luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่  (Read: 21642 times - Reply: 10 comments)   
รณน

Posts: 0 topics
Joined: none

รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
« Thread Started on 13/6/2553 13:21:00 IP : 58.8.242.201 »
 

นานๆครั้งถึงจะได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่ที่วัดสะแก และทุกครั้งที่ไป ก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ(อย่างน่าใจหาย) คำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจก็คือ พวกเรามักพูดกันเสมอๆว่า รักและเคารพหลวงปู่" แต่ทำไมกลับไม่เชื่อหลวงปู่ กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่ท่านได้สอนพวกเราเสมอมา กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์ก็เพื่ออยากจะให้ศิษย์พี่ๆน้องๆรุ่นหลังได้ทราบถึงสิ่งที่เป็นคำสั่งคำสอนของหลวงปู่ดู่ ที่พวกเรา (ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่) ควรเห็นความสำคัญและตั้งใจที่จะไม่ประพฤติล่วงคำสั่งคำสอนของท่าน  ที่ขอยกมา ณ ที่นี้ คือบางส่วนของคำสั่งหรือดำริของหลวงปู่ที่พวกเราควรตระหนัก ได้แก่

 ๑. หลวงปู่สั่งห้ามเรี่ยไรเงิน (ทุกวันนี้ยังมีประกาศห้ามเรี่ยไรเงิน ลายมือของหลวงลุงยวง ติดไว้ที่เสาตรงข้ามกุฏิของหลวงปู่) แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยที่ชอบมาเรี่ยไรที่หน้ากุฏิหลวงปู่อีก เหมือนจะท้าทายที่หน้าหุ้นขี้ผึ้งรูปเหมือนหลวงปู่ ว่าบัดนี้หลวงปู่ละสังขารไปแล้ว ไม่มีใครมาห้ามฉันได้หรอก

๒. หลวงปู่สั่งไม่ให้จับกลุ่มคุยในขณะที่กำลังภาวนากัน ก็ยังพากันจับกลุ่มคุยส่งเสียงรบกวน จะนั่งสมาธิก็มีเสียงคุยรบกวน ออกไปเดินจงกรมยามค่ำมืดก็ยังมีเสียงจับกลุ่มคุยกันอีก หากหาความสงบในวัดไม่ได้แล้ว จะไปหาความสงบ ณ ที่ใด ที่ว่าภาวนาที่ใดก็ได้นั่น หมายถึงผู้ที่ทำได้ทำถึงมาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นจะไปภาวนาที่ไหน ๆ ก็ได้ แต่ผู้กำลังฝึกหัดตน สภาพแวดล้อมย่อมมีผลอย่างมาก ไม่อย่างนั้นหลวงปู่จะกล่าวหรือว่าภาวนาที่วัดกับที่บ้านนั้นย่อมไม่เหมือนกัน นี้ยังไม่นับรวมที่คุยข้ามหัวคนนั่งภาวนาก็ยังมีให้เห็น หากหลวงปู่ยังมีชีวิต ท่านจะสลดสังเวชใจเพียงใด

๓. หลวงปู่บอกว่าท่านไม่เคยวางและจะไม่วางหลักปฏิบัติใหม่ ที่เกินเลยแบบที่พระพุทธเจ้าวางไว้เด็ดขาด ก็ยังพากันอุปโลกน์สร้างวิชาพิสดารอะไรขึ้นมาอีก ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ต้องการจะเก่งเกินพระพุทธเจ้า รู้เทคนิควิธีที่ดีกว่าพระพุทธเจ้าสอนเสียอีก

๔. หลวงปู่สอนให้จริงจังและสม่ำเสมอต่อการปฏิบัติ ก็ยังพากันสอนให้ปฏิบัติแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ทั้ง ๆ ที่หลวงปู่ครูบาอาจารย์ปฏิบัติแทบล้มแทบตายกว่าจะได้ธรรม ทำเหมือนว่าจะมีบารมีธรรมที่สั่งสมอบรมมามากกว่าหลวงปู่และครูบาอาจารย์เหล่านั้น     คำว่าสบาย ๆ นั้นหมายความถึงการวางใจมิให้เกิดความเคร่งเครียดหรือเต็มไปด้วยการคาดหวังผลว่าเมื่อไหร่จิตจะสงบหรือเกิดปัญญาสักที      พูดอีกอย่างว่า วางใจสบาย ๆ หมายความว่าให้จิตมีฉันทะหรือยินดีต่อการปฏิบัติ เห็นคุณค่าของการปฏิบัติซึ่งเป็นส่วนของเหตุ (มิใช่ผล) เหมือนเราเป็นช่างสร้างบ้าน ก็ให้ทำการสร้างบ้านอย่างมีความสุขและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติในทุกขั้นตอน มิใช่ทำไปหน่อยหนึ่งแล้วก็อู้งาน มัวแต่นั่งบ่นนั่งกังวลว่าเมื่อไหร่บ้านจะเสร็จสักที  

๕. หลวงปู่สอนให้ทำตามแบบพระพุทธเจ้า (คือ ศีล สมาธิ ปัญญา) เราก็ยังพากันหาทางลัดกว่านี้ เช่น ละศีลออกบ้าง ละสมาธิออกบ้าง มุ่งจับยอดคือตัวปัญญา (หรือที่นิยมเรียกว่าวิปัสสนา) เสียเลยดีกว่า ผลก็เลยเป็นเหมือนข้าวโพดปิ้งที่ไม่มีไฟ ปิ้งเท่าไร ๆ ก็ไม่สุกไม่หอม เพราะไม่มีศีลและสมาธิ องค์ประกอบจึงไม่ครบสมบูรณ์ หากบอกว่าอยู่เฉย ๆ ก็เป็นศีล วางใจเฉย ๆ ก็เป็นสมาธิ หากสิ่งเหล่านี้จะมีมาได้โดยปราศจากความเพียรชอบ ปราศจากการฝึกการฝืน ปราศจากการอบรมดัดจิตใจให้ตรง เป็นของมีได้ตามธรรมชาติหรือมีมาได้โดยง่าย ๆ  พระองค์ก็คงไม่ต้องเหนื่อยสอนและวางหลักวิธีปฏิบัติมากมายเพียงนี้ 

จึงว่าหากบอกว่ารักและเคารพหลวงปู่ ก็ขอได้โปรดเชื่อท่านและปฏิบัติตามที่ท่านอบรมสั่งสอน อย่าได้ปฏิบัติอย่างที่เรียกว่า "ท้าทาย" ท่าน ก็จะได้ชื่อว่ารักเคารพท่านจริง และเป็นการปฏิบัติธรรมโดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ เพื่อความยืนยาวของคำสั่งคำสอนของหลวงปู่ และประโยชน์ที่จะเกิดกับตัวเราเองและผู้มาภายหลังทั้งในปัจจุบันและในอนาคต...จึงขอฝากมาให้พวกเราช่วยกันนำเอาบรรยากาศเก่าๆ เมื่อครั้งหลวงปู่ท่านยังดำรงค์ขันธ์อยู่กับพวกเรากลับคืนมาสู่วัดสะแก

เมื่อครั้งพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานได้เพียงไม่กี่วัน ก็มีพระสาวกบวชใหม่ผู้เป็นพาลบางรูปกล่าวทำนองดีใจว่าต่อแต่นี้ไปก็จะไม่มีใครมาคอยห้ามนั่นห้ามนี่อีกแล้ว พวกเขาจักทำอะไร ๆ ได้ตามชอบใจ จึงเป็นเหตุนำมาซึ่งการสังคายนาเพื่อให้เกิดพระธรรมวินัยที่เป็นหมวดหมู่สะดวกต่อการจดจำและเผยแพร่ โดยให้มีความสมบูรณ์บริบูรณ์เพียงพอต่อการใช้อ้างอิง และที่สำคัญอย่างยิ่งคือใช้เป็นศาสดาแทนพระองค์ พระมหากัสสปะ ทั้ง ๆ ที่ท่านอยู่แต่ในป่า  แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นซึ่งมีผลกระทบด้านลบต่อพระพุทธศาสนา ท่านก็ออกจากป่ามาเป็นผู้นำในการทำการสังคายนาพระไตรปิฎก และในระหว่างแห่งการสังคายนาก็มีประเด็นเรื่องอาบัติเล็กน้อย ที่พระพุทธองค์อนุโลมว่าพระภิกษุสงฆ์สามารถถอนสิกขาบทที่เห็นว่าเป็นประเด็นเล็กน้อยบางข้อออกได้ อย่างไรก็ดี พระภิกษุสงฆ์ (ซึ่งล้วนเป็นพระอรหันต์) มีทัศนะไม่เป็นเอกฉันท์ว่าสิกขาบทอะไรบ้างที่จะอยู่ในข่ายที่พระพุทธองค์ประสงค์ให้อนุโลมว่าเป็นประเด็นเล็กน้อยที่สามารถถอนออกได้ (คือไม่ต้องปฏิบัติตาม)  

ดังนั้น พระมหากัสสปะในฐานะประธานการสังคายนา  จึงกล่าวในท่ามกลางสงฆ์ว่า เมื่อไม่มีข้อยุติว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าอาบัติเล็กน้อย เช่นนี้แล้ว เหล่าพระภิกษุสงฆ์ก็ไม่ควรประพฤติให้ชนทั้งหลายกล่าวได้ว่า สิกขาบทที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติขึ้นนั้นจักอยู่ได้เพียงแค่ชั่วระยะเวลาที่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนมาชีพอยู่เท่านั้น เปรียบเหมือนการยึดถือคำสั่งคำสอนแค่เพียงชั่วระยะกาลแห่งควันไฟเท่านั้น

ขอให้พวกเรามาช่วยกันรักษาและยึดถือคำสั่งสอนของหลวงปู่ที่เรารักและเคารพ อย่าให้คำสั่งสอนของท่านเลือนหายหรือดำรงค์อยู่ได้แค่เพียงชั่วระยะกาลแห่งควันไฟเท่านั้น เลย...

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
จำนวนข้อความทั้งหมด:  9
1
แสดงความคิดเห็น
Aimee2500

Posts: 44 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 13/6/2553 21:37:00 IP : 86.179.198.67 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 
ว่างๆ รบกวนคุณรณน ช่วยเขียนเล่าประสพการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่และคำสั่งสอนของท่านให้พวกเราศิษย์ที่ไม่ทันหลวงปู่ท่าน ได้ฟังบ้างสิค่ะ ถือว่าช่วยคุณสิทธิ์ด้วย พวกเราจะได้มีเรื่องอ่านและเข้าใจได้มากขึ้น   คิดว่าคุณรณน คงจะไม่ปฎิเสธนะค่ะ ส่วนทางคุณสิทธิ์ก็คงจะไม่ขัดข้องนะค่ะ  อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
Specialized

Posts: 0 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 2  « on 14/6/2553 9:49:00 IP : 222.123.29.147 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 

สาธุ อนุโมทนาครับ เห็นด้วยกับ พี่ รณน ครับ มาช่วยกันปกป้องรักษาคำสอนที่ถูกที่ควรของท่ากนันเถอะครับ

 ปัจจุบันนี้ศิษย์ใหม่ที่เคารพนับถือท่านหลายคน พากันนั่งสมาธิเห็นหลวงปู่มาสอนวิชาแปลกประหลาด พิสดาร บอกว่าหลวงปู่มาสอนวิชาดูดวงให้ก็มี !?

 ใครจะเชื่อบุคคลเหล่านี้ก็ขอให้ตรองให้ดีเถอะครับ ว่าท่านจะน้อมนำคำสอนแท้ๆของหลวงปู่มาปฎิบัติ หรือปฎิบัติตามคำสอนที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะศิษย์ยุคหลัง ...

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
yingka

Posts: 50 topics
Joined: 9/11/2552

ความคิดเห็นที่ 3  « on 15/6/2553 16:34:00 IP : 124.120.151.77 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 
อนุโมทนาสาธุค่ะ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 4  « on 15/6/2553 21:15:00 IP : 115.87.46.201 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 

นาน ๆ คุณรณนจะเข้ามาเขียนกระทู้สักที คราวนี้สรุปให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงซะชัดเจนเชียว

ศิษย์ตัวน้อย ๆ อย่างพวกเรา ก็คงทำเท่าที่ทำได้ เพื่อตอบแทนคุณและถวายกุศลแด่หลวงปู่ดู่ที่เราเคารพรัก อยากให้คำสอนและปฏิปทาที่ถูกตรงของท่านได้ถูกถ่ายทอดและรักษาไว้ให้บริสุทธิ์เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มากตราบนานเท่านาน

อนุโมทนากับคุณรณนด้วยครับ สาธุ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
gftor

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 5  « on 16/6/2553 13:53:00 IP : 58.137.145.50 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 

โมทนา สาธุ...

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
รณน

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 6  « on 19/6/2553 21:50:00 IP : 58.8.168.34 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 

ขออนุโมทนากับทุกๆท่านครับ

ผมเป็นคนสมองไม่ค่อยจะดี จะจดจะจำอะไรก็ยาก เกรงว่าจะคลาดเคลื่อนในการเล่าเรื่องหรือถ่ายทอดคำสอนของหลวงปู่ที่เคยได้ยินได้ฟังมา เท่าที่ได้ติดตามงานเขียนของคุณสิทธิ์ ผมก็ว่าท่านถ่ายทอดคำสอนของหลวงปู่ได้ตรงไปตรงมาละเอียดรอบด้าน ได้อย่างน่าชื่นชม (ขอชื่นชมและอนุโมทนาครับ)

ส่วนคณะที่เป็นผู้บริหารเวปไซด์นี้ ผมก็ขอถือโอกาสชื่นชมและอนุโมทนาเช่นเดียวกันครับ ผมรู้สึกได้ถึงความพยายามของท่านในการที่จะรักษาและถ่ายทอดคำสอนของหลวงปู่อย่างบริสุทธิ์ตรงไปตรงมา โดยไม่มีของแปลกๆเจือปน (อย่างในเวปอื่นๆ ที่ผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชม ซึ่งมีการพยายามที่จะสร้างจุดเด่นต่างๆ วิชาแปลกๆ ให้น่าตื่นเต้นในรูปแบบต่างๆ มันทำให้ผมทั้งประหลาดใจและไม่เข้าใจว่าเขาทำกันไปทำไม...เพื่ออะไร หลวงปู่ท่านไม่เคยพาทำอย่างนั้นเลย)

ถ้าผมมีโอกาสหรือนึกอะไรได้จากสมองอันมีอยู่น้อยนิด ก็จะพยายามเข้ามาเขียนครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
weeravit

Posts: 0 topics
Joined: 11/11/2555

ความคิดเห็นที่ 7  « on 14/9/2556 20:09:00 IP : 124.121.72.81 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 

   บทความที่ถ่ายทอดจากศิษย์ผู้ที่ทันหลวงปู่นี้ดีมากๆเลยครับ เหมาะสำหรับศิษย์รุ่นใหม่และอีกหลายๆคน ที่ไม่ทันหลวงปู่ ได้รับรู้และเข้าใจในสิ่งที่หลวงปู่พาทำ ไม่ปฎิบัติออกนอกทางที่ท่านพาทำ

       “รักและเคารพหลวงปู่" แต่ทำไมกลับไม่เชื่อหลวงปู่

  

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 8  « on 14/9/2556 22:33:00 IP : 27.145.188.119 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 
รณน Talk:

นานๆครั้งถึงจะได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่ที่วัดสะแก และทุกครั้งที่ไป ก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ(อย่างน่าใจหาย) คำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจก็คือ พวกเรามักพูดกันเสมอๆว่า “รักและเคารพหลวงปู่" แต่ทำไมกลับไม่เชื่อหลวงปู่ กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่ท่านได้สอนพวกเราเสมอมา กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์ก็เพื่ออยากจะให้ศิษย์พี่ๆน้องๆรุ่นหลังได้ทราบถึงสิ่งที่เป็นคำสั่งคำสอนของหลวงปู่ดู่ ที่พวกเรา (ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่) ควรเห็นความสำคัญและตั้งใจที่จะไม่ประพฤติล่วงคำสั่งคำสอนของท่าน  ที่ขอยกมา ณ ที่นี้ คือบางส่วนของคำสั่งหรือดำริของหลวงปู่ที่พวกเราควรตระหนัก ได้แก่

 ๑. หลวงปู่สั่งห้ามเรี่ยไรเงิน (ทุกวันนี้ยังมีประกาศห้ามเรี่ยไรเงิน – ลายมือของหลวงลุงยวง ติดไว้ที่เสาตรงข้ามกุฏิของหลวงปู่) แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยที่ชอบมาเรี่ยไรที่หน้ากุฏิหลวงปู่อีก เหมือนจะท้าทายที่หน้าหุ้นขี้ผึ้งรูปเหมือนหลวงปู่ ว่าบัดนี้หลวงปู่ละสังขารไปแล้ว ไม่มีใครมาห้ามฉันได้หรอก

๒. หลวงปู่สั่งไม่ให้จับกลุ่มคุยในขณะที่กำลังภาวนากัน ก็ยังพากันจับกลุ่มคุยส่งเสียงรบกวน จะนั่งสมาธิก็มีเสียงคุยรบกวน ออกไปเดินจงกรมยามค่ำมืดก็ยังมีเสียงจับกลุ่มคุยกันอีก หากหาความสงบในวัดไม่ได้แล้ว จะไปหาความสงบ ณ ที่ใด ที่ว่าภาวนาที่ใดก็ได้นั่น หมายถึงผู้ที่ทำได้ทำถึงมาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นจะไปภาวนาที่ไหน ๆ ก็ได้ แต่ผู้กำลังฝึกหัดตน สภาพแวดล้อมย่อมมีผลอย่างมาก ไม่อย่างนั้นหลวงปู่จะกล่าวหรือว่าภาวนาที่วัดกับที่บ้านนั้นย่อมไม่เหมือนกัน นี้ยังไม่นับรวมที่คุยข้ามหัวคนนั่งภาวนาก็ยังมีให้เห็น หากหลวงปู่ยังมีชีวิต ท่านจะสลดสังเวชใจเพียงใด

๓. หลวงปู่บอกว่าท่านไม่เคยวางและจะไม่วางหลักปฏิบัติใหม่ ที่เกินเลยแบบที่พระพุทธเจ้าวางไว้เด็ดขาด ก็ยังพากันอุปโลกน์สร้างวิชาพิสดารอะไรขึ้นมาอีก ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ต้องการจะเก่งเกินพระพุทธเจ้า รู้เทคนิควิธีที่ดีกว่าพระพุทธเจ้าสอนเสียอีก

๔. หลวงปู่สอนให้จริงจังและสม่ำเสมอต่อการปฏิบัติ ก็ยังพากันสอนให้ปฏิบัติแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ทั้ง ๆ ที่หลวงปู่ครูบาอาจารย์ปฏิบัติแทบล้มแทบตายกว่าจะได้ธรรม ทำเหมือนว่าจะมีบารมีธรรมที่สั่งสมอบรมมามากกว่าหลวงปู่และครูบาอาจารย์เหล่านั้น     คำว่าสบาย ๆ นั้นหมายความถึงการวางใจมิให้เกิดความเคร่งเครียดหรือเต็มไปด้วยการคาดหวังผลว่าเมื่อไหร่จิตจะสงบหรือเกิดปัญญาสักที      พูดอีกอย่างว่า “วางใจสบาย ๆ” หมายความว่าให้จิตมีฉันทะหรือยินดีต่อการปฏิบัติ เห็นคุณค่าของการปฏิบัติซึ่งเป็นส่วนของเหตุ (มิใช่ผล) เหมือนเราเป็นช่างสร้างบ้าน ก็ให้ทำการสร้างบ้านอย่างมีความสุขและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติในทุกขั้นตอน มิใช่ทำไปหน่อยหนึ่งแล้วก็อู้งาน มัวแต่นั่งบ่นนั่งกังวลว่าเมื่อไหร่บ้านจะเสร็จสักที  

๕. หลวงปู่สอนให้ทำตามแบบพระพุทธเจ้า (คือ ศีล สมาธิ ปัญญา) เราก็ยังพากันหาทางลัดกว่านี้ เช่น ละศีลออกบ้าง ละสมาธิออกบ้าง มุ่งจับยอดคือตัวปัญญา (หรือที่นิยมเรียกว่าวิปัสสนา) เสียเลยดีกว่า ผลก็เลยเป็นเหมือนข้าวโพดปิ้งที่ไม่มีไฟ ปิ้งเท่าไร ๆ ก็ไม่สุกไม่หอม เพราะไม่มีศีลและสมาธิ องค์ประกอบจึงไม่ครบสมบูรณ์ หากบอกว่าอยู่เฉย ๆ ก็เป็นศีล วางใจเฉย ๆ ก็เป็นสมาธิ หากสิ่งเหล่านี้จะมีมาได้โดยปราศจากความเพียรชอบ ปราศจากการฝึกการฝืน ปราศจากการอบรมดัดจิตใจให้ตรง เป็นของมีได้ตามธรรมชาติหรือมีมาได้โดยง่าย ๆ  พระองค์ก็คงไม่ต้องเหนื่อยสอนและวางหลักวิธีปฏิบัติมากมายเพียงนี้ 

จึงว่าหากบอกว่ารักและเคารพหลวงปู่ ก็ขอได้โปรดเชื่อท่านและปฏิบัติตามที่ท่านอบรมสั่งสอน อย่าได้ปฏิบัติอย่างที่เรียกว่า "ท้าทาย" ท่าน ก็จะได้ชื่อว่ารักเคารพท่านจริง และเป็นการปฏิบัติธรรมโดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ เพื่อความยืนยาวของคำสั่งคำสอนของหลวงปู่ และประโยชน์ที่จะเกิดกับตัวเราเองและผู้มาภายหลังทั้งในปัจจุบันและในอนาคต...จึงขอฝากมาให้พวกเราช่วยกันนำเอาบรรยากาศเก่าๆ เมื่อครั้งหลวงปู่ท่านยังดำรงค์ขันธ์อยู่กับพวกเรากลับคืนมาสู่วัดสะแก

 

เมื่อครั้งพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานได้เพียงไม่กี่วัน ก็มีพระสาวกบวชใหม่ผู้เป็นพาลบางรูปกล่าวทำนองดีใจว่าต่อแต่นี้ไปก็จะไม่มีใครมาคอยห้ามนั่นห้ามนี่อีกแล้ว พวกเขาจักทำอะไร ๆ ได้ตามชอบใจ จึงเป็นเหตุนำมาซึ่งการสังคายนาเพื่อให้เกิดพระธรรมวินัยที่เป็นหมวดหมู่สะดวกต่อการจดจำและเผยแพร่ โดยให้มีความสมบูรณ์บริบูรณ์เพียงพอต่อการใช้อ้างอิง และที่สำคัญอย่างยิ่งคือใช้เป็นศาสดาแทนพระองค์ พระมหากัสสปะ ทั้ง ๆ ที่ท่านอยู่แต่ในป่า  แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นซึ่งมีผลกระทบด้านลบต่อพระพุทธศาสนา ท่านก็ออกจากป่ามาเป็นผู้นำในการทำการสังคายนาพระไตรปิฎก และในระหว่างแห่งการสังคายนาก็มีประเด็นเรื่องอาบัติเล็กน้อย ที่พระพุทธองค์อนุโลมว่าพระภิกษุสงฆ์สามารถถอนสิกขาบทที่เห็นว่าเป็นประเด็นเล็กน้อยบางข้อออกได้ อย่างไรก็ดี พระภิกษุสงฆ์ (ซึ่งล้วนเป็นพระอรหันต์) มีทัศนะไม่เป็นเอกฉันท์ว่าสิกขาบทอะไรบ้างที่จะอยู่ในข่ายที่พระพุทธองค์ประสงค์ให้อนุโลมว่าเป็นประเด็นเล็กน้อยที่สามารถถอนออกได้ (คือไม่ต้องปฏิบัติตาม)  

ดังนั้น พระมหากัสสปะในฐานะประธานการสังคายนา  จึงกล่าวในท่ามกลางสงฆ์ว่า เมื่อไม่มีข้อยุติว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าอาบัติเล็กน้อย เช่นนี้แล้ว เหล่าพระภิกษุสงฆ์ก็ไม่ควรประพฤติให้ชนทั้งหลายกล่าวได้ว่า สิกขาบทที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติขึ้นนั้นจักอยู่ได้เพียงแค่ชั่วระยะเวลาที่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนมาชีพอยู่เท่านั้น เปรียบเหมือนการยึดถือคำสั่งคำสอนแค่เพียงชั่วระยะกาลแห่งควันไฟเท่านั้น

ขอให้พวกเรามาช่วยกันรักษาและยึดถือคำสั่งสอนของหลวงปู่ที่เรารักและเคารพ อย่าให้คำสั่งสอนของท่านเลือนหายหรือดำรงค์อยู่ได้แค่เพียงชั่วระยะกาลแห่งควันไฟเท่านั้น เลย...

 

ขอความบริสุทธิ์แห่งคำสอนและปฏิปทาที่ถูกตรงของหลวงปู่จะยังคงดำรงอยู่เพื่อประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังตราบนานเท่านาน

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
ปุถุชน

Posts: 1 topics
Joined: 8/5/2556

ความคิดเห็นที่ 9  « on 15/9/2556 12:50:00 IP : 202.29.26.247 »   
Re: รักเคารพหลวงปู่ แต่ทำไมไม่เชื่อหลวงปู่
 

กราบขอบพระคุณบ้านหลังนี้ พี่รณนและพี่สิทธิ์ครับผม

จริงอย่างผู้รู้ท่านเตือนว่า " หากเราไม่เคยเห็นของจริง เราย่อมไม่รู้ว่าของปลอมต่างกันอย่างไร " ขอน้อมรับอย่างบริสุทธิ์ใจครับว่า หากไม่เจอบ้านหลวงปู่อมยิ้ม ผมคงมืดบอดและตายเปล่าอีกชาติแน่ ๆ ( เมื่อเจอของจริง ต้องทำให้จริง )

อนุโมทนา สาธุการยิ่ง และขอน้อมปฏิบัติตลอดไปครับผม

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 5 Visits: 16,674,540 Today: 1,261 PageView/Month: 55,911