ขออนุญาตนำภาพพระธาตุของหลวงปู่ มาเผยแพร่เพื่อเจริญศรัทธาแก่พี่น้องสมาชิกทุกท่านครับ นึกย้อนไปครั้งที่ได้อังคารธาตุมาใจก็คิดอยากจะได้เป็นชิ้นอัฐิ แต่แล้วก็มีคำพูดผุดขึ้นในใจว่า "ตั้งใจปฏิบัติไป เดี๋ยวก็จะกลายเป็น(อัฐิ)เอง" ผมก็เชื่อคำพูดนั้นมาตลอด ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะกลับไปเปิดผอบที่บรรจุอังคารธาตุของหลวงปู่ด้วยความศรัทธาและปีติ และถือเป็นสังฆานุสติอย่างหนึ่ง จนระยะหลังสังเกตพบว่ามีชิ้นอัฐิปนอยู่ในอังคารธาตุที่เป็นผงเถ้านั้น ผมจึงแยกออกมาใส่ผอบ อีกใบหนึ่ง ซึ่งมีสัณฐานค่อนข้างมนจำนวน 3 องค์ (ด้านล่างของภาพ)

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง  สรณัง คัจฉามิ

อังคารธาตุ

ขอบคุณและโมทนากับคุณเด็กข้างวัดด้วยครับ เชื่อว่าด้วยความดีที่บำเพ็ญอยู่เป็นกิจวัตร คงจะเป็นปัจจัยให้ได้เห็นอัฐิธาตุใสๆ ในไม่ช้าครับ

ขอบคุณครับพี่สิทธิ์ ผมมีความรู้สึกเหมือนหลวงปู่ท่านเฝ้าดูอยู่ เมื่อใดที่เรารู้เท่าทันความอยากและคลายความอยากลงเสียได้ท่านก็จะให้รางวัลเพื่อเป็นกำลังใจ 

ความอยากของคนไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆครับ
เริ่มแรกอยากอัฐิไว้บูชา
แต่ได้อังคารธาตุมา
ครั้นได้อังคารธาตุมา
ใจก็นึกอยากได้อัฐิที่เป็นชิ้นๆขึ้นมาอีก
ครั้นพออัฐิปรากฎในอังคารธาตุเป็นชิ้น
ใจก็นึกอยากได้พระธาตุใสๆขึ้นมาอีก
แต่จากกำลังใจที่หลวงปู่มอบให้
ทำให้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ
เราต้องออกแรง ต้องแลกกัน แลกด้วยการคลายความอยากในเรื่องนั้นๆเสียก่อน 

 

นำรูปอัฐิของหลวงปู่ส่วนที่แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้วมาให้ชมอีกครั้ง

อันที่จริง เรื่องของอัฐิธาตุครูบาอาจารย์นั้นก็มีเรื่องน่าพิจารณาอยู่ไม่น้อย

ค่านิยมอันหนึ่ง ที่เกิดขึ้นเฉพาะในสังคมพุทธบ้านเรา นั่นก็คือ การให้ความสำคัญมั่นหมายกับเรื่องอัฐิธาตุ เวลาที่ครูบาอาจารย์ละสังขาร บรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็มักลุ้นกันว่าอัฐิธาตุของครูบาอาจารย์เราจะกลายเป็นพระธาตุให้เห็นไหม เพราะจะเป็นความภาคภูมิใจว่าครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพนับถือนั้นเป็นผู้หมดกิเลสแล้ว

ซึ่งทำให้มองข้ามสิ่งสำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ "ธรรมที่ท่านสั่งสอน"

ด้วยเหตุที่การกลายสภาพของอัฐิไปเป็นพระธาตุนั้นอาจใช้เวลามากหรือน้อยแตกต่างกัน บางท่านอาจใช้เวลานับสิบ ๆ ปี หรือบางท่านก็เป็นเพียงความคาดหวังของลูกศิษย์ และลักษณะของพระธาตุก็เป็นไปได้หลากหลายแบบ จนบางทียากจะตัดสิน เพราะเป็นเรื่องเกินวิสัย

ด้วยเหตุแห่งการให้ความสำคัญมั่นหมายในเรื่องพระธาตุ กระบวนการหลอกลวงจึงเกิดขึ้นได้ เช่น เอาเม็ดพลาสติกหรือเม็ดปุ๋ยมาหลอกว่าเป็นพระธาตุ (พระธาตุแบบนี้จะเปลี่ยนสีได้ เพราะมันเป็นคุณสมบัติของเม็ดพลาสติกที่จะต้องดูดซับความชื้น)  บ้างเอาเศษกระจก บ้างเอาหินตามถ้ำมาหลอก บ้างเอาก้อนกรวดไปผัดในกระทะเพื่อให้ขึ้นเงาและลดความถ่วงจำเพาะเพื่อให้สามารถลอยน้ำได้ (จะได้สอดคล้องต้องตามตำรา)

ดังนั้น สานุศิษย์จึงควรมุ่งที่ตัวข้อธรรมคำสอน ตลอดจนปฏิปทาที่ครูบาอาจารย์ฝากไว้ ยิ่งกว่าเรื่องของอัฐิธาตุ หรือใช้เรื่องอัฐิธาตุมาเสริมความเชื่อมั่นในข้อธรรมคำสอนและปฏิปทาของครูบาอาจารย์ให้แนบแน่นขึ้นไปอย่างที่น้องเด็กข้างวัดพาทำอยู่นี้ อะไร ๆ ก็ม้วนลงไปที่ไตรสรณคมน์ อะไร ๆ ก็ม้วนลงไตรลักษณ์

ธาตุดินที่สกปรกนี้ก็จะถูกกลั่นถูกฟอกให้กลายเป็นพระธาตุเข้าสักวันหนึ่ง
เรียกว่า มุ่งสนใจที่ตัวเหตุยิ่งกว่าตัวผล แล้วผลที่พึงปรารถนาก็จะตามมาเอง

พิจารณา มหาพิจารณา

สาธุครับ

อะหังวันทามิ ทูระโต
อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ