีไม่ได้นะ ไม่ได้มากละ เอาวันหนึ่งเวลาจะหลับนอนขอให้ได้ ๑๐ นาทีก็ยังดีใน ๒๔ ชั่วโมง ชั่วโมงหนึ่ง ๖๐ นาทีขอเพียง ๑๐ นาทีเท่านั้นจะไม่ได้เหรอ จะปล่อยให้กิเลสเอาไปถลุงเสียทั้งหมดเต็ม ๒๔ ชั่วโมงไม่สมควรอย่างยิ่งกับเราเป็นลูกชาวพุทธนะ ควรมีข้อบังคับตนเองนี่อันหนึ่ง ให้ทำจิตตภาวนาให้สงบใจ

(ยังมีต่อค่ะ)

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 50  « on 4/8/2556 17:39:00 IP : 223.206.133.236 »   
Re: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม โดย หลวงตามหาบัว.........
 


ถาม 

               ดิฉันซาบซึ้งในความเมตตาที่พระคุณเจ้าแผ่บารมีไปยังดิฉันชาวจังหวัดสมุทรสงคราม
ดิฉันของกราบเรียนว่าดิฉันได้รับประโยชน์จากหนังสือของพระคุณเจ้ามากมายจนไม่สามารถจะกล่าว
เป็นวาจาอย่างใด จึงจะเหมาะกับความรู้สึกรำลึกถึงพระคุณของพระคุณเจ้า และขอกราบเรียนด้วยว่า
ดิฉันได้เริ่มปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติธรรมที่ดิฉันได้รับความรู้จากหนังสือของพระคุณเจ้าแล้ว และพบ
ปัญหาว่าพอเวลาเริ่มนั่งภาวนาสมาธิ ใจก็สงบได้เล็กน้อยแล้วก็เริ่มคิดถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต วุ่นไปหมด
และดิฉันได้พยายามแก้ไข พยามยามใช้สติคุม ก็ได้ผลคือสงบลงได้บ้าง และค่อยสงบดีกว่าครั้งแรก ๆ
แต่พอเวลาหลังจากนั่งสมาธิแล้ว (ดิฉันนั่งสมาธิในช่วงเวลา 4-5 ทุ่ม) ก็นอนตามปกติและมักจะฝันบ่อยๆ
บางครั้งเป็นฝันน่ากลัว คล้ายคนจะเข้ามาทำร้าย บางครั้งกลัวขนาดละเมอตกใจตื่นและนอนไม่หลับ
ไปนาน ต้องพยายามภาวนาพุทโธ จนหลับไปอีก ดิฉันขอกราบเรียนถามว่าเป็นเพราะเหตุใด ขอพระคุณเจ้า
เมตตาให้ความสว่างแก่ดิฉันผู้เริ่มแรกด้วยเจ้าค่ะ


ตอบ

     ธรรมของพระพุทธเจ้าประกาศกังวานโลกมานาน ถือเอาเป็นความสัจความจริงและเชื่อถือไม่ได้หรือ
ถึงได้ดอดไปเชื่อความฝัน ยึดความฝันมาเป็นไฟเผาตัวโดยถือเอาเป็นความจริง ต้องขออภัยว่าให้
เสียบ้าง คงไม่ร้ายเท่าคำฝันทำพิษกระมัง คำภาวนามีอยู่บริกรรมลงไปผีฝันจะได้จางไปบ้าง เชื่อลมๆ
แล้งๆ อย่างไรกันนี่ ที่พูดว่าได้ประโยชน์จากธรรมของอาจารย์นั้น ได้ตรงไหนกันแน่ ดู ๆ เห็นแต่แย่ลง
เพราะคำฝันหลอกจะให้เป็นบ้าไปได้

                                                           ขรัวตาไร้สาระ สอนลูกศิษย์ไม่ได้เรื่อง

จากหนังสือ คำถาม- คำตอบ ปัญหาธรรม โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน (จัดพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๓๓)

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
<
1
2
3
4
5
6
7
8
9
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 7 Visits: 16,686,700 Today: 1,504 PageView/Month: 68,226