ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นหน่อยน่ะครับ.ซึ่งหากข้อความใด อาจไม่เป็นที่ถูกใจเพื่อนสมาชิกบางท่าน ผมต้องขอประทานโทษเป็นอย่างสูง มา ณ.ที่นี้ด้วย.. ในความเป็นองค์หลวงปู่ดู่ กรณีวัตถุมงคล กับ ธรรมะคำสอนขององค์ท่าน ซึ่งถ้าจะว่ากันจริงๆ..ในใจลึกๆ ของหลายๆท่าน (แม้จะได้ชือว่าปฏิบัติธรรมตามคำสอนท่านได้เป็นอย่างดีเยี่ยมแล้วก็ตาม) ผมว่ายังแยกกันค่อนข้างยาก และยังไม่เด็ดขาดเท่าไรนัก แม้ผู้ได้ชื่อเข้าใจธรรมะคำสอน รวมถึงภาคปฏิบัติตามองค์ท่านได้อย่างดีเยี่ยมแล้วก็ตาม แต่ส่วนลึกต้องถามตนเองว่ายังมีเรื่องวัตถุมงคลของท่าน อยู่ในใจหรือเปล่า ยังมีความต้องการหรือไม่ กรณีของเพื่อนสมาชิกที่ถามเรื่องเหรียญเศรษฐี ผมว่าไม่ผิดหรอกครับที่ถาม แต่น่าจะไม่ถูกต้องที่ถามผิดที่ ควรแสวงหาหน้าเวบอื่นๆที่เขามีความชำนาญเฉพาะด้าน ด้วยน้องเค้าอาจยังไม่ทราบว่า ณ ที่นี้เน้นเรื่องธรรมะอันเป็นวัตถุมงคลของแท้ แต่เพียงด้านเดียว อย่างไรก็ดี ในกรณีของศิษย์ใหม่ๆ ที่แรกเริ่มเข้ามาหาหลวงปู่ฯ ด้วยเรื่องวัตถุมงคล ผมว่ายังไม่ควรไปตำหนิ หรือเหมือนกับจะพูดยังไงดี..เหมือนกับติเตียนเขานิดๆว่ายังไม่ถึง ยังไม่เข้าใจแท้ อะไรประมาณนี้..ต้องระวัง "จิต" ตัวนี้..น่ะครับ..จะกลายเป็นจิตที่ "ติดดี" (เก่งกว่า..เหนือกว่า.เข้าใจลึกซึ้งกว่า.ข้าของแท้มากกว่า..กว่าๆๆทั้งหลาย) อยากให้มองในมุมกว้างว่า ยังมีคนใหม่ๆอีกเยอะที่จะเข้ามาในอนาคต ซึ่งแน่นอนหลายๆท่าน คงไม่พ้นเรื่องวัตถุมงคล ซึ่งผมเชื่อว่า เมื่อเขาสนใจมากขึ้น เริ่มจากวัตถุมงคล ต่อมาก็ประวัติท่าน ต่อมาก็ธรรมะคำสอนท่าน อีกหน่อยค่อยๆไป พวกน้องๆเขาคงเข้าใจคำว่า "เอาพระแท้" ดีกว่าเองครับ และคงไม่หยุดเท่านี้ ในอนาคตก็น่าจะมีคนใหม่ๆเข้ามาถามอีก ด้วยเห็นชื่อเวปว่าหลวงปู่ดู่อยู่แล้ว จึงน่าตอบไปตรงๆว่า หน้านี้เราเน้นธรรมะคำสอนเป็นหลัก ส่วนเรื่องวัตถุมงคลเราไม่มีความชำนาญ ต้องขอรบกวนให้สอบถาม ณ หน้าอื่นๆ ที่เขามีความชำนาญเฉพาะด้านดีกว่า.. สำหรับผู้ค้าขายพระก็เช่นกัน เราเหล่าพวกปฏิบัติดีแล้ว ก็อย่าได้ไปพูด หรือแม้เพียงแต่ "คิด" ออกไปในทาง "ปรามาส" พวกเขาเลย เพราะจริงๆเราไม่รู้หรอก ว่าภายนอกเขาสนใจเรื่องวัตถุมงคล สะสมวัตถุมงคล มีความรู้เรื่องพระแท้ พระปลอม แต่ภายในแล้ว เขาอาจเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติได้เห็นผลเก่งกว่าพวกเรามากนัก เพียงแต่เขาไม่ออกตัว และมีความสามารถทั้งสองด้าน เข้าใจลึกซึ่งทั้งทางโลก (วัตถุมงคล) และทางธรรม เพียงแต่เปิดจิตได้กว้างกว่าพวกเรา วางจิตไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป โดยเฉพาะวางจิตให้เป็นผู้ไม่ "ติดดี" ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จิตนี้จะแก้ไขได้ยากกวา"ติดเลว" เสียอีก ซึ่งผมเองก็เคยเจอศิษย์ประเภทนี้แล้ว เรียกว่า "คมในฝัก"จริงๆ ทุกสรรพสิ่งต่างมีอยู่ประจำโลกอยู่แล้ว จงวางจิตถึงพร้อมซึ่งความเป็นกลาง สิ่งทีมีเป็นปกติประจำโลก นั่นคือ ธรรมชาติ เพราะมีผู้ค้าพระ จึงได้มีผู้รับพระ (เก็หรือแท้นั่นอีกกรณีหนึ่ง เป็นเรื่องของคนดี/คนไม่ดี) เพราะมีผู้รับพระ จึงมีการจำหน่าย จ่ายแจก ทั้งมีค่าตอบแทน และไม่มีค่าตอบแทน แต่นั่นคือการกระจายโดยทั่วถึง ซึ่งก็คือ "ธรรมชาติ" ที่มีอยู่แล้วประจำโลกนั่นเอง อย่าแก้ที่โลก แต่ให้แก้ที่จิตเราเอง..วางจิตให้เป็นกลาง ข้อความธรรมมะอันสวยหรู..ต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นเพียง "สัญญาความจำได้หมายรู้" นั่นยังเป็นเพียงของภายนอก ดูเรื่องจิตตนเองมากๆ เรื่องอภิธรรมอย่าไปเรียนมากก็ดี เรียนมากสัญญามาก ปฏิบัติไปช่วงหนึ่ง ส่วนใหญ๋ก็ติดด้วยสัญญามันเก่งกว่าจิต เก่งกว่าสติ เก่งกว่าความสงบ เก่งกว่าสมาธิ และยังนำหน้าปัญญาไปอีก ที่สุดจึงกลายเป็น "ใบลานเปล่า" ห่าความสงบที่แท้จริงไม่ได้ ขอเน้นย้ำว่า "ต้องขอประทานโทษมากๆครับ" มิได้มีเจตนาจะตำหนิท่านผู้ใดเลยหนอ..ด้วยทราบอยู่เต็มอกว่า ท่านเพื่อนสมาชิกทุกท่าน โดยเฉพาะในหน้าเวบนี้ ต่างได้ชื่อว่า "ผู้เป็นศิษย์แท้ "เป็นผู้คิดดี ทำดี เข้าใจธรรมะครูบาอาจารย์ได้โดยถูกต้อง เที่ยงตรงแท้ กระผมขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่ง คนที่เข้าใจธรรมะท่านแท้ๆ หายากได้เต็มทน เพียงแต่แบบว่า อยากเขียน แบบคนโง่ๆงูๆปลาๆ บ้างเท่านั้นล่ะครับ |