(สำหรับท่านที่ต้องการเห็นตัวอย่างปกหนังสือทั้งหมด ดูได้จากเมนูสรุปหนังสือคำสอนหลวงปู่ครับ)

๑. หนังสือไตรรัตน์

  จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม นับเป็นหนังสือเล่มแรกที่บันทึกคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ โดย คุณเมธา พรพิพัฒน์ไพศาล ได้กราบขออนุญาตหลวงปู่ นำธรรมะที่ท่านได้สอนไว้มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งท่านก็ได้อนุญาตโดยตอบว่า หากพระมหาบัวไม่ได้บันทึกคำสอนหลวงปู่มั่นไว้ พวกแกก็คงไม่ได้อ่านกัน เนื้อหาทั้งหมดในครั้งนั้นเป็นการบันทึกและเรียบเรียงโดย คุณเมธา เมื่อครั้งเป็นประธานชุมนุมศึกษาพุทธศาสตร์และประเพณี  (ชุมนุมพุทธฯ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   

 ๒. หนังสือนพรัตน์

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ จำนวน ๒,๐๐๐ เล่ม ในโอกาสครบรอบ ๘๔ พรรษาหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ  โดยเป็นการต่อยอดจากหนังสือ ไตรรัตน์ โดยครั้งนี้ นอกจากข้อธรรมของหลวงปู่ที่คุณเมธา เรียบเรียงไว้เดิมกับที่เรียงเพิ่มเติมขึ้นใหม่แล้ว ก็ยังมีข้อเขียนจากเพื่อนๆ ชุมนุมพุทธฯ มธ. และลูกศิษย์ท่านอื่นส่งมาร่วมด้วย ซึ่งหนังสือเล่มนี้ อาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ ก็ได้ให้คำแนะนำ เพิ่มเติมในบางบทความ รวมทั้งได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับวัตถุมงคลส่งมาร่วมพิมพ์ด้วย อาทิ พิธีสร้างพระกลางลาน และการเกิดธรรมธาตุ เป็นต้น 

๓. หนังสือพระผู้จุดประทีปในดวงใจ

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๕,๐๐๐ เล่ม  โดยปรับปรุงเพิ่มเติมจากหนังสือ นพรัตน์ เพื่อใช้เป็นหนังสือแจกผู้มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ดู่ (หลวงปู่มรณภาพเมื่อ ๑๗ มกราคม ๒๕๓๓ และทางวัดตั้งศพจัดงานสวดพระอภิธรรมถวายท่านทุกคืน กระทั่งจัดงานพระราชทานเพลิงศพฯ เมื่อ ๒๐ เมษายน ๒๕๓๔) 

๔. หนังสือรวมใจ

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ (มีนาคม) จำนวน ๔,๐๐๐ เล่ม เป็นเนื้อหาใหม่ทั้งหมด จำนวน ๕๓ เรื่อง โดย คุณเมธา เป็นผู้เขียนหลัก 

๕. หนังสือพรหมปัญโญบูชา

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ (สิงหาคม) จำนวน ๔,๐๐๐ เล่ม เป็นหนังสือที่รวมเนื้อหาเดิม (จากหนังสือ พระผู้จุดประทีปในดวงใจ : ๔๗ เรื่อง และจากหนังสือรวมใจ : ๔๙ เรื่อง เฉพาะในส่วนเนื้อหาที่ คุณเมธา และเพื่อนๆ ชุมนุมพุทธฯ มธ. เป็นผู้เรียบเรียงไว้เท่านั้น) มารวมไว้ในเล่มเดียวกัน 

๖. หนังสือพรหมปัญโญอนุสรณ์

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕ จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม  โดยใช้ต้นฉบับจากหนังสือพรหมปัญโญบูชาทั้งหมด  เพื่อใช้สำหรับแจกในงานพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แต่เนื่องจากงานพิธีได้เลื่อนออกไป ทางวัดสะแกจึงได้นำหนังสือนี้ออกมาจำหน่ายแทน

๗. หนังสือ ๑๐๑ ปี หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ จำนวน ๕,๐๐๐ เล่ม  ใช้ในโอกาสเปิดพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมบันทึกธรรมคำสอนของหลวงปู่จำนวนทั้งสิ้น ๑๑๐ เรื่อง 

๘. หนังสือตามรอยธรรม ย้ำรอยครู หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๑๐,๐๐๐ เล่ม ได้มีการเรียบเรียงเรื่องใหม่ ๆ ขึ้นประมาณ ๕๐ เรื่อง เพื่อจะให้เป็นหนังสือที่รวมคำสอนครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ  รวมทั้งเจตนาจะให้เป็นฉบับมาตรฐานเพื่อการจัดพิมพ์เพิ่มเพื่อการอนุรักษ์และเผยแพร่ธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ให้กว้างขวางออกไปให้มากที่สุด 

สรุป  หนังสือธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ เล่มบาง ๆ เล่มแรกคือ “ไตรรัตน์” จัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ตั้งแต่เมื่อคราวที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ จากนั้นมาก็ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหาและจัดพิมพ์ใหม่ภายใต้ชื่อใหม่เป็นลำดับมา จนขณะนี้มาถึงหนังสือ  “ตามรอยธรรม ย้ำรอยครู หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” ภายใต้หลักการเดิมคือการเผยแผ่เป็นธรรมทาน (ยกเว้นการจำหน่ายโดยวัดสะแกโดยตรงเท่านั้น) 

อนึ่ง เนื่องจากมีศิษย์หลวงปู่ฯ บางท่านที่เคยนำข้อเขียนส่งมาร่วมจัดพิมพ์เมื่อครั้งจัดพิมพ์หนังสือพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ (หนังสือพระผู้จุดประทีปในดวงใจ) ภายหลังได้นำเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวไปปรับปรุงและจัดพิมพ์จำหน่ายภายใต้ชื่ออื่น ในนามบุคคล/คณะบุคคล ดังนั้น ทางคณะผู้จัดทำฯ จึงจำเป็นต้องดึงเนื้อหาของศิษย์ท่านนั้นออกไป เพื่อรักษามารยาทและป้องกันปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ประกอบกับเพื่อรักษาหลักการในการเผยแผ่ธรรมะคำสอนของหลวงปู่เพื่อเป็นธรรมทานดังกล่าวข้างต้น

หมายเหตุ

หนังสือไตรรัตน์ เล่ม ๑ ภึง ๓ ที่ปัจจุบันจำหน่ายอยู่ที่วัดสะแกนั้น เป็นคนละเล่มกับหนังสือไตรรัตน์เดิม เพราะหนังสือไตรรัตน์ ๑-๓ นั้น เป็นการดึงเนื้อหาจากหนังสือพระผู้จุดประทีปในดวงใจ มากระจายลงเป็น ๓ เล่มย่อย โดยพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ครั้งที่หนังสือพระผู้จุดประทีปในดวงใจหมดลงใหม่ ๆ

ตัวอย่างปกหนังสือเล่มแรกซึ่งจัดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐

ตัวอย่างปกหนังสือพรหมปัญโญอนุสรณ์

เปนคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากหนังสือไตรรัตน์ และเพิ่มความศรัทธาและธรรมะอื่นๆยิ่งขึ้นๆไปกับหนังสือในเล่มต่อๆมา

ผมโมทนากับพี่ๆทั้งสองคนนะครับ และท่านอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการจัดทำหนังสือทุกเล่มด้วยครับ

    หนังสือที่พี่ ๆ ได้ขออณูญาติหลวงปู่เพื่อทำการบันทึกและเผยแพร่นั้น เป็นประกายแสงแห่งปัญญาที่ผมได้รับ และมาเริ่มปฏิบัติอย่างจริงจังที่วัดสะแก จากเดิมที่ไม่เคยรู้จักท่านเลย แต่พออ่านหนังสือแล้วทำให้อยากรู้ อยากปฏิบัติอย่างจริงจัง จนได้เข้าใจถึงความเมตตาของหลวงปู่ ตลอดจนได้พบกับพี่ๆ ที่เมตตากับพวกเราขนาดนี้    ขออนุโมทนากับพี่ ๆ และกราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ ที่ทำให้ผมและ สหธรรมมิก ได้รับธรรมะ ดี ๆ จากหลวงปู่ครับ !

ได้อ่านบ้างแล้วครับ ได้รู้จักคำสอนของหลวงปู่หลายอย่างเลยดีมากๆครับ

ขออนุโมทนากับผู้ที่ได้รวบรวมหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่ มาให้ลูกศิษย์รุ่นหลังๆได้นำมายึดถือพร้อมปฎิบัติตามท่าน

สาธุ.....ครับ

เข้าใจว่าหนังสือไตรรัตน์ได้พิมพ์ใหม่จากต้นฉบับอีกครั้งเมื่อ สิงหาคม 2538 อีก 10000 เล่ม

แต่ก็ได้หมดไปแล้ว ใช่ไหมครับพี่ หน้าปกเป็นรูปพระพุทธเจ้าครึ่งพระองค์ปกสีฟ้าครับ

ในที่สุดก็มาถึงจุดที่ต้องอาศัยช่องทางอย่างโลก ๆ ในการเผยแพร่คำสอนหลวงปู่...

เมื่อราวต้นปี กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำหารือกันอย่างหนักถึงนโยบายการเผยแพร่ธรรมคำสอนของหลวงปู่ว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถเผยแพร่สู่วงกว้างและมีการจัดพิมพ์อย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ใช้วิธีรวบรวมปัจจัยจัดพิมพ์และแจกจ่ายเป็นคราว ๆ

จริง ๆ แล้ว ทางสำนักพิมพ์อมรินทร์ฯ (ร้านนายอินทร์) เคยติดต่อขอนำหนังสือตามรอยธรรม ย้ำรอยครู หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ไปจัดพิมพ์และจำหน่ายเมื่อสัก ๒-๓ ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นทางกลุ่มฯ ปฏิเสธไป เพราะยังอยากจะใช้นโยบายแจกจ่ายแบบธรรมทานอย่างที่เคยทำมามากกว่า ส่วนการจำหน่ายก็ให้ใช้เฉพาะช่องทางวัดสะแกเท่านั้น โดยคาดหวังว่าทางวัดจะจัดพิมพ์และเผยแพร่ต่อเนื่องเรื่อยไป แต่ปรากฏว่า ทางวัดขาดบุคลากรที่จะมาดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ภายหลังที่มีการจำหน่ายหนังสือหมด ก็ไม่มีผู้ดำเนินการต่อ หนังสือขาดช่วงเป็นระยะเวลากว่า ๑ ปี แล้ว

ทางกลุ่มฯ จึงทบทวนนโยบายการเผยแพร่อีกครั้ง สุดท้ายเห็นว่าคงเลี่ยงได้ยากที่จะปฏิเสธช่องทางการจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยทางสำนักพิมพ์  โดยเงื่อนไขการจัดพิมพ์ที่กลุ่มฯ กำหนด คือ ขอให้สำนักพิมพ์จัดพิมพ์เผยแพร่ในราคาต้นทุน เพื่อให้หนังสือมีราคาถูกที่สุด สมกับนโยบายการเผยแพร่เป็นธรรมทาน เพราะกลุ่มฯ ไม่มีเจตนาจะหาผลประโยชน์จากการนี้เลย แต่คำตอบที่ได้รับคือ สำนักพิมพ์ต้องตั้งราคาตามกลไกตลาด ทำให้นำมาสู่ข้อตกลงของกลุ่มฯ ต่อไปว่า รายได้ทั้งหมดที่สำนักพิมพ์จัดสรรให้ กลุ่มฯ จะต้องนำไปบริจาคเพื่อสาธารณกุศลทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังที่ระบุไว้ในคำนำ

การตัดสินใจดำเนินการครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากใจพอควรทีเดียว เพราะกลุ่มฯ รักษานโยบายการพิมพ์หนังสือเป็นธรรมทานมาตลอดกว่า ๒๐ ปี แต่ด้วยเหตุที่ได้เห็นหนังสือปฏิปทาและคำสอนของหลวงปู่ที่มีบางกลุ่มบางคณะเรียบเรียง และจัดจำหน่ายอย่างกว้างขวางในระยะหลังนี้ กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำเห็นว่ามีความคลาดเคลื่อนอยู่ไม่น้อย ซึ่งยิ่งเผยแพร่ออกไปมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้มีผู้เข้าใจหลวงปู่คลาดเคลื่อนมากเท่านั้น

สุดท้ายเพื่อที่จะรักษาและเผยแพร่ปฏิปทาและคำสอนที่ถูกตรงของหลวงปู่ออกไปในวงกว้าง กลุ่มฯ จึงต้องยอมรับข้อเสนอของสำนักพิมพ์อมรินทร์ฯ กระทั่งได้มีการจัดพิมพ์เผยแพร่ออกมาให้เห็นในสัปดาห์นี้เอง

อย่างไรก็ดี การจัดพิมพ์ครั้งนี้ กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำรู้สึกว่ายังไม่ถึงใจในบางประการ เช่น เนื้อหาที่ไม่ครบถ้วนเต็มที่อย่างเมื่อคราวจัดพิมพ์ "ตามรอยธรรม ย้ำรอยครูฯ" รวมทั้งบางบทความถูกปรับปรุงแก้ไขจากทีมงานของทางสำนักพิมพ์ฯ จนสำนวนเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง ที่สำคัญ แบบปก ก็ไม่ได้เป็นไปในแนวคลาสสิคอย่างที่เป็นสไตล์ของกลุ่มเพื่อนธรรมเพือนทำ ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นเงื่อนไขที่ทางสำนักพิมพ์ขอที่จะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวข้างต้น ด้วยเหตุผลทางการตลาด 

กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ ยอมรับว่าคงเป็นการยากที่จะให้ใคร ๆ เข้าใจในปณิธานของกลุ่มฯ ที่ต้องการเผยแพร่ธรรมคำสอนของหลวงปู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ปราศจากผลประโยชน์ส่วนตัวโดยสิ้นเชิง ซึ่งหากกลุ่มฯ ไม่ดำเนินการครั้งนี้ ปฏิปทาและคำสอนของหลวงปู่ที่มีผู้พยายามเผยแพร่ออกไปในทางอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ รวมทั้งมีการแต่งเติมคำสอนที่ "ไม่ใช่" เข้าไป จะเป็นโทษแก่ผู้อ่านไม่น้อย ที่สำคัญ เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในปฏิปทาและคำสอนของหลวงปู่ รวมทั้งเสียโอกาสที่จะได้รับเอาสาระธรรมที่ถูกตรงของหลวงปู่มาประพฤติปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเองในทางที่เป็นสัมมาทิฏฐิและสัมมาปฏิบัติ

กลุ่มฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าหลวงปู่ท่านรับทราบเจตนาอันบริสุทธิ์ และโมทนากับการดำเนินการของกลุ่มฯ ในอันที่จะมุ่งรักษาความบริสุทธิ์ของธรรมคำสอนของหลวงปู่ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน 

ย้อนรอยการออกแบบปกหนังสือของกลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ ภายหลังที่ได้คุณเอกและคุณออฟมาช่วยเสริมทัพ

ข้างบนเป็นเล่มล่าสุด คือ สมาธิภาวนากับหลวงตามหาบัว