มีสิ่งที่อยากพูดมานาน แต่ก็ไม่ใคร่กล้าจะเขียนลง แต่ในเมื่อได้เขียนลงแล้ว จึงต้องขอ อนุญาตพูดต่อในสิ่งอยากจะพูดมานาน จึงต้องขออนุญาตมา ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ
ในความเห็นส่วนตัวผม..
มิได้คิดอวดอ้าง อวดเก่งใดๆเลย...
การภาวนานั่น..หาใช่เรื่องยากไม่
นั่งเมื่อใด ลงได้เมื่อนั้น วันนี้ลึกบ้าง ไม่ลึกบ้างแล้วแต่วัน แล้วแต่กำลัง แต่ก็ลงได้อยู่ดี
ผู้ที่เข้านั่งได้ สงบได้ หาใช่ที่บุญบารมีเก่าใหม่
หากแต่ เขาตัดเป็น..เขาเชื่อในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างถึงอกถึงใจ
สิ่งพะลุงพะลังต่างๆ เขาถึงไม่เอา ทิ้งหมด ปล่อยหมด
ผู้ที่นั่งยังไม่ได้ เกือบทั้งร้อย ล้วนติดอยู่ในสิ่งสมมุติ
เรื่องโลกๆ ที่เขาอุปโลกขึ้นมา กลายเป็นความเชื่อฝังในจิตส่วนลึก
จิตเขาก็เลยไปไม่ได้ เขาอยู่เดียวๆของเขาดีๆอยู่แล้ว ก็คอยแต่จะเอาสิ่งพะลุงพะลังต่างๆ ไปขวางกั้นเขา..แลวมันจะไปได้อยางไรกัน..
พระไตรปิฏกอ่านมากๆดี ได้ความรู้..ท่านบอกให้เพียงแต่รู้ แต่อย่าติด แต่กี่คนละ ที่ตัดสัญญานั่นได้
กำหนดกฏเกฎฑ์ต่างๆ ล้วนอุปโลกสร้างกันขึ้นมา แต่งเติมสีสรร รกรุงรังยิ่ง
สวดมนต์ต้องกี่จบกี่จบ..นั่งภาวนาสมาธิ ต้องอัปนา อุปจาร ญาณ 1 ญาณ 2..วุ่นวายซะจริงๆ...ประเภทรู้ล่วงหน้าไปก่อน ลงมือปฏิบัติเห็นจริง รู้จริงทั้งสิ้น
แม้พระกำนั่งหลวงปู่..พิจารณาให้ดีเถิดหนา..
จะพากันยึดเข้าอีกแล้ว..ไม่มีกำ เป็นนั่งกันไม่ได้เชียวหรือ
หลวงปู่ท่านทำไว้..สำหรับผู้ฝึกเบื้องต้น ต้องการฐานกำลังใจ ตัดความกลัวต่างๆ ของผู้เริ่มต้นหัดใหม่ กลัวจะไปเห็นนู้นเห็นนี่..กลับไม่ได้ ตามความเชื่อเก่าๆ
มาปัจจุบัน.ติดกันอีกแล้ว..พะรุงพะรังเข้ามาอีกแล้ว.. เอะอะอะไรนิด ก็ขอพึ่งพระหลวงปู่เข้าอีกแล้ว..
เชื่อในคุณพระไตรสรณคมณ์ ที่อยู่ในกาย อยู่ในจิตเถอะครับ
เชื่อให้มันจริง ให้มันถึงอกถึงใจ
สิ่งภายนอกต่างๆ รกรุงรัง อย่าไปใส่ใจ อย่าไปให้ความสำคัญมันเลยหนา
สบายๆๆ ตัวเดียว..จิตเดียว
ไม่กำหนดกะเกณฑ์ ไม่เกร็ง..ผ่อนคลาย สบายๆๆๆ..
แล้วจะค้นพบได้เองครับ ทั่วทุกตัวคน ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย..
สาธ..สาธุ..สาธุ
หมายเหตุ : เมื่อพบแล้ว จะรู้ได้เองว่า ทำไมหลวงปู่มั่น ท่านจึงว่าสอนคนเขา คนป่า คนดอย นี่ช่างง่ายก็สอนคนกรุงเยอะ..
|