คำว่า "สัมภเวสี" นี้เป็นคำอีกคำหนึ่งซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า
หมายถึง จิตวิญญาณที่เร่ร่อนไปมายังหาที่เกิดใหม่ไม่ได้
แท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้น หรือว่ามีความหมายอย่างอื่น

หลวงปู่เคยเล่าเรื่องนี้หรือไม่
เกี่ยวข้องกับ ผีปากทางเข้าวัดสะแก อย่างไร
มาคอยติดตามดูกัน ...

ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน
พบว่าเกิดอุบัติเหตุรวม 2,992 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 322 ราย
ลดลงจากปี 2556 เพียง 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บถึง 3,225 ราย
หากดูสถิติย้อนหลัง 2-3 ปี ที่ผ่านมา จะพบว่ามีผู้เสียชีวิต
ในช่วง 7 วันอันตราย มากกว่า 300 รายทุกปี

บริเวณริมถนนสายเอเชีย ตรงปากทางเข้าวัดสะแก
นับเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีสถิติเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีทั้ง
ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย และยิ่งในอดีตช่วง 20 กว่าปีก่อน
หากจะเดินทางจากในเมืองอยุธยามาวัดสะแก ก็จะมีจุดตัด
จากถนนในเมืองมาออกถนนใหญ่สายเอเชีย เป็นจุดที่มีคนตาย
มากอยู่เช่นกัน

วันหนึ่งขณะที่หลวงปู่กำลังคุยธรรมะให้พวกเราที่เดินทางมา
จากกรุงเทพฯ ฟังกัน ท่านสอนเรื่องการภาวนาและเล่าเรื่องนี้ไว้ว่า

หลวงปู่: ยืนเดินนั่งนอน ให้หมั่นคุมจิตเข้าไว้
           จะไปไหนมาไหน ให้นึกถึงพระไว้
           พระท่านช่วยเราได้
           บางทีผีมันแกล้งจับรถชนกัน

ศิษย์:    มีด้วยหรือครับ ผีจับรถชนกัน

หลวงปู่: บางทีเขาแกล้งบังคนขับไม่ให้มองเห็น

ศิษย์:    เห็นอีกที ก็ชนแล้วนะครับ

หลวงปู่: มีคนที่มองเห็นเขาบอกว่าที่ปากทางเข้าวัด
           ถนนใหญ่นี่ มีผีพวกนี้อยู่หลายตัว
           แกลองขอหลวงพ่อทวดพาไปดูสิ

ศิษย์:    ตอนนี้เลยนะครับ (หลับตาขอบารมีพระ
           และหลวงปู่ทวดตามที่หลวงปู่ท่านบอก)

หลวงปู่: เป็นไงเห็นผีแล้วใช่ไหม?

ศิษย์:    เห็นนั่งยองๆ ริมถนนกลุ่มนึงครับ มี 4-5 ตัว

หลวงปู่: ขอหลวงพ่อทวดกรวดน้ำให้บุญเขาไปเกิด

ศิษย์:    น้อมระลึกตามท่าน เสร็จแล้วลืมตาจึงถามท่านว่า
           สว่างหายไปหลายตัว แต่ทำไมยังมีเหลืออยู่ครับ

หลวงปู่: เอ้านั่น มันไม่เอาบุญ ไม่รู้จักบุญ
           บางทีต้องให้หลายครั้ง หลายรอบ

ศิษย์:    นิมนต์หลวงพ่อช่วยสงเคราะห์ด้วย

หลวงปู่: ขอบารมีพระพุทธเจ้า หลวงพ่อทวด ให้ท่านช่วย
           ช่วยกันไป เอาบุญ ...    

(บันทึกโดย คุณเมธา พรพิพัฒน์ไพศาล)

สาธุ...น้อมกราบหลวงปู่ และโมทนากับศิษย์ท่านนั้นด้วยค่ะ

สอบถาม เพิ่มเติมครับ   "หลวงปู่: บางทีเขาแกล้งบังคนขับไม่ให้มองเห็น"

  1. อยากรู้ว่า คนที่ตาย เพราะอุบัติเหตุ ทำมัย ถึงต้องแกล้งให้คนอื่นที่ผ่านมา ทำอย่างนี้ ก็เท่ากับว่า เพิ่มบาปให้กับตนเอง  ผมเคยรับฟังมาว่า ถ้าแถวใหนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว ก็มักจะมี อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก จนกระทั่งต้องมีการ สร้างศาลเพียงตา เหตุการณ์จึงสงบ

   2. เคยฟัง มาว่า คนที่ตายเพราะอุบัติเหตุ พอถึงเวลา ที่ตนได้รับอุบัติเหตุ ก็จะต้อง เจอเหตุการณ์ หรือรับรู้ ความทรมาณนี้ จนกว่า จะหมดกรรม จริงหรือเปล่าครับ

ตอบคุณ weeravit
1. ถามว่าทำไมผีถึงแกล้งคนอื่น ทำให้เพิ่มบาปตนเอง
ตอบว่าผีก็ไปจากคน สมัยเป็นคนพาล ตายไปก็เป็นผีเกเร
ไม่ต้องพูดถึงบาปบุญคุณโทษ เพราะไม่สนใจไม่รู้จัก
ถามว่า แถวไหนมีอุบัติเหตุเกิดแล้วมักเกิดบ่อย ตอบเป็น
สองกรณี คือ เพราะแถวนั้น ถนนตรงนั้น สร้างไม่ดีหรือไม่มี
สัญญาณไฟจราจรหรือป้ายไม่ชัดเจน ก็เกิดเหตุบ่อย ถ้าไม่แก้ไข
สองก็อาจมีผีประเภทที่หลวงปู่พาไปดูเยอะ โอกาสที่ผู้สัญจร
ไปมาจะมาแจ็คพอตเจอผีเกเร แกล้งเอาก็มีสูง หลวงปู่ท่านจึง
เตือนไว้ คุณ weeravit คงเคยไปโรงพยาบาล บางทีเราไม่เป็นอะไร
แต่ไปติดเชื้อโรคหวัดหรืออื่นๆกลับมาได้ เพราะเป็นที่สุ่มเสี่ยงใช่ไหม?

2. พระพุทธเจ้าสอนว่า ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม
ตนจะต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น ชีวิตของคนคนหนึ่ง
ไม่ได้มีเรื่องกรรมที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว มีหลายกรรม
มีหลายเรื่องซ้อนกันไปมา อาจเกิดเหตุการณ์ที่ใช่หรือไม่ใช่ตามที่
ถามมา แต่ขอให้เชื่อเรื่องกรรมเป็นหลักใหญ่ ๆ ตั้งใจทำความดีไป

ขอบคุณครับ  ต้องพยามดูจิต รักษาจิต เข้าไว้

ตอบ อ. watchara เรื่องสัตว์เลี้ยง
หลวงปู่ท่านสอนไว้
ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็มีจิตหนึ่งเหมือนกัน
การแผ่เมตตาตอนที่ยังมีชีวิต
ท่านสอนให้ทำทุกวันทั้งคนที่รักและคนที่ชัง
ท่านบอกว่าคนที่โกรธเรา เราแผ่ให้ตัวในของเขา
ทำบ่อยเข้าๆ จากหนักก็เป็นเบาได้

ส่วนกรณีคนและสัตว์ที่ตายไปแล้ว
ก็ให้ขอบารมีพระกรวดน้ำอุทิศบุญกุศลให้เขา
หากเราทำเป็นก็จะเห็นว่าหลวงปู่ท่านช่วยทุกครั้ง
เช่นเห็นสุนัขตายข้างถนน ก็ขอหลวงปู่สงเคราะห์
บางครั้งก็จะเห็นเขามารับบุญ
จนกายทิพย์ของเขาสว่างขึ้นก่อนที่จะไปสู่มภพภูมิใหม่
ตามที่หลวงปู่ช่วย ซึ้งแต่ละรายนี้ ก็แตกต่างกัน
สุดแต่กรรมเดิมที่เขาเหล่านั้นได้ทำไว้ด้วย

ตอบพี่ คนแถวหลัง เรื่องผีหาตัวตายตัวแทนว่า
หลวงปู่ให้นึกถึงเรื่อง "กรรม" เป็นใหญ่
ถึงผีจะอยากมี หรือไม่อยากมี ตัวตายตัวแทน
ก็ต้องเป็นไปตามหลักกรรม
บุญจากการภาวนาเจริญสติ บุญจากการทำกรรมฐาน
บุญจากการหมั่นระลึกนึกถึงพระบ่อย ๆ
ตามที่หลวงปู่เน้นย้ำพาให้พวกเราทำกัน
จัดเป็น ครุกรรม ตามหลักหนักเบาของกรรม
เป็นกรรมหนักฝ่ายดี ซึ่งจะ ให้ผลในปัจจุบันทันที
ได้แก่ ณาน วิปัสสนา มรรค ผล
ตรงกันข้ามกับ อนันตริยกรรม กรรมหนักฝ่ายชั่ว
คือ ฆ่าแม่ ฆ่าพ่อ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า
จนห้อพระโลหิต และทำสงฆ์ให้แตกแยก
ดังนั้น จึงไม่ขึ้นกับผีอยากหรือผีไม่อยาก
ได้คนมาแทน แต่ขึ้นอยู่กับกรรรมเป็นใหญ่

ส่วนคนที่ประสบอุบัติเหตุถึงตายอยู่ตรงนั้น
ส่วนใหญ่ก็ไปตามภพภูมิที่ได้ทำกรรมไว้
ไม่ได้อาศัยอยู่สถานที่ตรงนั้น และขึ้นอยู่กับจิตสุดท้าย
ซึ่งก็มีทั้งที่ไปสวรรค์หรือไปนรก
ผีที่อยู่ตรงนั้น ความเห็นส่วนตัวน่าจะเป็น
ภพภูมิที่เป็น "เปรต"หรือ "อสุรกาย"
เพราะหากไปเกิดในนรก ก็ไม่สามารถมาได้
และหากไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือภพภูมิที่สูงกว่า
ก็ไม่มาอยู่ในสถานที่ตรงนั้นเช่นกัน

เรื่อง "สัมภเวสี" ที่ไม่มีในตำรา
ลองมาดูที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระมหาวีระ ถาวโร)
ท่านเล่าไว้ในหนังสือ "ไตรภูมิ" หน้า ๑๐๔ ตอนหนึ่งว่า ...

สภาพของคนเดินไปเดินมา แต่ว่าเป็นผี คนพวกนี้มีอิสระ
ไม่อยู่ในอำนาจของใคร ไม่ใช่เปรต ไม่ใช่อสุรกาย เป็นใคร?
เรียกว่า สัมภเวสี คือคนที่ตายแล้วแต่ยังไม่หมดอายุขัย
มี "อุปฆาตกรรม" มาตัดรอน นรกไม่ต้องการ สวรรค์ก็ไม่ต้องการ
ทั้งบุญและบาปที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล
ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกไปสอบสวนและจัดการลงโทษ
มีสภาพเหมือนคนที่ออกจากบ้านนี้แล้วเข้าบ้านโน้นยังไม่ได้
จะกลับเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาหากินอะไรไม่ได้
ผีประเภทนี้เรียกว่า สัมภเวสี แปลว่า พวกแสวงหาที่เกิด ...

ตอบน้องเหลิมว่า ...

ไม่ว่าทั้งคนที่รักหรือคนที่ชัง ก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกกล่าวเขา
แต่อย่างใด ในทางปฏิบัติเมื่อภาวนาจิตสงบและตั้งมั่นแล้ว
ให้ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และหลวงปู่
ขอบารมีท่านแผ่ให้คนที่เราต้องการช่วยเหลือ
ให้มีความสุข มีความสวัสดี
หรือบางคนก็กล่าวคำว่า "จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด"
สำคัญที่มีจิตคิดปรารถนาดีต่อบุคคลคนนั้นจริงๆ

ครั้งหนึ่งผู้เขียนไปกราบหลวงน้าสายหยุดที่วัดสะแก
วันนั้นท่านอาพาธไม่ค่อยสบาย แต่ก็ฝืนรับแขก
เห็นว่าพวกเรามาไกลกัน ท่านให้เข้ามาภาวนาในกุฏิกับท่าน
วันนั้นพอจิตเกิดความสงบเป็นองค์พระแล้ว
ได้ขออาราธนาบารมีพระดังที่กล่าวมา
ให้หลวงน้ามีความสวัสดี ทุกข์โศกโรคภัยให้หายไป
พอเสร็จจากการภาวนา หลวงน้าสายหยุดเปิดไฟในห้อง
ท่านเอามือลูบศีรษะ ไม่พูดอะไรแสดงอาการคิดอยู่เกือบนาที
จากนั้นท่านจึงพูดขึ้นมาว่า เมื่อกี้มีนิมิตหลวงปู่(ดู่)
ท่านให้พระแก่ฉัน อาตมาก็มีองค์พระอยู่แล้ว
ทำไมท่านให้มาอีก?
ผู้เขียนจึงเรียนท่านว่า เมื่อครู่ภาวนาเป็นดี พอตั้งองค์พระได้
เลยขอบารมีพระพุทธเจ้าและหลวงปู่เป็นที่สุด ขอท่านให้ช่วย
หลวงน้าครับ
หลวงน้าท่านยิ้ม แล้วพูดว่า อ้อ! เป็นอย่างนี้นี่เอง
นี่คือตัวอย่าง แผ่เมตตาให้คนเป็นที่เคารพนับถือ
กรณีคนที่ชังกัน ไม่ต้องบอกกล่าวเขา แต่เราขอคุณพระ
ขอหลวงปู่แผ่เมตตาให้จิตหรือตัวในเขาทุกวันๆๆๆ
สังเกตดู ผู้เขียนลองมาแล้ว จากเดิมเขาโกรธจนไม่พูดกับเรา
จนแทบจะตายแล้วไม่ต้องมาเผามาฝังกัน กลับกลายเป็น
เดินผ่านกันก็มียิ้มให้ จนในที่สุดก็ยอมพูดทักทายกันได้