หลวงปู่ดู่เป็นพระผู้ใหญ่ที่เข้าหาได้โดยสะดวกอย่างยิ่ง ท่านปฏิเสธบรรดาผู้ที่มาเสนอตัวมาจัดการนั่นนี่ เพราะท่านต้องการให้ทุกคนมีโอกาสเข้าหาท่านอย่างเสมอหน้ากันหมด
หากจะถามว่าท่านเมตตาหรือให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหรือไม่ ก็ขออนุญาตให้ความเห็นส่วนตัวว่าไม่ เพราะสังเกตเห็นบ่อยครั้งว่าหากใครมาสนทนาธรรมกับท่าน ท่านจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเอาปัญหาการปฏิบัติธรรมที่เกิดกับจิตใจตัวเอง (ไม่ใช่จากอ่านหนังสือ) มาถามท่าน ท่านมักจะค้อมตัวมาหาผู้ฟังเล็กน้อย คล้ายเงี่ยหูฟัง แล้วตั้งใจตอบคำถามหรือให้คำแนะนำไปตามภูมิจิตหรือความพร้อมของผู้ฟังเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด บางครั้งจะมีนิสิตนักศึกษามาสนทนาธรรมกับท่านในตอนเย็น ๆ ท่านก็ทราบล่วงหน้า และให้โยมอุปัฏฐากเก็บผลไม้ไว้ให้เด็ก ๆ ได้ทานแก้หิว (ทราบจากโยมที่เคยอุปัฏฐากท่าน)
ท่านให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง ท่านเคยตำหนิพระภิกษุที่อยู่กุฎิใกล้ท่าน ที่เอาเรื่องโลก ๆ มาพูดแทรกขณะท่านกำลังสนทนาธรรมกับญาติโยม ท่านว่าบาปนะ คนเขากำลังคุยเรื่องธรรมะ กลับมาขัดจังหวะด้วยเรื่องโลก ๆ
หลวงปู่มีผิวพรรณที่ผ่องใสอย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่ท่านสรงน้ำโดยไม่เคยใช้สบู่เลย อีกทั้งริ้วรอยก็แทบไม่ปรากฏให้เห็น (ไม่เหมือนหุ่นไฟเบอร์กลาสที่ตั้งอยู่ในวิหารวัดสะแก ซึ่งดูจะเน้นสรีระรอยเหี่ยวย่นจนดูไม่เหมือนท่าน)
หลวงปู่มีขันติชนิดที่ใคร ๆ ไม่อาจเลียนแบบ เพราะท่านนั่งจนก้นท่านเป็นแผลพุพอง แตกแล้วแตกอีก ท่านก็ยังรับแขกได้เป็นปรกติทุกเมื่อเชื่อวันทั้งรอบกลางวันและกลางคืน
หลวงปู่วางตัวเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเก๊กหรือวางท่า แต่ก็น่าประหลาดที่ใคร ๆ ก็รู้สึกยำเกรงองค์ท่าน
บ่อยครั้งที่หลวงปู่ตอบคำถามการปฏิบัติชนิดที่เจ้าตัวต้องอายเพราะคล้ายกับว่าหลวงปู่อยู่ร่วมปฏิบัติที่บ้านของโยมผู้นั้นด้วย จึงไม่มีที่ปกปิดหลวงปู่ได้เลย
หลวงปู่เป็นผู้เรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน ให้การยกย่องครูอาจารย์ท่านอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงพ่อเกษม ฯลฯ ท่านไม่เคยวางตัวให้รู้สึกว่า "ฉันแน่สุด" ตรงกันข้าม ท่านสอนให้ศิษย์ระมัดระวังการปรามาสครูอาจารย์ที่มีคุณธรรมที่บางครั้งไม่อาจรู้ได้โดยอากัปกิริยาภายนอก
หลวงปู่ไม่รับนิมนต์ออกนอกวัด เพราะท่านต้องการจะสงเคราะห์ผู้ที่เดินทางมากราบสนทนาธรรมกับท่าน กล่าวคือเมื่อตั้งใจมากันแล้วก็มั่นใจได้ว่าจะไม่ผิดหวังว่ามาแล้วไม่ได้พบท่าน
หลวงปู่ไม่เคยจำหน่ายพระ ท่านอธิษฐานจิตในพระเครื่องที่ทางวัดมากราบขอให้ท่านสงเคราะห์ ท่านก็เมตตาทำให้เพื่อกิจส่วนรวม หลังจากนั้น หากท่านต้องการพระเครื่องเอาไปแจกโยม ท่านก็ยังต้องให้คนเอาปัจจัยไปเช่าจากวัดมาให้โยมผู้นั้นเลยก็มี เว้นแต่พระที่ท่านเอาไว้แจกฟรีเป็นการส่วนตัว ท่านก็จะหาจังหวะแจกที่ไม่ให้เกิดปัญหาลาภไม่เสมอหน้ากัน
เหล่านี้เป็นแค่ตัวอย่างน้อยนิดในเรื่องบุคลิกภาพและปฏิปทาของหลวงปู่ที่อยากถ่ายทอดให้ได้รับทราบเพื่อผู้ไม่ทันท่าน จะได้มองภาพท่านชัดเจนยิ่งขึ้น นอกเหนือจากความอบอุ่นใจที่ท่านได้รับจากบารมีของหลวงปู่ ที่เชื่อว่าทุกท่านต่างก็สัมผัสกันมาแล้ว |