สมาธิ คืออะไร
เรื่องสมาธิ ไม่ใช่เฉพาะจะมานั่งหลับตาหรือฟังธรรมในวัด เรื่องของสมาธิเป็นเรื่องสากล
สมาธิ เป็นชื่อของธรรมะประเภทหนึ่ง ซึ่งแปลว่าความมั่นใจ หรือความตั้งใจมั่น มั่นต่อการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดี่ม ทำ พูด คิด เมื่อเรามีความมั่นใจอยู่ตลอดเวลาหรือตั้งใจมั่น ได้แก่ การกำหนดรู้การยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด อยู่ทุกขณะจิต ทุกลมหายใจ ได้ชื่อว่าเป็นการฝึกสมาธิแล้ว
การบำเพ็ญสมาธิจิตเพื่อให้เกิดสมาธิ สติ ปัญญา มีหลักควรยึดว่า ทำจิตให้มีอารมณ์สิ่งรู้ สติให้มีสิ่งระลึก จิตนึกรู้สิ่งใดให้มีสติสำทับเข้าไปที่ตรงนั้น ไม่ว่าใครจะทำอะไรมีสติตัวเดียว ธรรมชาติของจิต เมื่อจิตมีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก เขาจะเพิ่มพลังงานมากขึ้น
สมาธิ เพื่ออะไร
ในการปฏิบัติ ถ้าว่ากันโดยสรุปแล้ว เราต้องการสร้างสติให้เป็นมหาสติ เป็นสติพละ เป็นสตินทรีย์ เป็นสติวินโย ไม่ได้มุ่งเน้นจะเห็นสิ่งที่จะรู้เห็นในสมาธิ อย่าไปเข้าใจว่าทำสมาธิแล้วต้องเห็นนรก ต้องเห็นสวรรค์ ต้องเห็นอะไรต่อมิอะไร สิ่งที่เราเห็นในสมาธิมันไม่ผิดกันกับที่เรานอนหลับฝันไป แต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ต้องเห็นนี้ คือเห็นกายของเรา เห็นใจของเรา
การปฏิบัติเพื่อรู้เรื่องอดีต อนาคต ... อดีตเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้ว อนาคตก็เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้นเรามาสนใจในสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันดีไหม เราทำสมาธิเพื่อให้จิตของเราสงบเป็นสมาธิ เกิดความมั่นคง สามารถที่จะต้านทานต่ออารมณ์ที่มากระทบไม่ให้เกิดความหวั่นไหว
การปฏิบัตธรรมตามแนวปฏิบัติของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้อง อยู่ที่การสร้างจิตของตัวเอง ให้มีพลังเข้มแข็ง มีสติสัมปชัญญะรู้รอบอยู่ที่ตัวเอง สามารถยืนหยัดอยู่ในความเป็นอิสระอยู่ได้ตลอดกาล ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยอะไร...เมื่อจิตมีสภาวะรู้ตื่น เบิกบาน ก็ได้ชื่อว่าจิตมีคุณธรรม ความเป็นพุทธะ
สมาธิในวิธีการ
หมายถึงเรามานั่งขัดสมาธิ มานั่งภาวนาพุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอ-พองหนอ เป็นต้น การบริกรรมภาวนาเป็นอุบายวิธีปฏิบัติแบบสมถกรรมฐาน ทั้งสามแบบนี้เป็นสิ่งท่พุทธบริษัทข้องใจ และความจริง ทั้งสามแบบนี้ภาวนาแล้วจุดมุ่งหมายก็เพื่อมุ่งให้จิตสงบเป็นสมาธิ มีสติปัญญา สามารถที่จะพิจารณาสภาวธรรมให้รู้แจ้งเห็นจริงตามความเป็นจริงของกฏธรรมชาติ ผลลัพธ์ก็ไปลงสู่จุดเดียวกัน
สมาธิเป็นกริยาของจิต ถ้าเรานั่งกำหนดรู้จิตของเรา เรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่านั่ง เวลายืนกำหนดจิตของเรา เรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่ายืน เมื่อเรามีสติกำหนดรู้จิตของเราในท่านอน เรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่านอน เวลาเดินจงกรม เรามีสติกำหนดรู้จิตของเราเรียกว่า ปฏิบัติสมาธิในท่าเดิน
สมาธิในชีวิตประจำวัน
สมาธิแบบพระพุทธเจ้า การกำหนดรู้เรื่องชีวิตประจำวันเป็นเหตุเป็นปัจจัยสำคัญ สำคัญยิ่งกว่าการนั่งหลับตาสมาธิ สมาธิอันใดที่ไม่สนใจกับเรื่องชีวิตประจำวัน หนีไปอยู่ที่หนึ่งต่างหากของโลกแล้ว สมาธิอันนี้ทำให้โลกเสื่อม และไม่เป็นไปเพื่อตรัสรู้ มรรค ผล นิพพาน
การฝึกสมาธิเราสามารถฝึกได้ทุกอริยาบถ ทุกลมหายใจ ทุกขณะจิต ไม่ว่าเราจะทำอะไรถ้าเรามีความตั้งใจให้เด่นชัด คือให้มีสติ มีจิตแน่วแน่ตั้งมั่นเป็นการฝึกสมาธิทั้งนั้น
ถ้าเราเข้าใจกันอย่างนี้ สมาธิจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์โลกให้เจริญ
ในมหาสติปัฏฐาน ท่านก็ให้กำหนดการยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด ทำสติอย่างเดียว อันนี้คือการปฏิบัติสมาธิเพื่อให้เกิดพลังจิต มีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันและงานที่เราทำอยู่ โดยเอาเรื่องชีวิตประจำวันเป็นเครื่องกำหนดรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา |