หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน
คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป
(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)
|
|
Started by |
|
|
Topic: อภัยให้ได้นะ (Read: 25905 times - Reply: 11 comments) |
|
|
|
สิทธิ์ |
Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552
|
|
อภัยให้ได้นะ
|
« Thread Started on 30/12/2552 7:13:00 IP : 203.148.162.151 » |
|
|
|
เมื่อกล่าวถึงคำว่า “ให้อภัย” ใคร ๆ ก็รู้ว่าการให้อภัยนั้นเป็นเรื่องที่ดีและควรกระทำ แต่พอประสบเข้ากับตนเองจริงๆ มันกลับเป็นเรื่องยากที่จะตัดใจให้อภัยกับคนที่พูดให้ร้ายเรา เอารัดเอาเปรียบเรา โกงผลงานของเรา ดูถูกเหยียดหยามเรา ต่างๆนาๆ และ ถ้าหากเขาไม่กระทำโดยตรงกับเรา เขาก็จะกระทำกับคนรอบข้างที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ สามีภรรยา หรือลูกของเรา
ตลอดระยะเวลาแห่งการผูกอาฆาต และยังมิทันที่จะได้ไปชำระความต่อกัน ผู้ที่ผูกอาฆาตก็ต้องจมจ่อมอยู่กับความทุกข์ เพราะไฟโทสะที่เผารนใจของตนเอง หรือเรียกว่าตนเองนั้นแหละที่คอยเอาไฟมาเผาตัวเองอยู่ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน จนหาความสงบเย็นใจไม่ได้ จะคิดอ่านกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคนที่เราเกลียด กระทั่งเพื่อนหรือญาติหรือคนที่เกี่ยวข้องกับเขา ก็เป็นไปอย่างมีอคติ เพราะจิตนั้นลำเอียงไปเสียแล้ว
หากศิษย์หลวงปู่ดู่ท่านใดที่ได้พบกับสิ่งกระทบที่ยากต่อการให้อภัยผู้อื่น ก็โปรดได้พิจารณา ชีวประวัติของหลวงปู่ในช่วงเยาว์วัย หลวงปู่ท่านเป็นลูกของผู้มีฐานะดี ทรัพย์สมบัติในบ้านท่าน จึงเป็นที่เพ่งเล็งของพวกโจรห้าร้อย หลวงปู่เล่าให้ฟังว่าบ้านท่านถูกโจรเข้าปล้นถึง ๒ ครั้ง ท่านเจ็บแค้นแทนโยมพ่อโยมแม่อย่างมาก ถึงแม้ว่าได้บวชเป็นพระแล้วก็ตาม ท่านก็ยังตั้งปณิธานที่จะร่ำเรียนวิชาอาคมต่าง ๆ เพื่อจะได้กลับไปล้างแค้นพวกโจรให้สาสมกับความแค้น ที่ฝังใจท่านมาหลายปี
แต่ปรากฏว่าเมื่อท่านได้ปฏิบัติธรรมมากขึ้นเท่าใด ใจท่านก็ให้กลัวต่อบาปกรรม และโน้มเอียงไปในทางให้อภัยมากขึ้น จนในที่สุด เมื่อการปฏิบัติในศีล สมาธิ และปัญญาของท่านมีมากเข้า ท่านจึงเห็นโทษของจิตใจที่ผูกอาฆาต ทำให้ท่านให้อภัยกับพวกโจรเหล่านั้นได้ และนี่แสดงให้เห็นว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ช่วยชำระล้าง บาปแค้นและความทุกข์ที่ฝังแน่นออกไปจากใจท่านจนหมดสิ้น ดังนั้น ธรรมะของพุทธองค์จึงเป็นสิ่งอัศจรรย์และมีคุณค่าเหนือคณานับ เพราะกำจัดทุกข์และเวรภัยได้จริง ๆ นำมาซึ่งความสงบเยือกเย็นใจ รวมทั้งนำมาซึ่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ การชนะใจตนเอง |
|
|
|
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: อภัยให้ได้นะ
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ » คลิ๊กที่นี่ |
|
|