สำหรับผมขอเล่าเรื่องสู่กันฟังครับ แต่ขออณุญาติไม่รับหนังสือเพราะเคยได้รับเมตตาจากพี่ ๆ มาแล้วครั้งหนึ่งครับ... สำหรับเรื่องของผมเริ่มต้นจากการขับรถไปทำงานทุกเช้า แล้วพบสระบัวก่อนเข้าทำงานทุก ๆ วัน สิ่งที่ทำทุกวันคือ "การกำหนดจิต เพื่อน้อมถวายดอกบัวเป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา บูชาต่อหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่ และครูอาจารย์พระอริยสงฆ์ ทุกวัน" ทุกๆวันเราจะมีโอกาสได้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากของดอกบัว จาก ดอกตูม ไปสู่ดอกบานจนกระทั่งร่วงโรยลงไป เมื่อพิจารณาน้อมเข้ามาในจิต ก็พบว่าเป็นเรื่องของ ความไม่เที่ยง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป ทุกวันที่เห็น ก็จะเห็นความไม่เที่ยงจากการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไปทุกวัน ๆ เช่นกัน เมื่อพิจารณาเพิ่มมากขึ้น ถึงดอกบัวที่มีในสระ ก็จะเห็นว่าการเกิดขึ้นของดอกบัวแต่ละดอกในสระนั้นก็มีต่างกันด้วยเช่นกัน บางดอกตูม บางดอกบาน บางดอกก็เหี่ยวแห้งร่วงโรย เมื่อพิจารณาเข้าน้อมมาสู่ตน ก็พบว่า มนุษย์เองก็เหมือนกัน มีทั้งคนอายุมาก คนรุ่นหนุ่มสาว เด็กเล็ก เด็กโต ในวัยกำลังเรียน กำลังศึ่กษา คละเคล้าปะปนกันอยู่ในโลกและเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารนี้ร่วมกันอยู่ เมื่อน้อมพิจารณา ซ้ำอีก ก็พบว่าลักษณธการร่วงโรยของดอกบัว ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ บางดอกก็ร่วงโรยไปตามอายุ บางดอกก็ถูกทำลายจากหนอน หรือ นก และก็สัตว์น้ำในขณะที่ยังโตไม่เต็มที่ หรือบางทีก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือคน เฉกเช่นเดียวกัน เมื่อน้อมเข้ามาใส่ตน พิจารณาก็พบ การดับของมนุษย์ ก็มีความแตกต่างกันด้วยประการทั้งปวง บางคนตายจากการที่สังขาร ร่วงโรยไปตามวัย บางคนก็เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต หรือบางคนก็ตายด้วยวัยเด็ก ๆ ซึ่งการตายก็แตกต่างกันอีกเช่นกัน เมื่อน้อมพิจารณาซ้ำ ๆ เข้าไปเรื่อย ก็พบว่า ไม่ว่าสระบัวสระไหน ก็มีวงจรของชีวิตเหมือนกัน เช่นเดียว ชีวิตของคนเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีสกุลสูงต่ำอย่างไร ก็ มี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็น "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" เหมือนกันทั้งหมด ทุกหมู่ เหล่า และสุดท้าย เมื่อพิจารณาซ้ำอีก ก็พบว่า การที่จะไม่ให้ดอกบัวในสระนั้น สามารถงอกเกิดขึ้นได้อีก ก็คือต้องใช้วิธี "ขุดราก ถอนโคน" ของก็บัวนั้นออกมา ดอกบัวก็จะไม่สามารถโผล่งอกออกมาได้อีก เสมือนชีวิตของเรา ถ้าเราไม่ต้องการย้อนกลับมาสู่งวงจร แห่งวัฎสงสาร ตัวเราเองก็ต้อง "ขุดราก ถอนโคน ตัว กิเลส ตัณหา และอุปทาน" ออกไป เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่สำคัญคือ "นิพพาน" ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมพบก็คือ "การพิจารณา และน้อมเข้ามาใส่ตัว" นั้น "จำเป็นจะต้องทำทุก ๆ วัน" เพราะถึงแม้ว่าผมเองได้ "ธรรมะ จากดอกบัวในสระ" แบบนี้ แต่หากมีช่วงที่เราไม่ได้นำมาพิจารณาแล้ว สิ่งเหล่านี้ ก็จะค่อย ๆ จางไปจากความรู้สึกของเราด้วยเช่นกัน ดังนั้น การพิจารณาทุกๆวัน จะทำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ถูกฝังลึกลงไปในจิต และ "ทำให้จิต ถ่ายถอนจากการยึดถือ เป็นตัว เป็นตน เป็นเรา เป็นของเรา" หรือ สักกายะทิฐิ เพื่อก้าวเข้าสู่กระแสแห่งพระอริยเจ้า หรือให้ได้ "หนึ่งในสี่" ตามที่หลวงปู่ได้พูดไว้ให้ได้ในชาตินี้... อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง...."ธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัว จำเป็นต้องพิจารณา และ น้อมเข้ามาสู่ตัวเรา จึงจะเห็นได้ด้วยตนเอง" ครับ... |