luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   ข้อคิดมากจากพระไพศาล  (Read: 11733 times - Reply: 5 comments)   
ต้องหมั่นทำ

Posts: 3 topics
Joined: 4/6/2553

ข้อคิดมากจากพระไพศาล
« Thread Started on 31/8/2554 8:51:00 IP : 183.88.0.54 »
 

      ยังมีตรอกสายหนึ่งที่ทั้งมืดทั้งแคบ ทั้งยังไม่มีดวงไฟส่องทางให้ความสว่างแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อถึงยามค่ำคืน การเดินทางในตรอกแห่งนี้จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
       
       คืนวันหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม ทว่าด้วยความที่ตรอกนี้มืดมิดกระทั่งนิ้วมือทั้งห้าของตนเองยังไม่อาจมอง เห็นได้ เมื่อเดินไปเรื่อยๆ พระรูปนี้จึงทั้งเดินไปชนผู้อื่น และถูกผู้อื่นเดินมาชนไม่หยุดหย่อน สร้างความลำบากยิ่งนัก
       
       ในตอนนั้นเอง มีคนผู้หนึ่งถือโคมไฟเดินเข้ามายังตรอกดังกล่าว พลันทำให้ในตรอกเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร พระรูปนั้นได้ยินคนเดินผ่านทางกล่าวว่า "คนตาบอดผู้นั้นช่างแปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ๆ ใยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย" เมื่อพระได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ รอจนกระทั้งคนตาบอดถือโคมไฟคนนั้นเดินผ่านมา จึงเอ่ยถามขึ้นว่า "ขออภัย ท่านตาบอดจริงๆ หรือ?"
       
       คนผู้นั้นตอบว่า "ถูกแล้ว ข้าเกิดมาก็พิการ ตาสองข้างมองไม่เห็น สำหรับข้านั้นไม่ว่าจะยามเช้าสายบ่ายเย็นล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่าแสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร"
       
       พระได้ยินดังนั้นก็ยิ่งงุนงงมากขึ้น เอ่ยถามต่อไปว่า "เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปเพื่ออะไร?"
       
       คนตาบอดตอบว่า "เนื่องเพราะข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าในยามกลางคืนไร้แสงสว่าง คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้าคือมองไม่เห็นสิ่งใด ดังนั้นข้าจึงถือโคมไฟไปไหนมาไหนเสมอ"
       
       พระได้ยินดังนั้นก็เกิดความซาบซึ้งใจ เอ่ยคำ อมิตาพุทธออกมา และกล่าวต่อไปว่า "ท่านช่างมีเมตตาธรรม ห่วงใยเพื่อนมนุษย์"
       
       มิคาดคนตาบอดกลับกล่าวว่า "ผิดแล้ว ข้าทำไปเพื่อตัวเอง"
       
       "ทำเพื่อตัวเองอย่างไร?" พระถามต่อด้วยความสงสัยใจ
       
       คนตาบอดอธิบายว่า เมื่อครู่ท่านเดินอย่างมืดมนในตรอกใช่โดนคนเดินสวนไปมาชนเอาหรือไม่ ท่านดูข้าเองนั้นแม้เป็นคนตาบอด แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่านคือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง แต่เมื่อข้าถือโคมไฟทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่ข้าจุดโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้นข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า ตังแต่นั้นมาข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย

        ปัญญาเซน : การช่วยเหลือผู้อื่น ประโยชน์สูงสุดล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้


      ได้ข้อคิดมากจากพระไพศาลครับ ท่านบอกว่าเวลามีปัญหาให้ย้อนกลับมาแก้ไขที่ตัวเรา แต่ก่อนจะทำอะไรก็ให้นึกถึงผู้อื่นด้วย

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: ข้อคิดมากจากพระไพศาล
จำนวนข้อความทั้งหมด:  3
1
แสดงความคิดเห็น
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 31/8/2554 22:08:00 IP : 124.121.196.109 »   
Re: ข้อคิดมากจากพระไพศาล
 

อนุโมทนากับคุณ "ต้องหมั่นทำ" ด้วยครับ

ดูเหมือนท่านพุทธทาสภิกขุก็ดี หลวงพ่อชาก็ดี ล้วนนิยมชมชอบกับนิทานเซนซึ่งให้แง่คิดมุมมองลึกซึ้ง

มาถึงพระไพศาลซึ่งเคยเป็นศิษย์ของท่านพุทธทาสก็เลยซึมซับนิทานเซนมาด้วย

ว่าไปแล้วพระไพศาลท่านเป็นรุ่นพี่ชุมนุมพุทธศาสตร์ มธ. คุณเมธามาบริหารชุมนุมพุทธต่อจ่ากท่าน ดูเหมือนจะห่างกันแค่ ๒ รุ่น ตอนคุณเมธาเข้ามา เป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ได้เริ่มพาสมาชิกไปรู้จักกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพิ่มอีก ๑ แห่ง นอกเหนือจากสวนโมกข์

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
ต้องหมั่นทำ

Posts: 3 topics
Joined: 4/6/2553

ความคิดเห็นที่ 2  « on 1/9/2554 3:36:00 IP : 125.25.10.245 »   
Re: ข้อคิดมากจากพระไพศาล
 
สิทธิ์ Talk:

อนุโมทนากับคุณ "ต้องหมั่นทำ" ด้วยครับ

ดูเหมือนท่านพุทธทาสภิกขุก็ดี หลวงพ่อชาก็ดี ล้วนนิยมชมชอบกับนิทานเซนซึ่งให้แง่คิดมุมมองลึกซึ้ง

มาถึงพระไพศาลซึ่งเคยเป็นศิษย์ของท่านพุทธทาสก็เลยซึมซับนิทานเซนมาด้วย

ว่าไปแล้วพระไพศาลท่านเป็นรุ่นพี่ชุมนุมพุทธศาสตร์ มธ. คุณเมธามาบริหารชุมนุมพุทธต่อจ่ากท่าน ดูเหมือนจะห่างกันแค่ ๒ รุ่น ตอนคุณเมธาเข้ามา เป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ได้เริ่มพาสมาชิกไปรู้จักกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพิ่มอีก ๑ แห่ง นอกเหนือจากสวนโมกข์



อนุโมทนาด้วยครับ ได้ความรู้ใหม่ ๆ จากพี่สิทธิ์อีกแล้วถ้ามีอะไรก็กล่าวตักเตือนกันได้นะครับ :)

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
เพียงดิน

Posts: 156 topics
Joined: 13/9/2553

ความคิดเห็นที่ 3  « on 1/9/2554 19:29:00 IP : 158.34.240.22 »   
Re: ข้อคิดมากจากพระไพศาล
 

เคยมีคำถามกับหลวงพ่อชาว่า "ท่านอาจารย์เคยพิจารณา "สูตรของเว่ยหลาง" ของพระสังฆปริณายก (นิกายเซน) องค์ที่หกบ้างไหมครับ (ท่านเว่ยหลางหรือท่านฮุยเหนิง)

หลวงพ่อชาได้ตอบว่า

ท่านฮุยเหนิงมีปัญญาเฉียบแหลมมาก คำสอนของท่านลึกซึ้งยิ่งนัก ซึ่งไม่ใช่ของง่ายที่ผู้เริ่มต้นปฏิบัติจะเข้าใจได้ แต่ถ้าท่านปฏิบัติตามศีลและด้วยความอดทน และถ้าท่านฝึกที่จะไม่ยึดมั่นถือมั่นท่านก็จะเข้าใจได้ในที่สุด

ครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์ผมคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในกุฏิหลังคามุงแฝก ฤดูฝนนั้นฝนตกชุก และวันหนึ่งพายุก็พัดเอาหลังคาโหว่ไปครึ่งหนึ่ง เขาไม่ขวนขวายที่จะมุงมันใหม่ จึงปล่อยให้ฝนรั่วอยู่อย่างนั้น

หลายวันผ่านไป และผมได้ถามถึงกุฏิของเขา เขาตอบว่าเขากำลังฝึกการไม่ยึดมั่นถือมั่น นี่เป็นการไม่ยึดมั่นถือมั่นโดยไม่ใช้หัวสมอง มันก็เกือบจะเหมือนกับความวางเฉยของควาย

ถ้าท่านมีความเป็นอยู่ดีและเป็นอยู่ง่าย ๆ ถ้าท่านอดทนและไม่เห็นแก่ตัว ท่านจึงจะเข้าใจซึ้งถึงปัญญาของท่านฮุยเหนิงได้

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 14 Visits: 16,689,010 Today: 2,240 PageView/Month: 70,559