บันทึกเรื่องจริงจากประสบการณ์
ที่หลวงปู่มอบหมาย
ให้ช่วยสอนคนที่มาใหม่
และช่วยเหลือหมู่คณะบางคน
จากวันนั้น จนถึงวันนี้
กว่า 30 ปี มาแล้ว
ที่ได้ตอบแทนพระคุณหลวงปู่
ส่วนใหญ่ที่ได้รับคำแนะนำ
ล้วนเป็นคนที่รับฟังและนำไปทำต่อด้วยดี
จะเป็นช้าบ้างเร็วบ้าง ก็ตามแต่เหตุปัจจัย
มีอยู่รายหนึ่งซึ่งไม่สามารถช่วยได้
แม้เคยมาขอคำแนะนำ
สุดท้ายเขาเลยเป็นครูของผม
ไม่ใช่ผมเป็นครูเป็นอาจารย์เขา
ตามที่หลวงปู่ฝากไว้
ลักษณะคนที่ "ว่านอนสอนยาก"
มีตัวอย่างเป็นแบบนี้ เช่น ...
๑. คนว่าง่าย
จะมีความเคารพผู้สอน
ไม่เป็นคนชอบพูดเพ้อเจ้อ
ไม่นำคำว่า "อาจารย์" มาพูดล้อเล่น
๒. คนว่าง่าย
ไม่เพ่งโทษ ไม่จับผิด ไม่พูดย้อนผู้กล่าวสอน
หรือเตือนตน
เช่น ทีตัวล่ะ ทีเพื่อนคนนั้นยังทำเลย ...
๓. คนว่าง่าย
ไม่เถียงผู้หวังดี ที่มาแนะนำ
เช่น ผมทำผิดขนาดเป็นมิจฉาทิฏฐิ
ถึงกับหมู่เพื่อนต้องมาเตือนกันเชียวหรือ ฯลฯ
๔. คนว่าง่าย
จะดีใจเหมือนมีผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้
เมื่อมีคนมาแนะนำว่ากล่าวช่วยเตือน
คนมาเตือน 1 คน ดีกว่า
คนกดไลค์สรรเสริญเยินยอ
ช่วยกันแชร์ต่อ 100 คน
นี้แล ... ที่ทำให้หลงโดยไม่รู้ตัว
๕. คนว่าง่าย ...
ยังมีอีกหลายข้อ ขอผู้สนใจไปศึกษาต่อ
ในมงคลสูตรหัวข้อ "โสวจัสสตา"
ความเป็นคนว่าง่าย
สุดท้ายของท้ายสุด
การเตือนผู้อื่นในฐานะกัลยาณมิตร
ด้วยจิตปรารถนาดี เป็นสิ่งที่ดีงาม
แต่หากผู้รับการเตือนการสอน
ไม่ใช่ผู้ว่านอนสอนง่าย
ที่สำคัญคือ ไม่ใช่คู่ปราบคู่ปรับกัน
อย่างที่หลวงปู่เคยเปรียบไว้
หากเป็นเช่นนี้
เห็นทีต้องหันกลับมาเตือนตน
เป็นดีที่สุด
ไม่เป็นต้นบาปให้ใครต้องขุ่นเคืองใจ
ขอสรุปกระทู้ด้วยคำสอนหลวงปู่ที่ว่า
"ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง
ตนเตือนตนไม่ได้ ใครจะเตือน"
|