หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน
คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป
(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)
|
|
Started by |
|
|
Topic: คำถามที่ทำให้ท่านดาไลลามะร้องไห้ (Read: 20990 times - Reply: 6 comments) |
|
|
|
สิทธิ์ |
Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552
|
|
คำถามที่ทำให้ท่านดาไลลามะร้องไห้
|
« Thread Started on 9/2/2553 8:06:00 IP : 203.148.162.128 » |
|
|
|
เรื่องที่จะเล่านี้ อาจจะยังไม่เคยมีใครได้ยินได้ฟัง เพราะเป็นประสบการณ์ของตัวแทนชาวพุทธที่ไปสัมมนาชาวพุทธทั่วโลกซึ่งมีองค์ดาไลลามะเป็นประธานเมื่อราว ๒-๓ ปีก่อน
เนื่องจากมีชาวพุทธนิกายต่าง ๆ เข้าร่วม โดยที่แต่ละนิกายก็อาจมีวิธีหรือรูปแบบการปฏิบัติที่ผิดแผกแตกต่างกันบ้าง ดังนั้น ท่านดาไลลามะจึงต้องหาโอวาทที่จะเป็นจุดร่วมกันได้ นั่นก็คือ โอวาทปาฏิโมกข์ ที่ว่า ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องแผ้ว ซึ่งทุก ๆ นิกายก็น่าจะรับได้ แต่การณ์ก็ไม่เป็นดังคาด เพราะพระภิกษุนิกายเซ็นท่านหนึ่ง ปรารภในที่ประชุมกลุ่มย่อยว่า "ไม่สบายใจกับคำว่า "ละกิเลส" เพราะแนวทางแห่งเซ็นนั้น การพยายามละกิเลสหรือตั้งใจที่จะละกิเลสนั้นเป็นการสร้างอัตตาตัวตนขึ้นมา?" ทำเอาพระชาวพุทธนิกายอื่น ๆ รู้สึกแปลกใจ เพราะการละกิเลสนี้มิใช่คำพูดของท่านดาไลลามะ หากแต่เป็นพระดำรัสของพระพุทธองค์โดยตรง
เท่านี้ไม่พอ ยังมีตัวแทนชาวพุทธที่ตั้งคำถามสดว่า "ขอท่านดาไลลามะโปรดกรุณาแสดงธรรมที่เป็นทางลัดตรงด้วย"
มีผู้สังเกตว่าท่านดาไลลามะฟังคำถามนั้นแล้วก็นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พร้อม ๆ กับมีน้ำตาไหลออกมา ตัวแทนชาวพุทธส่วนมากเข้าใจได้ถึงว่ารู้สึกของท่านดาไลลามะ เพราะการแสดงทัศนะของท่านตลอดหลายนาทีที่ผ่านมา ก็ชัดเจนแล้วว่า การปฏิบัติธรรมนั้นต้องมีขั้นมีตอน (แปลว่าจะลัดเอาไม่ได้ และถ้ามีทางลัดกว่านี้ พระพุทธเจ้าผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและกรุณาก็คงไม่เก็บงำไว้คนเดียว) คำถามนี้คงทำให้ท่านดาไลลามะรู้สึกสังเวชใจที่ผู้ถามไม่ซึมซับในสิ่งที่ท่านอุตส่าห์ตั้งใจถ่ายทอด ถึงตั้งคำถามด้วยพื้นฐานแห่งผู้พ่ายแพ้ต่อกิเลส เป็นผู้ย่อหย่อนต่อความเพียรอันเป็นคุณธรรมสำคัญของนักปฏิบัตินั่นเอง รวมทั้งเป็นผู้ไม่เคารพพระพุทธเจ้า (หาทางเก่งเกินพระพุทธเจ้า) และไม่เคารพต่อธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมะข้อ "ความเพียรชอบ" ที่พระพุทธองค์ตรัสสอนที่ว่า ๑. เพียรละกิเลสหรืออกุศลที่มีอยู่ในใจให้หมดไป ๒. เพียรระวังไม่ให้กิเลสตัวใหม่เกิด ๓. เพียรเจริญคุณธรรมความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ๔. เพียรระวังรักษาความดีที่มีอยู่ไม่ให้เสื่อมหายไป |
|
|
|
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: คำถามที่ทำให้ท่านดาไลลามะร้องไห้
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ » คลิ๊กที่นี่ |
|
|