luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   รักษาคำสอนมิให้วิปริต  (Read: 76709 times - Reply: 31 comments)   
 กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ
(Admin)

Posts: 75 topics
Joined: 5/11/2552

รักษาคำสอนมิให้วิปริต
« Thread Started on 12/3/2553 12:29:00 IP : 203.148.162.128 »
 
Attached File...


ความผิดต่อคำสอนนั้นมีได้ ๒ แบบ คือ ๑. การประพฤติที่วิปริตไปจากคำสอน และ ๒. การทำคำสอนให้วิปริต

 

การประพฤติที่วิปริตจากคำสอน ถือเป็นความผิดที่รุนแรงน้อยกว่าประการหลัง เพราะถือเป็นความผิดเฉพาะที่ตัวเรา ส่วนคำสอนต่าง ๆ ไม่ถูกกระทบหรือทำให้มัวหมอง

 

ส่วนการทำคำสอนให้วิปริตไปนี้ จัดเป็นความผิดที่รุนแรงกว่าข้อแรกอย่างมาก เพราะทำให้เนื้อตัวของคำสอนผิดเพี้ยนไป ส่งผลกระทบกับคนจำนวนมาก เพราะทำให้หลงทางหรือเสียโอกาสในสิ่งที่ควรได้ควรถึง เพราะไปหลงยึดเอาคำสอนที่ผิดมาปฏิบัติ  

 

บุคคลหรือคณะบุคคลที่ยุ่งเกี่ยวกับการเผยแพร่ธรรมะคำสอน ต้องตระหนักในเรื่องความผิดพลาดทั้งสองประการข้างต้นให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประการหลัง ไม่อย่างนั้นบุญจะไม่คุ้มบาป และถือว่าขาดความเคารพครูบาอาจารย์ เพราะบางครั้งเอาคำพูดของเราไปอ้างว่าเป็นคำพูดของครูบาอาจารย์ ชนิดที่ว่า “เอาคำของเราไปใส่ปากครูอาจารย์” ทำให้คนฟังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคำพูดออกจากองค์ท่านจริง ๆ ซึ่งถึงแม้จะมีเนื้อหาเป็นธรรม (ตามทัศนะของเรา ณ วันนี้) แต่ก็จัดว่าเป็นการกระทำที่ขาดความเคารพและไม่ซื่อสัตย์ต่อครูอาจารย์

 

โดยสรุป ในการเผยแพร่คำสอนของหลวงปู่หรือครูอาจารย์ท่านใดก็ตาม เราควรต้องรักษาความบริสุทธิ์ในคำพูดคำสอนของท่าน โดยจะไม่คิดเอาเอง หรือเอาความรู้ในทางนิมิตมาเผยแพร่ เพราะมันสุ่มเสี่ยงว่าจะมีอุปาทานแทรกซ้อนได้ แม้จะมีเจตนาที่บริสุทธิ์ หรือข้อความดังกล่าวแลดูเป็นอรรถเป็นธรรมก็ตาม (ถ้าแลดูเป็นอรรถเป็นธรรม ก็เผยแพร่ได้แต่ควรเผยแพร่กับบุคคลใกล้ตัวเท่านั้น มิใช่เผยแพร่กับสาธารณะ รวมทั้งต้องบอกที่มาที่ไปที่ชัดเจน ว่าไม่ได้มาจากปากท่านในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ หากแต่เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นที่จิตเรา)

นอกจากนี้ หากเป็นคำสอนที่จำสืบ ๆ กันมา แต่เข้ากันไม่ได้กับคำสอนโดยรวมของท่าน เราก็ต้องละไว้ ไม่นำมาเผยแพร่ โดยให้สันนิษฐานว่ามีการจดจำและเล่าสืบ ๆ กันมาจนเกิดความคลาดเคลื่อน หรืออาจเป็นคำสอนเฉพาะบุคคลจริง ๆ ซึ่งไม่เหมาะจะเผยแพร่เป็นสาธารณะ เพราะอาจทำให้คนหมู่ใหญ่สับสน

 

บ่อยครั้งที่ข้าพเจ้าเห็นคำสอนของหลวงปู่ทวด หรือสมเด็จโตฯ เผยแพร่ออกมาเป็นล่ำเป็นสัน พอสืบค้นไปแล้วพบว่ามีที่มาจากสำนักทรงบ้าง จากการนั่งสมาธิของใครบางคนบ้าง การเผยแพร่อย่างนี้หากเป็นไปอย่างกว้างขวางมากขึ้นก็จะทำให้คำพูดแท้ ๆ ของหลวงปู่กับคำพูดผ่านนิมิตของใคร ๆ มาปะปนกันจนแยกไม่ออก ไม่รู้อันไหนเป็นคำสอนจริง ๆ ของท่าน ซึ่งจริง ๆ แล้ว โอวาทของหลวงปู่ทวดนั้นจะมีมาเผยแพร่ได้อย่างไร ในเมื่อท่านละสังขารไปตั้งกว่า ๔๐๐ ปีมาแล้ว ขนาดว่าพระดำรัสของพระมหากษัตริย์ไทยในยุคนั้นก็ยังไม่มีเหลือถึงปัจจุบันเลย

 

ดังนั้น หากเราคิดว่าหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์เรา และเป็นดั่งพ่อแม่ของเรา ก็โปรดช่วยกันรักษาความบริสุทธิ์ในคำสอนของท่าน และพิจารณากลั่นกรองให้ดีก่อนเผยแพร่ออกไป  หากเป็นคำสอนที่ผุดรู้ขึ้นในจิตของผู้ปฏิบัติกรรมฐาน และอยากที่จะเล่าเพราะเห็นว่ามีเนื้อหาที่เป็นประโญชน์  ก็ให้เล่าเฉพาะหมู่เพื่อนใกล้ตัว รวมทั้งควรบอกที่มาที่ไปให้ชัดเจน ไม่ควรให้คนอื่นเขาเข้าใจผิด

 

ในสมัยหลวงปู่มีชีวิต เวลานักปฏิบัติได้นิมิตหลวงปู่มาสอนธรรมะ และเขานึกอยากจะเล่าให้หมู่เพื่อนใกล้ตัวฟังเพื่อเจริญศรัทธา เขาก็มักจะเริ่มต้นคำพูดว่า ถ้าผมไม่เพี้ยนไป หรือไม่เป็นเพราะปรุงแต่งจิตไปเอง เมื่อคืนในขณะที่ผมปฏิบัติกรรมฐาน ผมได้ยินหลวงปู่มาสอนว่า....................................” เป็นต้น

 

หากลูกศิษย์ไม่ว่าทันหรือไม่ทันท่าน ละเลยต่อการรักษาความบริสุทธิ์ในคำสอนของหลวงปู่ พากันเอาความรู้ภายในหรือทางนิมิตมาถ่ายทอดปะปนให้คนเข้าใจว่าเป็นคำสอนของหลวงปู่จริง ๆ อีกหน่อยสำนักทรงต่าง ๆ ก็คงถ่ายทอดว่าหลวงปู่ดู่สอนว่าอย่างนั้น สอนว่าอย่างนี้ เหมือนกับที่ทำกับหลวงปู่ทวด หรือสมเด็จโตฯ

 

จากปฏิปทาหลวงปู่ซึ่งเป็นผู้มักน้อยสันโดษ รวมทั้งเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน  วางตัวเป็นพระบ้านนอก เทศน์ไม่เป็น เป็นแต่ให้คติแง่คิดสั้น ๆ  ภาพของหลวงปู่ที่เกิดจากโอวาทแปลกปลอมก็อาจจะกลายเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่หลงตัว อวดตัว พูดจาทำนองได้วางหลักธรรมและวิชชาพิสดารต่าง ๆ ขึ้นมากมาย สุดท้ายคนที่เสียประโยชน์ก็คือคนยุคหน้าที่ไม่ทันทั้งสังขารของหลวงปู่ และไม่ทันทั้งคำสอนที่บริสุทธิ์ของหลวงปู่

 

ดังนั้น หากเคารพรักหลวงปู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ  ก็ควรช่วยกันรักษาความบริสุทธิ์ในโอวาทของท่าน และในกรณีที่ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยได้ยินได้ฟังคำสอนหลวงปู่ด้วยตนเอง ก็อาจอาศัยความเข้าใจจากการศึกษาปฏิปทาและคำสอนของหลวงปู่จาก         ”หนังสือตามรอยธรรม ย้ำรอยครู หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” ที่จะช่วยให้เราพอเห็นภาพรวมปฏิปทาและบุคลิกภาพของท่านตามสมควรในระดับที่พอจะวินิจฉัยได้ว่าคำสอนใดน่าจะใช่ คำสอนน่าจะไม่ใช่ เช่น

 

·       คำสอนที่ขัดกับหลักการพึ่งตนเอง
กล่าวคือมัวแต่พึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมนต์วิเศษ เพราะตลอดชีวิตของท่าน ท่านมีแต่จะกระตุ้นให้ลูกศิษย์ไปทำงาน (ทำกรรมฐาน) ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ท่านพูดเสมอว่าท่านเป็นเพียงผู้ชี้ทาง พวกเราต้องขวนขวายทำเอาเองจึงจะได้) จะโมทนาอย่างเดียว หรือเอาแต่สวดมนต์อ้อนวอนขอร้องไม่ได้

 

·       คำสอนที่ไม่เป็นไปเพื่อความสันโดษ
กล่าวคือ ทำให้อยู่ยาก กินยาก ชิวิตที่เรียบง่ายหายไป กลายเป็นชีวิตที่ติดสุขหรือติดสิ่งอำนวยความสะดวก

 

 

·       คำสอนที่พาให้หลงวนเวียนในเรื่องบุญหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพลังงานลึกลับ
กล่าวคือสอนให้หมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่องทาน เรื่องศรัทธา หรือเรื่องปาฏิหาริย์จนไม่มีเวลาให้กับสิ่งที่เป็นคุณค่าสูงสุดนั่นคือการปฏิบัติในหลักแห่งศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อจะให้มีตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

 

·       คำสอนที่เน้นให้ยึดมั่นถือมั่นในตัวอาจารย์
กล่าวคือ ท่านจะไม่สอนให้เรายึดตัวบุคคลหรือยึดตัวครูอาจารย์ หากแต่ให้ยึดที่ธรรมะ ดังที่ท่านกล่าวว่า ธรรมที่ท่านให้ไว้น่ะ จงรักษาเท่าชีวิต เพราะจะเป็นที่พึ่งได้ในภายหน้า และท่านยังสอนว่าการจะไปสวรรค์นิพพาน เราต้องทำเอาเอง ท่านส่งใครไปไม่ได้ ท่านเป็นเพียงผู้ชี้ทางเท่านั้น

 

·       คำสอนที่มุ่งหาทางลัดตรง
กล่าวคือ มุ่งจะเอาธรรมะชั้นสูง โดยมองข้ามธรรมะพื้นฐาน คล้ายจะสร้างยอดเจดีย์โดยไม่สร้างฐานเจดีย์ให้แข็งแรงเสียก่อน  หลวงปู่ทั้งสอนทั้งให้กำลังใจว่า “เบื้องต้นก็จะขึ้นยอดตาล มีหวังตกลงมาตาย หรือแข้งขาหักเท่านั้น”  และ “หมั่นทำเข้าไว้ ๆ” เราจะมัวพูดถึงหรือจินตนาการในสมบัติหรือผลการปฏิบัติของครูอาจารย์ โดยที่เมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าเราแล้ว กลับพบว่าแทบไม่มีเงิน (ศีล สมาธิ และปัญญา) ติดกระเป๋าเลยนั้น ถือว่าตั้งอยู่ในความประมาทมาก

 

·       คำสอนที่ทำให้ตั้งอยู่ในความประมาทและเพื่อความเนิ่นช้า
เช่น พาให้หลงหมกมุ่นอยู่กับเครื่องเล่นต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลพลอยได้ทางสมาธิหรือแม้กระทั่งวัตถุมงคลต่าง ๆ  จนแทบไม่เหลือเวลาให้กับการภาวนาละกิเลส รวมไปถึงคำสอนที่ทำให้หลงสำคัญตนว่าเป็นผู้สั่งสมบุญบารมีมาแต่เก่าก่อน ชาตินี้ทำพอเป็นนิสัยปัจจัยเพื่อรอจะไปบรรลุธรรมในยุคพระศรีอาริย์ทีเดียว ซึ่งเป็นทัศนะที่น่ากลัวที่สุด ซึ่งผู้ที่ทันหลวงปู่จะรู้ดีว่า หลวงปู่ห่วงลูกศิษย์ของท่านขนาดไหน แม้ขยันภาวนาอยู่กับท่านทุกวัน ท่านก็ยังไม่รับรองว่าจะพ้นนรกหรืออบายภูมิเลย คำสอนของท่านมีจุดหมายปลายทางที่การเตรียมตัวตายเพื่อให้สามารถตายอย่างผู้มีชัย ด้วยการขวนขวายสร้างภูมิสมาธิและปัญญาให้พอตัว หรือปฏิบัติให้ถึงหนึ่งในสี่ (อริยบุคคลเบื้องต้น) อันเป็นเป้าหมายที่ท่านให้ลูกศิษย์ทุกคนยึดหลักนี้ไว้ให้ชัดเจน เพื่อความเที่ยงแท้แน่นอนว่าจะไม่ลงอบาย โดยท่านไม่เคยสอนใครเลยว่า ปฏิบัติพอเป็นนิสัยปัจจัย เพื่อจะไปบรรลุธรรมในยุคพระศรีอาริย์ มีแต่สอนให้ปฏิบัติให้เต็มที่ หากไม่ได้ไม่ถึง อย่างน้อยสิ่งที่สั่งสมไว้ดีแล้วนี้จะช่วยให้เราได้ไปเกิดในยุคพระศรีอาริย์ มิใช่มัวประมาทกินบุญเก่าอยู่ 

 

หมายเหตุ  โดยปรกติ หลวงปู่จะเรียกตัวเองว่า “ข้า” และเรียกคู่สนทนาว่า “แก” ไม่ใช่ “มึง”
อย่างที่ปรากฏเผยแพร่ในบางแห่ง

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
จำนวนข้อความทั้งหมด:  26
1
2
3
>
แสดงความคิดเห็น
Aimee2500

Posts: 44 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 12/3/2553 12:44:00 IP : 86.181.86.227 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 

สัทธา ทานัง อนุโมทามิ

สัทธา ทานัง อนุโมทามิ

สัทธา ทานัง อนุโมทามิ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
tpyw

Posts: 0 topics
Joined: 15/1/2553

ความคิดเห็นที่ 2  « on 12/3/2553 14:00:00 IP : 203.146.104.44 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 

ขอโมทนาสาธุด้วยครับ

เรื่องนี้คงทำความอึดอัดใจให้กับลูกศิษย์ไม่น้อย

ขอให้ร่วมกัน รักษาคำสอนมิให้วิปริต นะครับ

Tippayawut

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
mature_na

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 3  « on 12/3/2553 14:05:00 IP : 58.137.189.178 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 

 

 

ขอโมทนาสาธุด้วยเช่นกันครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 4  « on 12/3/2553 20:16:00 IP : 124.121.132.35 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 
tpyw Talk:

เรื่องนี้คงทำความอึดอัดใจให้กับลูกศิษย์ไม่น้อย

.......

Tippayawut



ฟังดูแปลก ๆ อยู่นะครับ

การเผยแพร่คำสอนครูบาอาจารย์ออกไปด้วยความซื่อตรงคือตรงไปตรงมาไม่ดัดแปลงให้เสียเนื้อหาสาระเดิม และด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังอามิสหรือผลตอบแทนใด ๆ ก็มีแต่จะสร้างความอิ่มเอมใจว่าเราได้ตอบแทนคุณครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้ให้แสงสว่างทางปัญญาแก่เรา ตามกำลังสติปัญญาความสามารถอันน้อยนิดของเรา

ดังนั้น หากจะอึดอัดเพราะการรักษาคำสอนครูบาอาจารย์ให้ถูกตรง จึงฟังดูแปลก ๆ ครับ

พอเข้าใจว่าคุณ Tippayawut มิได้หมายความทำนองนั้น แต่จำต้องเขียนเอาไว้เผื่อมีผู้อ่านมาอ่านแล้วอาจเกิดข้อสงสัยครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
tpyw

Posts: 0 topics
Joined: 15/1/2553

ความคิดเห็นที่ 5  « on 12/3/2553 22:35:00 IP : 58.11.80.157 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 


สวัสดีครับพี่สิทธิ์

 

ขอบคุณพี่ครับที่ช่วยขยายความ ต้องขอโทษ

ด้วยครับที่ไม่ได้ดูให้รอบคอบว่าอาจหมายความว่า

อึดอัดใจในการรักษาคำสอน......

ที่ต้องการแสดงความเห็นคือ รู้สึกอึดอัดใจมานาน

แล้วครับเวลาไปอ่านข้อความหรือคำบอกเล่าที่ถูกปรุงแต่ง แต่ก็ไม่รู้ทำอย่างไรได้แต่รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก

และรู้สึกดีใจครับที่ทางคุณ Administrator ได้นำเรื่องนี้มาเขียนให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ในตอนนี้

ด้วยความเคารพและนับถือครับพี่

Tippayawut

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
witlessness

Posts: 0 topics
Joined: 16/3/2553

ความคิดเห็นที่ 6  « on 16/3/2553 10:44:00 IP : 203.144.144.165 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 
ขอขอบคุณ คุณ Administrator มากครับที่ได้ตั้งกระทู้นี้ 
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
nongbug

Posts: 0 topics
Joined: 16/3/2553

ความคิดเห็นที่ 7  « on 16/3/2553 22:37:00 IP : 115.67.95.71 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 
อนุโมทนาครับ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
gftor

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 8  « on 19/3/2553 13:24:00 IP : 58.137.145.50 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 

โมทนา สาธุ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
vimar

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 9  « on 20/3/2553 22:17:00 IP : 70.70.236.155 »   
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 

ขออนุญาต นำไปเผยแผ่ต่อไปได้หรือไม่คะ

กระทู้ในเว็บบอร์ดนี้ ก่อนจะนำไปเผยแผ่ จะขออนุญาตทุกครั้ง

จะคอยคำตอบ  จะไม่คัดลอกไปโดยพละการเด็ดขาด

ขอบคุณค่ะ

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ
(Admin)

Posts: 75 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 10  « on 21/3/2553 6:56:00 IP : 118.172.23.63 »     Edit Topic
Re: รักษาคำสอนมิให้วิปริต
 

เรียนคุณ vimar

กระทู้ต่าง ๆ ในเวปนี้ ยินดีให้นำไปเผยแพร่ต่อครับ

คุณ vimar เป็นคนที่ละเอียดในศีลมาก ขออนุโมทนาสาธุครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
2
3
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 12 Visits: 16,614,450 Today: 6,027 PageView/Month: 85,906