luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา  (Read: 119480 times - Reply: 154 comments)   
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
« Thread Started on 8/8/2555 22:08:00 IP : 203.148.162.151 »
 

เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเปิดกระทู้ใหม่ ๆ เพราะเว็บนี้มี limit การตั้งกระทู้ได้ไม่เกิน ๑,๐๐๐ กระทู้ (= เว็บเศรษฐกิจพอเพียง) ซึ่งปัจจุบันก็เต็มแล้ว เวลาจะตั้งกระทู้ใหม่ ๆ ทีหนึ่งก็ต้องไปหาลบกระทู้เก่า ๆ ออกไปแทน

ดังนั้น จึงอยากรวมคำถาม (ปุจฉา) ใหม่ ๆ ไว้เสียที่เดียว แต่มีข้อแม้ว่าควรพิจารณาว่าเป็นคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของตนเองจะดีมาก หรือถามเพื่อแก้ข้อสงสัยในข้อธรรม 

กระทู้นี้ตั้งใจว่า ให้สมาชิกปุจฉา แล้วคุณอาเมธาเป็นผู้ตอบ

(สำหรับปุจฉา-วิสัชนาที่กระจายอยู่ในกระทู้เก่า ๆ ขณะนี้ผู้ช่วยครูกำลังช่วยกันรวบรวมไว้ภายใต้ heading ที่จะตั้งขึ้นใหม่ ถัดจาก download หนังสือธรรมะ)

ใครจะเริ่มถามเป็นคำถามแรกเอ่ย

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
จำนวนข้อความทั้งหมด:  39
1
2
3
4
>
แสดงความคิดเห็น
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 9/8/2555 8:15:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 

ขอเริ่มจากปัญหาของเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งที่ส่งจดหมายส่วนตัวมาซักถามทางเว็บ ลุงสิทธิ์เห็นว่าอาจตรงกับข้อสงสัยในใจเพื่อนสมาชิกบางท่านด้วย เพื่อประโยชน์ในวงกว้าง จึงขอนำคำถามมาฝากไว้ (registered) ที่กระทู้นี้เป็นคำถามที่ ๑ :

"ผมขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติ 
การปฏิบัติของผม ในขณะนี้ เป็นดังนี้ครับ
   1.เน้นการรักษาใจเป็นหลัก ไม่ให้ขึ้นลง ตามความโกรธ โลภ หลง
   2.ไม่ได้อ่านหรือศึกษาธรรมะเพิ่มเติม เน้นตามข้อ 1
   3.อาศัยหัวข้อธรรมะที่ชอบใจจากการได้ยินได้ฟัง หรือเคยได้อ่าน  และประสบการณ์ที่ได้พบเจอ เช่นความตาย ความทุกข์ของคนทั่วไปๆ มาพิจารณา เพื่อช่วยระงับกิเลสที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ

จึงขอเรียนถามและขอคำแนะนำ: 
   1.การปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น ควรมีสิ่งใดเพิ่มเติม อย่างไรบ้างครับ
   2.ขณะภาวนา ควรยกข้อธรรมะใดๆ มาพิจารณาหรือไม่ หรือจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ควรยกข้อธรรมะมาพิจารณา"

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
หมั่นธรรม

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 2  « on 9/8/2555 13:00:00 IP : 223.206.204.199 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 

ขอเรียนถามครับ

คำ หรือ ประโยค ที่ผุดขึ้นมาในระหว่างการภาวนาซึ่งค่อนข้างจะแจ่มชัด เราจะหมายว่าเป็นธรรมเฉพาะตัว จำเป็นที่เราจะต้องหาความหมายจากการพิจารณาซ้ำ ๆ หรือว่าอาจจะเป็นการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน จากการถามผู้รู้ หรือคำตอบจะมาในรูปใด ที่เอ๊ะ... ใช่เลย.... ซิ่งตรงนี้ต้องมี "ปิติ" ประกอบด้วยหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ

 

 

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
metha

Posts: 127 topics
Joined: 9/12/2552

ความคิดเห็นที่ 3  « on 13/8/2555 0:13:00 IP : 118.173.207.84 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 


คำถามจากคุณ psyu
คุณเมธาครับ ผมเคยเรียนถามเรื่องการพิจารณาไตรลักษณ์
จากอนิจจัง ทุกขัง จนสุดท้ายรวมเหลืออนัตตา
โดยอ้างอิงเรื่อง " แยกจิตจากกาย " ...
ขอรบกวนคุณเมธา ช่วยกรุณาให้คำอธิบายในประเด็นนี้อีกครั้ง

ตอบคุณ psyu
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณpsyu ที่อุตส่าห์ทวงถามกระทู้ที่หายไป
ขอนำมาตอบใหม่ ณ ที่นี้นะครับ

หลวงปู่ดู่ท่านเคยสอนผมไว้ ...
ไตรสรณาคมน์ภาวนาให้ดี สามรวมเป็นหนึ่งได้
ไตรสรณาคมน์เปลี่ยนเป็นไตรลักษณ์ได้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตัวอนัตตานี่แหละตัวเอก
!!!
อธิบายได้ดังนี้
เมื่อเริ่มปฏิบัติภาวนาและกล่าวคำบริกรรม
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ภาวนาเรื่อยไป ใจไม่วอกแวก ตามหลักแล้ว
จิตจะรวมเป็นสมาธิประคองคำบริกรรมได้ไม่ขาดตอน
จนถึงฌานที่ ๑ อารมณ์จิตประกอบด้วยอาการ ๕ อย่าง
คือ วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข เอกัคคตา
ฌานที่ ๒ วิตก วิจารณ์ หายไป เหลือแต่เพียง ปีติ สุข เอกัคคตา
ฌานที่ ๓ ปีติหายไป เหลือแต่เพียง สุขกับเอกัคคตา
สุดท้ายฌานที่ ๔ อารมณ์สุขหายไป เหลือแต่เอกัคคตาจิต
หรือจิตที่มีอารมณ์แน่วแน่มีผู้รู้อยู่เป็นหนึ่งเดียว

ถือว่าขณะนี้จิตได้แยกขาดออกจากกายแล้ว

หลวงปู่เคยอธิบายให้ฟังโดยไม่มีคำบาลีข้างต้นสรุปได้ว่า
เมื่อเราภาวนาไปแล้วจิตเกิดความสงบ
จิตจะค่อยๆแยกจากกาย หากเราอยู่ในท่านั่งสมาธิ
ก็จะเริ่มจากตั้งแต่บั้นเอวลงไปที่เราเริ่มรู้สึกว่า...หายไป
จากนั้นก็จะเป็นช่วงบริเวณคอและตัวจะรู้สึกว่า...หายไป
จนในที่สุดหากภาวนาเรื่อยไป ช่วงศีรษะก็จะ...หายไป
ถึงตรงนี้เมื่อใด ความรู้สึกของกายจะหายไปหมด
ลมหายใจไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด เหมือนไม่หายใจ
หลวงปู่ท่านเรียกว่าจิตเป็นพระเต็มองค์
ตรงนี้แหละ
! ที่ท่านบอกว่า
ไตรสรณาคมน์นี่ รวมสามให้เป็นหนึ่ง

เมื่อจิตถอนตัวจากฌานที่ ๔ แล้วถอยมาพิจารณา
ไตรลักษณ์จะเป็นจิตที่ควรแก่การงานอย่างยิ่ง
พิจารณาไป พิจารณาเรื่อยไป อารมณ์ที่พิจารณาไตรลักษณ์
ก็จะไปรวมที่
สัพเพ ธัมมา อนัตตาติในที่สุด

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบภาพหลวงพ่อเกษมภาพนี้
เป็นภาพที่ท่านมีแต่สบงและอังสะนั่งภาวนากลางแดด
ที่ร้อนจัดในเดือนเมษายน
นี่แหละครับ ภาพต้นแบบของผมในการแยกจิตจากกาย

สังฆัง นะมามิ
ขอกราบหลวงพ่อเกษมด้วยความเคารพเป็นที่สุด
!!!











 

 

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
psyu

Posts: 0 topics
Joined: 16/4/2555

ความคิดเห็นที่ 4  « on 14/8/2555 20:44:00 IP : 61.90.75.38 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 
metha Talk:

บางคนสงสัยต่อว่าต้องทำฌาน๔ก่อน
จึงค่อยพิจารณาถึงจะเป็นผลเท่านั้นหรือ
ขอตอบว่า...ไม่ใช่
เมื่อทำความเห็นถูกต้องตรงธรรมแล้ว
ให้ค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อย ค่อยพิจารณาไป
มีสมาธิเท่าใด ก็พิจารณาไปเท่านั้นก่อน



คุณเมธาครับ

เมื่อเราภาวนาเรื่อยไป จนรู้สึกได้ว่า จิตรวมเป็นสมาธิประคองคำบริกรรมได้ไม่ขาดตอน แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติให้เกิดความก้าวหน้าตามลำดับจากฌาน 1 ไปจนถึงฌาน 4 ( กล่าวตามตรง น่าจะพูดว่า ตัวเองก็ไม่ทราบว่า ถึงระดับใดแล้ว ) จะก้าวเข้าสู่การพิจารณาบทธรรม เช่น ไตรลักษณ์ ขันธ์ 5 ได้เลยหรือไม่

เพราะจากที่เริ่มปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้น ตามที่ปรากฏอยู่ในหัวข้อ " กรรมฐานที่หลวงปู่สอน " ในเวปนี้มาได้หลายเดือนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง คือ เมื่อรู้สึกว่าจิตเริ่มเป็นสมาธิในระดับหนึ่งแล้ว ก็จะตามด้วยการพิจารณาธรรม รู้สึกว่า จิตเกิดความสงบเย็นได้ดีกว่า การที่จะพยายามรวมจิตให้เป็นสมาธิด้วยคำบริกรรมแต่เพียงลำพัง และเมื่อจิตที่พิจารณาธรรม เริ่มขาดกำลังหรือวอกแวก ก็จะกลับมาบริกรรมภาวนาเพื่อสร้างสมาธิอีก 

จึงไม่ทราบว่า ปฏิบัติถูกต้องหรือไม่อย่างไร รบกวนชี้แนะด้วยครับ

ขอขอบพระคุณ 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
metha

Posts: 127 topics
Joined: 9/12/2552

ความคิดเห็นที่ 5  « on 15/8/2555 0:19:00 IP : 27.130.9.186 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 

คุณpsyu ปฏิบัติได้ถูกทางแล้ว
ทำให้มาก เจริญให้มาก
จะค่อยๆเข้าใจขึ้นเองตามลำดับ
จากผลที่ได้ปฏิบัติครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
metha

Posts: 127 topics
Joined: 9/12/2552

ความคิดเห็นที่ 6  « on 16/8/2555 9:54:00 IP : 119.160.210.74 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 
สิทธิ์ Talk:

ขอเริ่มจากปัญหาของเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งที่ส่งจดหมายส่วนตัวมาซักถามทางเว็บ ลุงสิทธิ์เห็นว่าอาจตรงกับข้อสงสัยในใจเพื่อนสมาชิกบางท่านด้วย เพื่อประโยชน์ในวงกว้าง จึงขอนำคำถามมาฝากไว้ (registered) ที่กระทู้นี้เป็นคำถามที่ ๑ :

"ผมขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติ 
การปฏิบัติของผม ในขณะนี้ เป็นดังนี้ครับ
   1.เน้นการรักษาใจเป็นหลัก ไม่ให้ขึ้นลง ตามความโกรธ โลภ หลง
   2.ไม่ได้อ่านหรือศึกษาธรรมะเพิ่มเติม เน้นตามข้อ 1
   3.อาศัยหัวข้อธรรมะที่ชอบใจจากการได้ยินได้ฟัง หรือเคยได้อ่าน  และประสบการณ์ที่ได้พบเจอ เช่นความตาย ความทุกข์ของคนทั่วไปๆ มาพิจารณา เพื่อช่วยระงับกิเลสที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ

จึงขอเรียนถามและขอคำแนะนำ: 
   1.การปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น ควรมีสิ่งใดเพิ่มเติม อย่างไรบ้างครับ
   2.ขณะภาวนา ควรยกข้อธรรมะใดๆ มาพิจารณาหรือไม่ หรือจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ควรยกข้อธรรมะมาพิจารณา"



ทราบว่าพี่สิทธิ์ได้ตอบคำถามนี้เรียบร้อยแล้วทาง email
จึงมิได้ตอบคำถามนี้อีก เจ้าของคำถามนำคำตอบไปพิจารณา
ปฏิบัติแล้วเป็นผลอย่างไร นำมาเล่าให้เพื่อนๆฟังก็ดีเหมือนกัน

พี่สิทธิ์ขอให้ช่วยตอบคำถามนี้อีกครั้ง
จึงขอโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนๆนะครับ

Q: การปฏิบัติที่ผ่านมาเน้นการรักษาใจเป็นหลัก
    ไม่ให้ขึ้นลงตามโกรธโลภหลง ควรเพิ่มอะไรอย่างไร
A: เป็นวิธีที่ถูกแล้วครับ ในชีวิตประจำวัน
    หลวงปู่สอนให้ดูจิตและรักษาจิต    
    การจะรักษาจิตให้ได้ดีจริงๆ นั้น
    อย่าเป็นฝ่ายตั้งรับเพียงฝ่ายเดียว
    เมื่อหลักเริ่มมั่นคงดี ให้มีโอกาสได้รุกข้าศึกบ้าง
    อย่าปล่อยให้กิเลสชกเพียงฝ่ายเดียว

Q: ไม่ได้อ่านหรือศึกษาธรรมะเพิ่มเติม เน้นตามข้อ1.
A: พระพุทธเจ้าวางแนวไว้แล้ว ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
    ควรทำให้ครบ ปริยัตินั้นมิใช่เพียงเรื่อง "อ่าน" อย่างเดียว
    การสอบถามรับฟังจากผู้รู้ก็ใช่ การได้ "เห็น" ก็ใช่อีก
    อ่านหรือไม่อ่าน จึงไม่สำคัญเท่ากับเรามีปริยัติตามแบบที่ท่านสอน
    หรือไม่ ภาษาไทยใช้คำว่า "ขวนขวาย" เดี๋ยวนี้หลายองค์กร
    ก็ต้องการ "คนทำงาน" ที่มีคุณสมบัติแบบนี้ อย่างปูนซิเมนต์ไทย
    หรือ SCG ยังใช้คำว่า "Eager To Learn" เลย
    ผมชอบคำสมัยก่อนว่า "รู้น้อยพลอยรำคาญ รู้มากจะยากนาน"
    ศึกษาให้ "รู้พอดีๆ" ก็ดีนะครับ

Q: ขณะภาวนาควรยกข้อธรรมใดมาพิจารณา
A: ข้อธรรมที่ควรยกมาพิจารณาคือ "ธรรมที่สัมผัสใจ"ในขณะนั้น
    หากตอบว่าไม่มี ควรทำอย่างไร ให้ดูที่คำตอบที่ได้ตอบคุณsupa
    ไว้อย่างละเอียดในกระทู้นี้ได้ครับ

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ควรยกข้อธรรมะมาพิจารณา
A: เวลาที่เราจะไปกินข้าวหรือรับประทานอาหาร
    จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลากินข้าว
    จะรู้ได้อย่างไรว่าควรหยุดกินได้แล้ว
    "ใจ" เราจะบอกเองว่าหิวนะ หรือว่าอิ่มแล้ว
    ไม่ต้องกังวลใดๆในเรื่องนี้
     * แต่ก่อนอื่นต้องบอกตัวเองว่า เราภาวนา
     ไม่ได้มานั่งสมาธิหลับตาหาความสงบเพียงอย่างเดียว
     หากแต่ต้องการแก้ไขนิสัยหรือสิ่งไม่ดีในตัวออกไปด้วยเป็นสำคัญ
     ดังนั้น ในแต่ละวันๆจึงต้องพิจารณาทบทวนกายวาจาใจอยู่เสมอ
     ซึ่งสามารถทำได้ทั้งนอกเวลาที่ทำสมาธิและในเวลาทำสมาธิ

     หวังว่าคำตอบคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ

     เมธา 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
วิษณุ

Posts: 0 topics
Joined: 1/12/2554

ความคิดเห็นที่ 7  « on 21/8/2555 9:48:00 IP : 182.53.96.218 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 

สาธุ  สาธุ  สาธุ  อนุโมทนาครับครูเมธา ครูพรสิทธิ์ และเพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
พ่อน้องพลอยสวย

Posts: 1 topics
Joined: 21/8/2555

ความคิดเห็นที่ 8  « on 27/8/2555 6:51:00 IP : 101.51.92.71 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 

2 สัปดาห์มาแล้วที่ผมมิสามารถปฏิบัติได้เลยเนื่องจากปัญหาหลายๆด้าน

อาศัยเอาการตามดูจิตที่ฟุ้งซ่าน / หงุดหงิด / เศร้า / เป็นอารมณ์แทน

ตามทันบ้างไม่ทันบ้าง 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
metha

Posts: 127 topics
Joined: 9/12/2552

ความคิดเห็นที่ 9  « on 27/8/2555 7:39:00 IP : 119.160.210.74 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 
พ่อน้องพลอยสวย Talk:

2 สัปดาห์มาแล้วที่ผมมิสามารถปฏิบัติได้เลยเนื่องจากปัญหาหลายๆด้าน

อาศัยเอาการตามดูจิตที่ฟุ้งซ่าน / หงุดหงิด / เศร้า / เป็นอารมณ์แทน

ตามทันบ้างไม่ทันบ้าง 



พ่อน้องพลอยครับ

สองสัปดาห์ผ่านไปแล้ว ก็แล้วกันไป จบไปแล้ว
บางคนอาจมีกิจธุระ มีหน้าที่การงาน เรื่องเจ็บไข้ไม่สบาย ฯลฯ
บ้างก็เป็นเรื่องของตัว บ้างเป็นเรื่องคนอื่น พิจารณาดูให้ดี
เรื่องของตัวเองแท้จริงแล้วมีไม่มากเลย หลวงปู่เคยว่าไว้อย่างนี้

การปฏิบัตินั้นให้อยู่กับปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ นาทีนี้
ขอให้เข้าใจและบอกตัวเองบ่อยๆ ว่า
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
เป็นทั้งที่พึ่ง+ที่ระลึก
เป็นที่พึ่ง ฝากเป็นฝากตายได้จริงๆ ลองพิจารณาดู
ส่วนคำว่าที่ระลึกนั้น ระลึกขึ้นมาครั้งใด
ระลึกด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง
โกรธโลภหลง ก็หายไปจากใจในวินาทีนั้นเช่นกัน
หลวงปู่ท่านสอนผมไว้อย่างนี้
หากได้ "หลักของใจ" ที่ว่าดังนี้แล้ว
จะไม่พูดไม่บ่นเลยว่า วันนี้นั่งสมาธิไม่ดี
สองวันนี้ใจไม่สงบเลย อาทิตย์ที่ผ่านมาจิตทำไมวุ่นวาย ฯลฯ
จะมีก็แต่ว่า ทำเมื่อใดก็ดีเมื่อนั้น ไม่ทำก็ไม่มีและไม่ดี

อีกประการหนึ่งคือเรื่อง "การตามดูจิต" พระพุทธเจ้าก็ดี
หลวงปู่ก็ดี ท่านไม่ได้สอนเพียงแค่ตามดูจิต
ท่านสอนให้ - แก้ไขจิต รักษาจิต บำรุงจิต พร้อมกันด้วย
หลักฐานมีปรากฏในมรรค๘ เรื่อง ความเพียรชอบ เป็นต้น
สิ่งไม่ดีที่มีในจิต ให้แก้ไขออกไป
Let it go and get it out.
สิ่งไม่ดีที่ยังไม่เกิดขึ้น ให้ระวังป้องกัน
สิ่งดีดี ที่มีในจิต ให้รักษาไว้ให้มั่นคง
สิ่งดีดี ที่ยังไม่มีในจิต ให้ขวนขวายหามา

น้องรชภ น้องต้นตรง เคยถามเรื่อง "หลักของใจ" ไว้เช่นกัน
วันนี้ขอโอกาสเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง หวังว่าพ่อน้องพลอย และ รชภ
คงได้ "หลักของใจ" ไว้เป็นเครื่องอยู่ต่อไป



 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
yingka

Posts: 50 topics
Joined: 9/11/2552

ความคิดเห็นที่ 10  « on 27/8/2555 15:01:00 IP : 124.120.192.108 »   
Re: รวมปุจฉาเพื่อการวิสัชนา
 
metha Talk:

.....
การปฏิบัตินั้นให้อยู่กับปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ นาทีนี้
ขอให้เข้าใจและบอกตัวเองบ่อยๆ ว่า
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
เป็นทั้งที่พึ่ง+ที่ระลึก
เป็นที่พึ่ง ฝากเป็นฝากตายได้จริงๆ ลองพิจารณาดู
ส่วนคำว่าที่ระลึกนั้น ระลึกขึ้นมาครั้งใด
ระลึกด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง
โกรธโลภหลง ก็หายไปจากใจในวินาทีนั้นเช่นกัน
หลวงปู่ท่านสอนผมไว้อย่างนี้
หากได้ "หลักของใจ" ที่ว่าดังนี้แล้ว
จะไม่พูดไม่บ่นเลยว่า วันนี้นั่งสมาธิไม่ดี
สองวันนี้ใจไม่สงบเลย อาทิตย์ที่ผ่านมาจิตทำไมวุ่นวาย ฯลฯ
จะมีก็แต่ว่า ทำเมื่อใดก็ดีเมื่อนั้น ไม่ทำก็ไม่มีและไม่ดี

อีกประการหนึ่งคือเรื่อง "การตามดูจิต" พระพุทธเจ้าก็ดี
หลวงปู่ก็ดี ท่านไม่ได้สอนเพียงแค่ตามดูจิต
ท่านสอนให้ - แก้ไขจิต รักษาจิต บำรุงจิต พร้อมกันด้วย
หลักฐานมีปรากฏในมรรค๘ เรื่อง ความเพียรชอบ เป็นต้น
สิ่งไม่ดีที่มีในจิต ให้แก้ไขออกไป
Let it go and get it out.
สิ่งไม่ดีที่ยังไม่เกิดขึ้น ให้ระวังป้องกัน
สิ่งดีดี ที่มีในจิต ให้รักษาไว้ให้มั่นคง
สิ่งดีดี ที่ยังไม่มีในจิต ให้ขวนขวายหามา.....



สาธุค่ะ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
2
3
4
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 9 Visits: 16,673,960 Today: 687 PageView/Month: 55,329