มีตัวอย่างเรื่องจริงที่เป็นอุทาหรณ์อย่างดียิ่งให้นักปฏิบัติพึงสังวรระวังไม่ปฏิบัติธรรมเพื่อความได้ ความมี ความเป็น หรืออยากเก่งเหนือผู้อื่น ฯลฯ
ย้อนเวลาไปเมื่อกว่า ๒๐ ปีก่อน มีหนุ่มคนหนึ่ง เป็นคนทำงานเก่ง มีบุคลิกภาพที่มั่นใจตนเอง เสียงดังฟังชัด มีเพื่อนมาก ได้หันเหชีวิตจากที่ชอบเที่ยวกลางคืน ฯลฯ มาสนใจทางวัดวาและทำสมาธิภาวนา
ทำสมาธิครั้งแรก ๆ ก็เกิดปีติเป็นที่อัศจรรย์ จึงทำมากเข้า ๆ ประกอบกับการได้ยินได้ฟังได้อ่านเรื่องราวประสบการณ์ครูบาอาจารย์หลาย ๆ ท่าน เขาก็เลยปฏิบัติเพื่อให้ได้ให้เป็นอย่างครูอาจารย์ได้ ครูอาจารย์เป็น
เขาปฏิบัติกระทั่งเชื่อว่าตนเองได้บรรลุฌาน ๔ เพราะเขาสามารถเข้าสมาธิแล้ว แล้วให้เพื่อน ๆ ตรวจดูลมหายใจ ซึ่งก็ปรากฏว่าแทบไม่มีหรือไม่มี เป็นเวลาหลายสิบนาที
จากนั้น เขาก็เริ่มรู้เห็นวิญญาณตามข้างถนน บางครั้งต้องหยุดรถเพื่อตั้งใจแผ่เมตตาให้จริงจัง
เขาเที่ยวเสาะแสวงหาลูกศิษย์หลวงปูดู่ว่าคนไหนเก่ง เพื่อเรียนรู้และทำให้ได้อย่างนั้นบ้าง
ด้วยความที่จิตของเขาฟูมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกำลังศรัทธาและกำลังแห่งสมาธิ ดังนั้น เขาจึงปรารภที่จะบวชตลอดชีวิต แต่เพื่อน ๆ ที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ก็พากันทัดทานว่ารอดูสักระยะหนึ่งก่อนเถิด ซึ่งก็จริง เพราะผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ อารมณ์อยากบวชของเขาก็คลายลง
ความชำนาญในการทำสมาธิของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่แทนที่จะเป็นคุณกับเขา กลับเป็นโทษกับเขา เพราะแค่หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจหน่อย จิตของเขาก็ดำดิ่งไปเลย ไม่สามารถทำการทำงานได้อย่างปรกติ
เพื่อนคนหนึ่งได้พาเขาไปหาหลวงปู่ดู่เพื่อให้ท่านแก้ไขให้ ซึ่งพอหลวงปู่เห็นเขา ท่านก็รู้ว่าเขามีอาการจิตตกภวังค์โดยที่ตัวเองก็ไม่มีกำลังถอนจิตขึ้นมา ท่านจึงไล่ให้เขาไปนั่งสมาธิที่หอสวดมนต์ จากนั้นหลวงปู่ท่านก็รับแขกตามปรกติ สักพักหนึ่งหลวงปู่ก็จ้องไปที่เขา แล้วตะโกนว่า "เอ้า! ถอนจิตขึ้นมา ถอนจิตขึ้นมา" เขาก็ขยับเนื้อขยับตัว เหมือนมีความรู้เนื้อรู้ตัวหลังจากที่ตกภวังค์ แล้วก็นั่งปฏิบัติต่อ
สักพักหลวงปู่ก็ตะโกนออกมาอีกว่า "เอ้า! ถอนจิตขึ้นมา ถอนจิตขึ้นมา"
เพื่อนที่ไปด้วยจึงรู้ว่า หลวงปู่ต้องการให้เขาฝึกตัวเองให้มีกำลังแห่งสติสัมปชัญญะเพียงพอที่จะถอนจิตตัวเองขึ้นจากภวังค์ได้ด้วยตนเอง
เขาไปหาหลวงปู่ได้เพียงครั้งหรือสองครั้ง จากนั้น หลวงปู่ท่านก็ได้ละสังขาร ทีนี้โรคเก่า (โรคปฏิบัติด้วยตัณหา) กำเริบขึ้นอีก เขาสำคัญตนเป็นโสดา สกิทา อนาคา กระทั่งอรหันต์ในที่สุด จนไม่ฟังคำเตือนของใครทั้งสิ้น (เพราะสำคัญว่าตนมีภูมิจิตภูมิธรรมสูงกว่าใคร ๆ)
เขาได้ปรารภที่จะไปบวช โดยไม่บอกเพื่อน ๆ ที่เป็นศิษย์หลวงปู่ดู่ เพราะเกรงจะถูกทัดทาน สุดท้ายเขาก็ได้การสนับสนุนจากรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งไม่รู้สภาพการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพลอยตื่นเต้นและโมทนากับความตั้งใจในการบวชตลอดชีวิตของเขา โดยพาเขาไปบวชที่วัดสายท่านพระอาจารย์มั่น
พักไว้แค่นี้ก่อน เอาไว้ค่อยมาเขียนต่อวันหลัง ตอนนี้ได้เวลาทำงานแล้ว
|