luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   อีก 2 วัน เป็นวันมาฆบูชา  (Read: 7767 times - Reply: 2 comments)   
พลอยสวย

Posts: 16 topics
Joined: 9/10/2554

อีก 2 วัน เป็นวันมาฆบูชา
« Thread Started on 4/3/2555 23:03:00 IP : 125.26.89.246 »
 

วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับชาวพุทธ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
หากปีใด เป็นอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหนจะเลื่อนไปตรงกับวันเพ็ญเดือน ๔
หลังจากการตรัสรู้ของสัมมาสัมพุทธเจ้า ๙ เดือน ได้มีพระสาวกเดินทางมาเฝ้าพระพุทธองค์พร้อมกันเป็นครั้งแรกโดยมิได้นัดหมาย
เป็นจำนวนถึง ๑ ,๒๕๐ รูป ณ เวฬุวันมหาวิหาร ชานเมืองราชคฤห์ เมืองหลวงของแควันมคธ ประเทศอินเดีย
การประชุมครั้งใหญ่ของพระสาวกนี้เรียกว่า “มหาสันนิบาต”
มีลักษณะพิเศษ ๔ ประการเรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” กล่าวคือ

๑.เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ หรือ มาฆมาส
๒.มีพระสงฆ์มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ๑ ,๒๕๐ รูป
๓.พระสงฆ์เหล่านี้ ล้วนเป็นพระที่บวชโดยพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา ”
๔.พระสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา ๖

พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศหลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนาเสมือนหนึ่งรัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นกฎหมายแม่บทสำคัญสูงสุดของประเทศ
คือทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ ให้พระสาวกถือเป็นหลักปฏิบัติเพื่อนำไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีเนื้อหา ๓ ประการ

๑. อุดมการณ์
พระพุทธศาสนามีจุดหมายสูงสุด ได้แก่ พระนิพพาน คือการดับสูญจากกิเลศ และทุกข์ทั้งปวง
อันจะทำสำเร็จได้ด้วยพึ่งตนพากเพียรด้วยการกระทำของตนเอง ไม่ใช้สำเร็จด้วยการอ้อนวอนร้องขอจากเทพองค์ใด
อุดมการณ์ ๔ ได้แก่
- ความอดทน อดกลั้น คือ ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ
- ความไม่เบียดเบียน คือ งดเว้นจากการทำร้าย หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
- ความสงบ ได้แก่ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
- นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา

๒. หลักการ
หลักคำสอนอันเป็นหัวใจในด้านปฏิบัติของพระพุทธศาสนาคือ
- ไม่ทำความชั่วทั้งปวง
- ทำกุศลธรรมความดีให้ถึงพร้อม
- ทำจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส

๓. วิธีการ
พุทธวิธีในการนำธรรมะสู่จิตใจชาวโลกด้วยเมตตา
- ไม่มีการกล่าวร้ายใคร
- ไม่มีการทำร้ายใคร
- รักษาวินัยเคร่งครัด
- รู้จักประมาณในการกินอาหาร
- อยู่ในที่อันสงบสงัด
- ฝึกฝนพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น ด้วยการบำเพ็ญสมาธิอยู่เสมอ

ประวัติการถือปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย

พิธีทำบุญวันมาฆบูชานี้ ไม่ปรากฎหลักฐานว่ามีมาในสมัยใด อย่างไรก็ตามในหนังสือ "พระราชพิธีสิบสองเดือน"
อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" มีเรื่องราวเกี่ยวกับการประกอบราชกุศลมาฆบูชาไว้ว่า
ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๓๙๔ ในพระบรมมหาราชวังก่อน
โดยมีพิธีพระราชกุศลในเวลาเช้า นมัสการพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวรวิหารและวัดราชประดิษฐ์จำนวน ๓๐ รูป
ฉันภัตตาหารในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เมื่อถึงเวลาค่ำ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออก ทรงจุดธูปเทียนนมัสการ พระสงฆ์ทำวัตรเย็นและสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์
เมื่อสวดจบทรงจุดเทียน ๑,๒๕๐ เล่ม รอบพระอุโบสถ
มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ ๑ กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลี และภาษาไทย
ส่วนเครื่องกัณฑ์ประกอบด้วยจีวรเนื้อดี ๑ ผืน เงิน ๓ ตำลึงและขนมต่างๆ เมื่อเทศนาจบ พระสงฆ์ ๓๐ รูป สวดรับ
ในสมัยรัชกาลที่ ๔ นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปี
แต่มีการยกเว้นบ้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
เนื่องจากบางครั้งตรงกับช่วงเสด็จประพาสก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชาในสถานที่นั้นๆ ขึ้นอีกแห่ง นอกเหนือจากภายในพระบรมมหาราชวัง
ต่อมาการประกอบพิธีมาฆบูชาได้แพร่หลายออกไปภายนอกพระบรมมหาราชวัง และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร
ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการด้วย เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัด เพื่อทำบุญกุศลและประกอกิจกรรมทางศาสนา
นอกจากนี้ในปี พ.ศ ๒๕๔๙ รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย
สรุปได้ความว่า แต่เดิมพิธีวันมาฆบูชา ไม่เคยกระทำมาก่อนในเมืองไทย
เพิ่งจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔
โดยพระองค์ทรงถือแบบอย่างโบราณบัณฑิตที่นิยมว่าวันเพ็ญกลางเดือน๓
เป็นวันประชุมใหญ่ของพระสาวกของพระพุทธเจ้า มีลักษณะน่าอัศจรรย์ ซึ่งได้ถือว่าเอาเหตุนั้นเป็นเครื่องแสดงสักการะบูชา
พิธีมาฆบูชา จึงได้เกิดมีขึ้นในเมืองไทย มีทั้งพิธีสงฆ์ ราชพิธี และพิธีราษฎร์ สืบมาจนถึงทุกวันนี้
พระราชพิธีมีตามวัดพระอารามหลวง เช่นที่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชประดิษฐ์
และปัจจุบันนี้ก็มีวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นต้น

การปฏิบัติพุทธศาสนากิจในวันมาฆบูชา ที่นิยมโดยทั่วไป ก็คือ
-ทำบุญตักบาตร หรือนำภัตตาหารไปถวายพระสงฆ์แล้ว กรวดน้ำ แผ่ส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว
-บริจาค ให้ทาน แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม
-การปล่อยสัตว์ เช่น โค กระบือ นก ปลา เป็นต้น
-ฟังธรรมะ รักษาศิล ๕ ศิล ๘ เป็นต้น
-บำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ – วิปัสสนากัมมัฎฐาน
-นำดอกไม้ธูปเทียนไปเวียนเทียนที่พุทธสถานต่างๆ เช่น ที่วัดต่างๆ ที่ท้องสนามหลวง หรือที่พุทธ มณฑล เป็นต้น
จะพากันนำดอกไม้ ธูปเทียน ไปที่วัดเพื่อชุมนุมกันทำพิธีเวียนเทียน รอบพระอุโบสถ
พร้อมกับพระภิกษุสงฆ์โดยเจ้าอาวาสจะนำว่า นะโม ๓ จบ จากนั้นกล่าวคำ ถวาย ดอกไม้ธูปเทียน ทุกคนว่าตาม
จบแล้วเดิน เวียนขวา ตลอดเวลาให้ระลึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ จนครบ ๓ รอบ
แล้วนำดอกไม้ ธูปเทียนไปปักบูชาตามที่ทางวัด เตรียมไว้ เป็นอันเสร็จพิธี


บทสวดมนต์ในการทำพิธีวันมาฆบูชามีดังนี้
๑. บทสวดมนต์ไหว้พระบูชาพระรัตนตรัย (บทอรหัง สัมมา ฯ)
๒. บทสวดนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า (บทนะโมฯ ๓ จบ)
๓. บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ (บทอิติปิโส ฯ)
๔. บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทองค์ใดพระสัมพุทธ ฯ)
๕. บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณ (บทสวากขาโต ฯ)
๖. บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทธรรมมะคือ คุณากร ฯ)
๗. บทสวดสรรเสริญพระสงฆคุณ (บทสุปฏิปันโน ฯ)
๘. บทสวดสรรเสริญพระสงฆคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (สงฆ์ใดสาวกศาสดา ฯ)
๙. บทสวดพุทธมังคลชยสิทธิคาถา (บทพาหุง ฯ)
๑๐. คำแปลบทสวดพุทธมังคลชยสิทธิคาถา สวดทำนองสรภัญญะ (ปางเมื่อพระองค์ ฯ)
๑๑. บทสวดบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา (อัชชายัง ฯลฯ)
๑๒. คาถาสวดมาฆบูชา (ดูในหนังสือมนต์พิธี )


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: อีก 2 วัน เป็นวันมาฆบูชา
จำนวนข้อความทั้งหมด:  1
1
แสดงความคิดเห็น
yingka

Posts: 50 topics
Joined: 9/11/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 5/3/2555 8:21:00 IP : 124.121.247.39 »   
Re: อีก 2 วัน เป็นวันมาฆบูชา
 

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 5 Visits: 16,686,050 Today: 859 PageView/Month: 67,581