หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน
คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป
(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)
|
|
Started by |
|
|
Topic: ทานที่ไม่ควรมองข้าม (Read: 15239 times - Reply: 7 comments) |
|
|
|
สิทธิ์ |
Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552
|
|
ทานที่ไม่ควรมองข้าม
|
« Thread Started on 3/3/2554 8:22:00 IP : 203.148.162.151 » |
|
|
|
กุศโลบายอันหนึ่งที่หลวงปู่นำมาสั่งสอนลูกศิษย์ นั่นก็คือให้ฉลาดในการทำบุญทำทาน ท่านไม่เคยสอนให้ทำทานชนิดไม่ประมาณกำลังฐานะ หรือทำทานโดยไม่ใช้ปัญญา ที่สำคัญ ท่านสอนให้รู้จักทำบุญทำทานกับเรื่องใกล้ตัวซึ่งนอกจากจะไม่ต้องเสียเงินเสียทองแล้ว ยังเป็นการละกิเลสให้บรรเทาเบาบางลงอีกด้วย เป็นต้นว่า อภัยทานแก่ผู้ล่วงเกิน และการให้โอกาสแก่ผู้อื่น ทีนี้ เราจะเอาแนวคำสอนหลวงปู่มาปรับใช้อย่างไรได้บ้างล่ะ เพื่อจะไม่ให้คำสอนของหลวงปู่เป็นหมัน ผมขออนุญาตยกตัวอย่าง แล้วรอเพื่อน ๆ สมาชิกเข้ามาต่อยอดให้กันและกัน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจพวกเรากันเองในการทำทานที่กว้างขวางแต่ใกล้ตัวเราเหลือเกิน ๑. การเขยิบถอยเพื่อให้โอกาสคนที่มาใหม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดครูบาอาจารย์ ๒. การเขยิบหลบให้คนเดินผ่านไปก่อน กรณีเดินสวนกันในช่องทางแคบ ๆ ๓. การชะลอหรือหยุดรถเพื่อให้โอกาสรถในซอยออกมาก่อน ๔. การให้โอกาสรถเบียดแซงขึ้นหน้า (ซึ่งเป็นไปได้ว่าเขาอาจมีความจำเป็นเร่งด่วน) หรือไม่ก็ต้องตามด้วยอภัยทาน ๕. การเสียสละอาหารชิ้นที่ประณีตให้กับคนอื่น แล้วพอใจกับอาหารส่วนที่เหลือที่ประณีตน้อยกว่า ๖. การให้ธรรมทานและวิทยาทานแก่คนอื่น ๗. อื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ต้องใช้เงิน แต่อาศัยความเสียสละ ซึ่งรอเพื่อน ๆ มาบอกเล่าครับ |
|
|
|
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: ทานที่ไม่ควรมองข้าม
แสดงความคิดเห็น |
|
Pukky |
Posts: 4 topics
Joined: 1/4/2553
|
|
ความคิดเห็นที่ 1 « on 3/3/2554 12:57:00 IP : 158.34.240.22 » |
|
Re: ทานที่ไม่ควรมองข้าม |
|
|
|
ขอร่วมแบ่งปันความคิดเห็นต่อจากพี่สิทธิ์เลยนะคะ ๗. ช่วยเหลืองานการกุศล งานบุญ - หากไม่มีกำลังทรัพย์อาจใช้กำลังกายแทนก็ได้ค่ะ หรือ หากไม่พร้อมทั้งสองอย่างก็ใช้วาจาพูดเป็นกำลังใจหรือร่วมอนุโมทนาบุญกับเพื่อน ๆ ก็ได้ ๘. สละสิ่งของที่เหลือใช้หรือเป็นส่วนเกินความจำเป็นให้ผู้ยากไร้ ๙. หากมีของชิ้นเดียวที่เรากับเพื่อนชอบเหมือนกัน ก็ยอมยกให้เพื่อนเพราะ เราควรพลอยยินดีที่เห็นเพื่อนมีความสุขและเป็นการลดกิเลสของตัวเองอีกทางหนึ่ง ๑๐. ให้อภัยตัวเอง - หลายคนมักจะตำหนิตัวเองไม่เลิกกับสิ่งที่พลาดไปแล้วและแก้ไขอะไรไม่ได้ เราควรจะใช้อดีตเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้ทำเช่นนั้นอีกและทำปัจจุบันให้ดีเพื่ออนาคตที่จะได้ไม่เสียใจอีก... |
|
|
|
|
Aimee2500 |
Posts: 44 topics
Joined: 14/12/2552
|
|
ความคิดเห็นที่ 2 « on 4/3/2554 2:25:00 IP : 86.173.50.234 » |
|
Re: ทานที่ไม่ควรมองข้าม |
|
|
|
ส่วนตัวแล้วคิดว่าการทำทานที่ดี และนำกุศโลบายที่หลวงปู่สั่งสอนโดยไม่ต้องมองไกลก็คือ ทำทานกับตัวเราเองก่อนจะคิดทำทานกับผู้อื่น เพื่อน ๆ อาจจะงง กล่าวคือทำทานกับตัวเราเองก่อน โดยการทำตัวของเราให้เป้นคนดีอยู่ในศีลในธรรม ทำตัวให้มีประโยชน์ไม่เป็นกาฝาก เช่นทำมาหากินอย่างสุจริตเช่นนี้ก็คิดว่าเป็นการทำทานที่ผลลัพย์ที่ตามมาก็คือได้ทำทานให้พ่อแม่โดยการไม่เกาะพ่อแม่กิน ท่านทั้งสองก็เหนื่อยที่ต้องมาดูแลเรา และตัวเราเองก็ไม่ได้เป็นกาฝากกับสังคมผลลัพย์ที่ตามมาก็คือ รัฐบาลก็สามารถช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้น บางครั้งบางท่านก็มัวแต่จ้องจะทำทานให้กับผู้อื่น จนลืมนึกถึงการทำทานให้กับตัวเองซึ่งให้ผลลัพย์ผลบุญอย่างเอนกคุณ พูดง่าย ๆ ถ้าเราทำทานกับตัวเราเองให้เป้นคนดีมีศีลมีธรรมหมั่นทานศ๊ลภาวนาแล้วการทำทานอย่างอื่น ๆ ก็จะตามมาเอง อนุโมทนา |
|
|
|
|
ดาวมงคล |
Posts: 0 topics
Joined: 17/12/2553
|
|
ความคิดเห็นที่ 3 « on 5/3/2554 15:28:00 IP : 27.130.138.82 » |
|
Re: ทานที่ไม่ควรมองข้าม |
|
|
|
การให้ทานผู้อื่นถือว่าเป็นทานบารมีอย่างหนึ่ง เป็นการแสดงให้เห็นถึงการไม่ยึดติดในทรัพย์และสิ่งของเหล่านั้นเป็นการลดกิเลสได้อย่างหนึ่ง เมื่อมีมากมีเกินความจำเป็นหรือพอที่จะแบ่งปันได้ก็แบ่งปันให้กับผู้ที่ขัดสนหรือผู้ที่ต้องการสิ่งของเหล่านั้น สำหรับผม ถ้ามีโอกาสก็จะช่วยเหลือโดยไม่ลังเลใจถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าควรจะช่วยเหลือ เด็กที่ด้อยโอกาส เด็กที่พิการซ้ำซ้อน คนแก่ที่มาขอทาน |
|
|
|
|
ดาวมงคล |
Posts: 0 topics
Joined: 17/12/2553
|
|
ความคิดเห็นที่ 4 « on 5/3/2554 15:38:00 IP : 27.130.138.82 » |
|
Re: ทานที่ไม่ควรมองข้าม |
|
|
|
และหมากับแมวที่อยู่ข้างถนนไม่มีเจ้าของผมก็ให้เศษอาหารที่กินเหลือเกือบทุกวันดีกว่าไปทิ้งในถังขยะ |
|
|
|
|
รพินทร์ |
Posts: 3 topics
Joined: 14/12/2552
|
|
ความคิดเห็นที่ 5 « on 16/3/2554 17:13:00 IP : 58.8.181.169 » |
|
Re: ทานที่ไม่ควรมองข้าม |
|
|
|
ผมมี่เรื่องเล่าเล็กๆน้อยเกี่ยวกับอานิสงส์ของทานที่ผมประสปมาด้วยตนเองมาเล่าสู่เพื่อนๆฟังครับ แม้ทานนั้นจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยแต่มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอานิสงส์ของการทำทานมีอยู่จริง และเราสามารถรับอานิสงส์นั้นได้ในชาตินี้โดยไม่ต้องรอถึงชาติหน้า เรื่องมีอยู่ว่า..... สมัยก่อนผมกับยุงจะเป็นคู่อริกันชนิดที่ว่าผมเจอมันที่ไหนจะต้องไล่ตบมันให้ตายคามือ มันเห็นผมที่ไหนมันก็จะไล่กัดกินเลือดผมจนบางทีผมแพ้จนตุ่มที่โดนยุงกัดเป็นน้ำเหลืองก็มี พอผมมองย้อนไปสมัยนั้นผมยังรู้สึกงงตัวเองอยู่เลยว่าทำไมใจผมถึงได้อาฆาตแค้นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆได้มากขนาดนั้น มากแม้แต่ตอนนอนกลางคืนถ้ามียุงมาบินตอมข้างหูสักตัวผมต้องลุกมาเปิดไฟแล้วไล่ตบยุงตัวนั้น จนกว่ามันจะตายแม้ผมจะต้องมาเสียเวลานอนเป็นชั่วโมงเพื่อหามันก็ตาม โดยที่ใจผมในขณะนั้นมั้นทั้งแฝงไปด้วยความโกรธ ความอาฆาต ความอยากเอาชีวิต ซึ่งถ้าผมตายไปในตอนนั้นที่เกิดของผมคงไม่พ้นภูมิอสุรกายเป็นอย่างน้อยแหงๆ.... จนมาวันหนึ่งไม่รู้ผมคิดยังไง หรือมีมูลเหตุอะไรผมถึงได้คิดอย่างนั้นขึ้นมา ไม่ทราบนะครับอยู่เฉยๆผมก็ไม่อยากฆ่ามันแล้ว ในตอนนั้นอยู่ดีๆผมก็คิดขึ้นมาว่าเราช่างเป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวจริงหนอ เราต้องมีส่วนในการฆ่าเอาชีวิตสัตว์ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชีวิตเพื่อนำมาบำรุงสังขารร่างกาย กับแค่สัตว์โลกตัวนิดเดียวมาขอแบ่งเลือดเราไปไม่ถึงหยดเพื่อไปบำรุงสังขารร่างกายเค้าเพียงแค่นี้เราให้เค้าไม่ได้เชียวหรือเราเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า นับจากวันนั้นผมทำสัญญาสงบศึกกับเจ้ายุง(ฝ่ายเดียว)ทันที และนับจากวันนั้นจนวันนี้สิบกว่าปีแล้วผมไม่เคยตบยุงอีกเลย แรกๆมันคงลองว่าเราจะแน่จริงหรือเปล่ามันรุมกัดกันใหญ่ แต่ผมก็พยายามใช้ความอดทนและใช้เลือดเป็นทานให้เขาดำรงชีวิตให้ครบ7วันตลอดอายุขัยของเขา ท่านเชื่อมั้ยครับจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นหลายปี จนทุกวันนี้ผมแทบจะไม่เคยถูกยุงกัดอีกเลย ไปนั่งอยู่ที่ไหนต่อให้คนอื่นเค้าตบแป๊ะๆแต่ผมสามารถอยู่ในสถานที่นั้นได้อย่างสบาย เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ แต่ผมเชื่อครับว่านี่แหล่ะคืออานิสงส์ของทาน... |
|
|
|
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ » คลิ๊กที่นี่ |
|
|