ขอโอกาสพี่คนแอบอ่านลงกระทู้น้อยนะครับ
ในชุมชนสามัคคีที่เคยอยู่ เวลามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นจะรู้กันทั่วตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอย ทุกเรื่องราวจะถ่ายทอดกันเป็นลำดับจนบางเรื่องเป็นเรื่องที่เสริมเกินจริงจากการบอกเล่าของแต่ละคน
ความสัมพันธ์ของครอบครัวข้างบ้านหากอยู่ด้วยความอาทรต่อกันจะเป็นชุมชนสามัคคีมีเรื่องสนุกสนานเล่ากันไม่รู้จบและรักใคร่กันเหมือนญาติพี่น้อง
การย้ายเข้ามาอยู่หรือย้ายไปอยู่ที่อื่นเป็นเรื่องปกติบางคราวมีครอบครัวที่ทะเลาะกันแทบทุกวันเพื่อนบ้านก็เหมือนนั่งทะเลาะไปด้วย
“กี่ครั้งแล้ว รีบๆ ทำให้เสร็จ” เสียงดุเอ็ดตะโร
ผลัวะ เสียงตบตีตามมา
“คิดสู้หรือ กวาดบ้านถูบ้านไป จะรีบไปกินเหล้า”
“.....ยอมแล้ว ทำเดี๋ยวนี้แหละ”
เงียบไปชั่วครู่เพื่อนบ้านต่างเข้าใจว่าเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
“ไม่ยอมแล้ว...” เสียงฮึดสู้ด้วยความเหลืออดดุดันดังออกมาอีกครั้ง
เพื่อนบ้านต่างแหงนมองตามเสียงโครมครามที่อยู่ท้ายซอยด้วยความสงสาร
“สู้หรือ”
ภาพที่เห็นผู้ลงมือใช้มือซ้ายจับข้อมือผู้ถูกกระทำไว้แน่นส่วนมือขวาถือไม้เรียวเล็กๆ ตีไปซ้ายที ขวาทีคนถูกตีก็หลบไป บิดมา ภาพเหมือนเด็กเล็กๆ กำลังหลบหนีไม้เรียว
“โอ๊ยยย” เสียงที่โหยหวนกว่าทุกวันดังลั่น
“อย่าหนี วันนี้....ต๊ายยยย..”
ประตูบ้านเปิดกว้างพร้อมผัวร่างยักษ์ที่หัวแตกเลือดอาบหน้าวิ่งหนีตายออกมาเมียวิ่งกวดไล่ติดๆ เพื่อนบ้านต่างนึกเห็นใจเสียงอุทานแว่วมา
“วันนี้...โดนเมียซ้อมอีกแล้ว”
กรรมนั้นจัดสรรได้ลงตัวเสมอแม้บางอย่างจะดูขัดๆ แปลกตาไปบ้างคงเป็นกรรมเฉพาะตนทั้งถูกกดขี่ใช้งานหนักและเป็นกระสอบทรายอย่างนี้น่าจะเรียกได้ว่า “แพ้ทางกรรม (และ/หรือ แพ้ทางเมีย)”
เก็บมาเล่า
ลุงอุบล
|