luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่  (Read: 80443 times - Reply: 74 comments)   
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
« Thread Started on 26/11/2552 20:23:00 IP : 124.122.225.229 »
 

นายอู๋ หรือเฮียอู๋เป็นชื่อของหนึ่งในโยมอุปัฏฐากของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เฮียอู๋เป็นคนอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้มีบุคลิกภาพเปิดเผย จริงใจ ตรงไปตรงมา พูดเสียงดังฟังชัด มักมีเรื่องต่าง ๆ มาเล่าให้หมู่คณะฟังอย่างสนุกสนาน           

เดิมทีเดียวนั้น เฮียอู๋เป็นผู้มีทิฏฐิมานะค่อนข้างรุนแรง มีอคติกับพระสงฆ์องค์เจ้า เหตุที่มากราบนมัสการหลวงปู่ดู่ได้ก็เพราะไม่อาจทนต่อการคะยั้นคะยอของญาติที่ต้องการให้เฮียอู๋มาถวายสังฆทานกับหลวงปู่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บุพการีที่จากไป โดยที่เฮียอู่เองจะพยายามพูดเลี่ยงว่าเสียเวลา (ทำมาหากิน)            

เมื่อเฮียอู๋มาถึงวัดแล้ว ก็ยังไม่ยอมกราบหลวงปู่ พอญาติพูดชวนให้กราบหลวงปู่ เฮียอู๋ก็ตอบว่า "ผมเคารพแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ผมไม่เคารพพระสงฆ์"  ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเฮียอู๋จะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีอะไรในอดีตที่ผ่านมา จึงมีภาพที่ไม่ดีของพระสงฆ์จึงพูดแบบเหมารวมเช่นนั้น           

เฮียอู๋นับว่าโชคดีอย่างมหาศาลที่ไม่ได้ตายไปพร้อมกับมิจฉาทิฏฐิเช่นนั้น  ด้วยความเมตตาและปัญญาของหลวงปู่  มิช้านาน เฮียอู๋ก็มีจิตใจที่อ่อนโยนลง ค่อย ๆ บังเกิดศรัทธาและยอมลงใจให้กับหลวงปู่ชนิดเต็มร้อย หลวงปู่เคยพูดไว้ประโยคหนึ่งซึ่งทำให้เฮียอู๋และภรรยาไม่เคยลืมเลือน คือประโยคที่ว่า "ตาอู๋ ถ้าข้าไม่ตายซะก่อน ข้าจะเอาแกให้ดีให้ได้"  

เฮียอู๋คอยดูแลรับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่ด้วยความเคารพนบนอบ และให้ความยำเกรงในองค์หลวงปู่ กล่าวคือเมื่อท่านให้ความเมตตา เฮียอู๋ก็ไม่เคยแสดงอาการที่เรียกว่า "ลามปาม" ครูอาจารย์ รวมทั้งไม่เคยวางตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหลวงปู่แต่อย่างใด จึงสมเป็นแบบอย่างโยมอุปัฏฐากที่ดีอีกท่านหนึ่ง

เฮียอู๋คนนี้เองที่นำเรื่องที่ไม่เคยมีใครทราบมาเล่าให้ฟัง ขณะที่เล่าไป น้ำตาแกก็ไหลออกมาด้วย แกเล่าให้ฟังว่า จะหาใครที่จะขี้เกรงใจเท่าหลวงปู่เราเป็นไม่มี ครั้งหนึ่งท่านอาพาธ แค่ท่านจะขอให้แกไปซื้อยาจากร้านค้าใกล้ ๆ วัด มาให้ท่าน ท่านยังต้องคอยให้เฮียอู๋เสร็จธุระ แล้วเอ่ยปากขอร้องแกอย่างเกรงใจเป็นที่สุด ...โถ ครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพรักอย่างสูง กับเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ทำไมท่านต้องเกรงใจผมด้วย (เฮียอู๋นึกในใจ)

แต่เรื่องที่สะเทือนใจเฮียอู๋มากที่สุด ก็คือการที่ได้พบความจริงตอนขอโอกาสทายาถวายท่านที่บริเวณก้น เพราะเฮียอู๋เพิ่งได้มาเห็นว่าที่ก้นของหลวงปู่เต็มไปด้วยแผล (ฝี) ที่มีร่อยรอยการอักเสบและแตกซ้ำ ๆ เพราะความที่ท่านต้องนั่งรับแขกทุกวี่ทุกวันบนไม้กระดานแข็ง ๆ เป็นเวลานับสิบ ๆ ปี  เฮียอู๋ทายาไปก็อดที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้

เฮียอู๋ได้ทำหน้าที่รับใช้หลวงปู่อยู่หลายปี โดยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเสียส่วนมาก มิได้แสดงอาการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของครูบาอาจารย์ หรือเป็นนายหน้าแต่อย่างใดเลย อีกทั้งยังระมัดระวังทรัพย์สินของสงฆ์เป็นที่สุด เฮียอู๋ยังได้เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่เป็นผู้ที่มัธยัสถ์มาก ในช่วงบ่าย ๆ ที่ญาติโยมกลับไปหมดแล้ว หลวงปู่จะเดินไปหยิบหนังยางที่ตกหล่นบนพื้นเอามาแขวนรวมไว้ที่ตะปู เพราะท่านเห็นว่ายังใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งลูกศิษย์ที่มาหยิบเอาไปใช้ก็มักไม่รู้ว่าใครเป็นผู้หยิบมารวมไว้ให้ได้ใช้กัน 

เฮียอู๋เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า "คุณรู้ไหม หลวงปู่รักเอ็นดูพวกคุณขนาดไหน เวลาคณะของพวกคุณจะเดินทางมาสนทนาธรรม หรือพักค้างปฏิบัติธรรมที่วัด หลวงปู่จะทราบล่วงหน้า และสั่งให้ผมเก็บผลไม้ไว้ให้พวกคุณรับประทาน เพราะกลัวพวกคุณจะหิว รวมทั้งให้จัดหามุ้งรอท่าไว้ให้"

เฮียอู๋ไม่เพียงทำหน้าที่โยมอุปัฏฐากที่ดีเยี่ยมเท่านั้น เฮียอู๋ยังทำหน้าที่ศิษย์ที่ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน

แม้หลวงปู่จะจากไปแล้ว เฮียอู๋ก็ยังคงมาดูแลที่กุฏิหลวงปู่อยู่เสมอ ๆ สลับกับการไปช่วยงานหลวงปู่สังวาลย์ วัดป่าสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี ไม่ว่าจะทำหน้าที่ขับรถพาพระไปบิณฑบาตทุกเช้า แล้วก็ซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีคนมาถวายให้วัด เฮียอู๋แสดงอาการแพ้ยูรีเทนให้เห็นก็ตอนทำหน้าที่นี้ (ซึ่งอาจเป็นปัจจัยอันหนึ่งที่เร่งอาการมะเร็งของเฮียอู๋)           

ตอนรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งนั้น เฮียอู๋ก็เร่งการปฏิบัติ และหากมีโอกาสก็จะไปพบหลวงปู่สังวาลย์ ซึ่งท่านจะเมตตาเป่าไล่ตั้งแต่หน้าอกและท้องของเฮียอู๋ หลวงปู่สังวาลย์ท่านเมตตาเฮียอู๋มาก ๆ เฮียอู๋ก็เคยกล่าวกับภรรยาว่าได้อาศัยน้ำมนต์หลวงปู่ดู่กับการเป่าของหลวงปู่สังวาลย์ทำให้ไม่เจ็บปวดทรมานมาก และก็ปรากฏเป็นจริงเช่นนั้น เพราะเฮียอู๋ไม่เคยต้องรับการฉีดมอร์ฟีนเลยกระทั่งเสีย

ชีวิตเฮียอู๋ได้รับการกล่าวขานจากทั้งแพทย์และพยาบาล ในช่วงที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในอยุธยา เพราะจากภาพ X-ray นั้น สภาพอวัยวะภายในของเฮียอู๋ แย่มาก ๆ ลิ้นหัวใจก็เปิด แผลฉีกขาดในช่องท้องก็เต็มไปหมด แพทย์และพยาบาลก็ไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไรว่าทำไม่เฮียอู๋จึงยังมีชีวิตรอดและสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้           

เฮียอู๋บอกกับแพทย์พยาบาลที่นั้นว่า "ผมจะไม่ตายที่นี่หรอก ผมเตรียมที่ที่ผมจะตายไว้แล้ว" ใน ๒-๓ วัน สุดท้าย แกบอกคนที่มาเยี่ยมว่าแกขอบใจ แต่ขอเวลาแกปฏิบัติเพื่อเตรียมจิตจะเป็นประโยชน์ที่สุดกับแก ภรรยาของเฮียอู๋เล่าให้ฟังว่า เฮียอู๋พอใจที่แกสามารถปฏิบัติยกจิตขึ้นเหนือเวทนาได้ สุดท้ายเฮียอู่ได้เดินทางไปละสังขารที่วัดป่าสามัคคีธรรม ด้วยการจากไปที่เป็นแบบอย่างของนักปฏิบัติธรรม คือ องอาจกล้าหาญ และมีสติสมบูรณ์ ไม่มีอาการทุรนทุรายใด ๆ เลย ลมหายใจของเฮียอู๋ค่อย ๆ สงบลง ๆ กระทั่งหมดลมหายใจ

หลวงปู่สังวาลย์ท่านพยากรณ์ตั้งแต่ยังไม่เผาเฮียอู๋ว่า "เมื่อเผาแล้ว กระดูกจะเป็นพระธาตุ" ซึ่งเรื่องพระธาตุนี้ หลวงปู่ดู่เคยบอกว่า ตั้งแต่โสดาบันกระดูกก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุได้           

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ภายหลังการฌาปนกิจศพเฮียอู๋ ปรากฏว่ากระดูกของเฮียอู๋มีสีสัน ที่เด่นคือสีออกอมเขียว พระสงฆ์ลูกศิษย์ของหลวงปู่สังวาลย์ก็คว้ามับเอาไปจำนวนหนึ่ง อัฐิที่เหลือนั้น  หลวงปู่สังวาลย์ท่านให้สร้างเจดีย์บรรจุที่หน้าพระอุโบสถวัดป่าสามัคคีธรรม คู่กันกับอัฐิของนายเจริญ มัคคทายกของวัดที่อัฐิเป็นพระธาตุเช่นกัน           

พี่ดาผู้ภรรยาเล่าว่า ภายหลังเฮียอู๋จากไปไม่นาน หลวงปู่สังวาลย์ก็มรณภาพ แต่เธอได้ฝันเห็นหลวงปู่สังวายล์อยู่คราวหนึ่ง ในฝันนั้น เธอเรียนถามหลวงปู่ถึงคติที่ไปของสามีเธอ เพราะเธอยังไม่เข้าใจเรื่องอัฐิธาตุนัก หลวงปู่ตอบว่า "เขาไม่มาเกิดแล้ว เขาจะมาเกิดอีกทีก็พร้อมกับพระพุทธเจ้าองค์ข้างหน้าโน้น"เธอถามว่า "หมายถึงพระศรีอริยเมตไตรย หรือเจ้าคะ"  หลวงปู่ตอบว่า "อือ"           

เรื่องราวของเฮียอู๋นับว่าเป็นแบบอย่างของนักปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง ผู้เตรียมตัวเผชิญต่อพญามัจจุราชอย่างอาจหาญสมเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่สังวาลย์ และสมเป็นศิษย์พระตถาคตเจ้าโดยแท้

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
จำนวนข้อความทั้งหมด:  31
1
2
3
4
>
แสดงความคิดเห็น
gftor

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 1  « on 14/12/2552 9:22:00 IP : 58.137.145.50 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 

สาธุ....

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
Aimee2500

Posts: 44 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 2  « on 22/12/2552 22:05:00 IP : 86.145.154.252 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 
Anumothana Sathu

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
ไม้ผุ

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 3  « on 21/1/2553 12:55:00 IP : 125.25.9.37 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 

ขออนุโมทนาครับ

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
benyapa

Posts: 1 topics
Joined: 2/2/2553

ความคิดเห็นที่ 4  « on 2/2/2553 10:54:00 IP : 75.79.10.47 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 
ขออนุโมทนากับเฮียอู๋ด้วยนะคะ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สมชาย

Posts: 0 topics
Joined: 4/3/2553

ความคิดเห็นที่ 5  « on 16/3/2553 11:54:00 IP : 58.9.196.179 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 

คุณสิทธิ์ครับ ขอทราบวิธีหรือแนวทางการปฎิบัติตามที่หลวงปู่ดู่ท่านได้สอนไว้เรื่องการยกจิตขึ้นเหนือเวทนา ว่าต้องปฎิบัติย อย่างไรเมื่อเวลาป่วยและเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิตครับ ขอบคุณครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 6  « on 16/3/2553 12:53:00 IP : 203.148.162.128 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 
สมชาย Talk:

คุณสิทธิ์ครับ ขอทราบวิธีหรือแนวทางการปฎิบัติตามที่หลวงปู่ดู่ท่านได้สอนไว้เรื่องการยกจิตขึ้นเหนือเวทนา ว่าต้องปฎิบัติย อย่างไรเมื่อเวลาป่วยและเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิตครับ ขอบคุณครับ



เป็นคำถามที่ดีมากและสำคัญมากครับ

ติดตรงที่ว่าผมไม่อยู่ในฐานะที่จะให้คำตอบได้ เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องไปหาคำตอบเอาเอง

เพียงคำพูดว่ายกจิตให้เหนือเวทนา เป็นคำพูดสั้น ๆ แต่ทำยากสุด ๆ เพราะคำว่าเหนือเวทนา พูดอีกอย่างก็คือเหนือร่ายกายนั่นเอง เพราะเวทนาก็เนื่องด้วยกาย พูดอย่างละเอียดก็คือแยกจิตออกจากกาย  ลองเราอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ ไม่ขยับเลย มันทรมานขนาดไหน มันเหมือนร่างกายภูกไปเผายังไงยังงั้น

ถามว่าทำอย่างไร แนวทางที่เอาไปหาคำตอบให้ตนเอง คือ ค่อย ๆ เข้าไปมีประสบการณ์กับการนั่งสมาธินาน ๆ แล้วสังเกตใจ รักษาใจให้เป็นปรกติที่เยือกเย็น ไม่ว่าเวทนาจะแรงขึ้น ๆ สักเพียงไร อันนี้ต้องค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ฝืน อย่าหุนหันทำเกินกำลังไปมาก จะทำให้ขยาดกลัวไปเลย

ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่จะให้ทนนั่งอย่างเดียว ในจิตใจก็ต้องมีการงานให้มัน ทั้งภาคสมาธิและภาคปัญญา ในช่วงเวทนาน้อย ๆ อยู่การบริกรรมภาวนาทำจิตให้สงบ มีปีติมาหล่อเลี้ยง ก็ช่วยให้กายสงบระงับอยู่ได้

แต่พอเวทนามันกล้าคือมันแสบร้อนมากเข้า ๆ รับรองว่าคำบริกรรมมันหนีหายไปหมด ดีไม่ดี มันนึกขึ้นมาเองว่า "ตาย ๆ ๆ ๆ " ตอนนี้ สารพัดเหตุผลของกิเลสจะผุดขึ้นมาเพื่อชักชวนให้เราเลิกปฏิบัติ เช่น เดี๋ยวจะทำให้พิการนะ ! หรือเป็นทางสุดโต่ง เบียดเบียนตนเองเกินไปแล้วนะ! ฯลฯ

เวทนาแสบร้อนมากเข้าไปอีกจนยากจะทานทน สถานการณ์เหมือนสุนัขจนตรอก ตอนนี้ จะเป็นโอกาสให้สติปัญญาทำงาน สารพัดที่จะงัดมาใช้เเพ่อเอาตัวรอด จากเดิมที่คิดว่าพิจารณาไม่เป็น มันก็อาจเกิดอุบายปัญญาขึ้นมากมายเพื่อต่อสู้กับเวทนา ทางด้านร่างกาย หากเราไม่พิจารณาจนจิตลงตัว มันก็จะยังไม่สามารถคลายอาการเกร็งได้

อุบายปัญญาในระหว่างนี้เอง ที่ว่าของใครของมัน ไม่มีแบบสำเร็จรูป อุบายปัญญาที่ใช้ได้ผลกับคนหนึ่ง ก็มักใช้ไม่ได้ผลกับอีกคนหนึ่ง ปัญญามันต้องผลิตออกมาสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับที่จำ ๆ มา มันใช้ไม่ได้ผลในตอนนี้ จึงเป็นภาคปฏิบัติที่แต่ละคนต้องหาคำตอบเองในภาคสนามครับ แต่อุบายวิธีก็อยู่ในกรอบของสติ สมาธิ และปัญญานี้แหละ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สมชาย

Posts: 0 topics
Joined: 4/3/2553

ความคิดเห็นที่ 7  « on 26/3/2553 9:21:00 IP : 58.11.27.196 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 
ขอบคุณครับคุณสิทธิ์
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สมชาย

Posts: 0 topics
Joined: 4/3/2553

ความคิดเห็นที่ 8  « on 26/3/2553 9:26:00 IP : 58.11.27.196 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 
ขอบคุณครับคุณสิทธิ์
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 9  « on 27/9/2553 21:59:00 IP : 124.122.50.215 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 


พอดีเพิ่งจะได้รูปของเฮียอู๋ ก็เลยนำมาให้ได้เห็นว่านี่คือใบหน้าของผู้ปฏิบัติธรรมผู้มีชัยต่อความตาย นับเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกศิษย์หลวงปู่

ก่อนเฮียอู๋จะละสังขาร เฮียอู๋ชี้ให้เพื่อนสหธรรมิกมองดูที่ท้องฟ้า ว่าเห็นหลวงปู่ทวดไหม องค์ท่านใหญ่โตมาก ท่านมารับเฮียอู๋แล้ว

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
Aimee2500

Posts: 44 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 10  « on 29/9/2553 2:41:00 IP : 109.152.191.62 »   
Re: จากผู้ไม่ยอมกราบพระ กลายมาเป็นศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ดู่
 
อนุโมธนาสาธุค่ะ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
2
3
4
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 6 Visits: 16,675,260 Today: 247 PageView/Month: 56,647