นาย ข ผมไปได้ยินได้ฟังมาว่าผู้ใหญ่ พ. ที่หมู่บ้านโน้น เขาชอบพาลูกบ้านปลูก “ไม้ดอก” นะ คนในหมู่บ้านนี้เลยลองปลูกตาม โอ้โฮ ใครปลูกก็ว่าดีนะ
นาย ก อ๊ะ ใช่รึ ผมเองก็อยู่ที่หมู่บ้านโน้นมาก่อน ไม่เห็นเป็นอย่างที่พูดเลย ทุก ๆ วัน ผมเห็นแต่ผู้ใหญ่ พ. พาลูกบ้านปลูก “ไม้ผล” เพราะท่านมีเจตนาจะให้ลูกบ้านแต่ละบ้านมีอยู่มีกินด้วยพืชผลของตนเอง ส่วนไม้ดอกนี่ เห็นผู้ใหญ่ พ. แนะว่าจะปลูกก็ได้ แต่ไม่ให้เน้น เพราะอยากจะให้ใช้พื้นที่และทุ่มเทเวลากับการปลูกไม้ผลให้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ยังหนุ่มยังสาวและไม่เจ็บไข้ได้ป่วยนี้
นาย ข ผมไม่เชื่อที่คุณพูดหรอก
นาย ก ทำไมล่ะ นี่ผมพูดในฐานะที่ผมเคยอยู่หมู่บ้านนั้นมาหลายปีนะ
นาย ข ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่เชื่อคุณอยู่ดี เพราะผมลองปลูกไม้ดอกตามที่มีคนจากหมู่บ้านนั้นมาเผยแพร่ ผมขอยืนยันนะว่าดีจริง ผมแนะนำใคร ๆ ใคร ๆ เขาลองดู เขาก็ว่าดี ผมจึงว่าผู้ใหญ่ พ. ต้องสอนไว้อย่างนั้นแน่นอน ไม่ผิดหรอก
นาย ก งั้นผมขอถามคุณหน่อยเถอะว่า การปลูกสมุนไพรดีไหม
นาย ข ผมก็ว่าดีนะ
นาย ก งั้นก็แปลว่า ผู้ใหญ่ พ. พาทำ นะสิ
นาย ข ไม่ใช่ อันนี้ผมยังไม่เคยได้ยิน
นาย ก อ้าว ก็การปลูกสมุนไพรเป็นของดี คุณก็ยืนยันเอง แล้วทำไมจะบอกว่าไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่ พ. พาทำล่ะ
นาย ข ก็สิ่งที่ว่าดี กับสิ่งที่ผู้ใหญ่ พ. พาทำ มันคนละประเด็นกันน่ะสิ
นาย ก นั่นแหละ คือ สิ่งที่ผมอยากบอกกับคุณว่า การปลูกไม้ดอกมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ กับการปลูกไม้ดอกเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ พ. พาทำหรือมิได้พาทำ มันเป็นคนละประเด็นกัน
ในฐานะที่ผมเคยอยู่กับผู้ใหญ่ พ. มาหลายปี แล้วตัวคุณก็เกิดไม่ทัน
ผมจึงได้บอกคุณไปตามข้อเท็จจริงว่า ที่ว่าผู้ใหญ่ พ. พาปลูกไม้ดอกนั้นไม่จริง เรื่องนี้ไม่เห็นยากเลย คุณไปดูลูกบ้านเก่า ๆ ของผู้ใหญ่ พ. สิ เขาซึมซับการปลูกไม้ผลกันทั้งนั้น สวนไม้ดอกก็มีแซมบ้าง ซึ่งก็สอดคล้อง
นาย ข เรื่องที่จะไปพูดคุยกับลูกบ้านเก่าของผู้ใหญ่ พ. นั้นผมขอยกไว้ก่อน เพราะผมไม่รู้จักใคร แต่ที่ผมเห็นจะ ๆ ก็คือหนังสือคู่มือการปลูกดอกไม้ที่มีเผยแพร่ที่หมู่บ้านของผู้ใหญ่ พ. อย่างนี้จะว่าผู้ใหญ่ พ. ไม่ได้พาทำได้หรือ
นาย ก พัทโธ่ แล้วคุณเหลือบดูสักนิดไหมว่าที่มาที่ไปของหนังสือคู่มือการปลูกไม้ดอกเหล่านั้นมาจากไหน
นาย ข ไม่ทันดูหรอก เห็นเผยแพร่อยู่ที่นั่นก็เข้าใจว่าเป็นของที่นั่นนะสิ
นาย ก ทีหลังดูให้ดี ๆ เพราะหนังสือคู่มือการปลูกไม้ดอก นั้นมาจากกลุ่มคนที่มาบอกคุณว่าผู้ใหญ่ พ. พาทำทั้งนั้น แถมไปตั้งชื่อคู่มือซะน่าสนใจเชียว ชื่อว่า “มหัศจรรย์การปลูกไม้ดอก” คนมาเยือนหมู่บ้าน เห็นเข้าก็เลยฮือฮากันใหญ่ โดยที่ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่และลูกบ้านที่เห็นคู่มือการปลูกไม้ดอกที่คนภายนอกนำมาเผยแพร่ ไม่ได้เอะใจว่ากำลังมีความพยายามจะสื่อว่าผู้ใหญ่ พ. เป็นผู้ริเริ่มการปลูกไม้ดอก
จริง ๆ แล้ว คู่มือฉบับดั้งเดิมของผู้ใหญ่ พ. ก็มีพูดแทรกเรื่องการปลูกไม้ดอกด้วยเหมือนกัน แต่ก็ปรากฏอยู่น้อยหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้ใช้ “อัศจรรย์การปลูกไม้ดอก” อะไรให้หวือหวา เพราะท่านไม่ได้เน้น ท่านพาทำในเรื่องการปลูกไม้ผลเป็นหลัก ส่วนว่าใครจะชอบปลูกไม้ดอก ก็ปลูกได้ แต่ไม่ต้องเน้น เพราะกลัวหมดแรงหมดเวลาที่จะปลูกไม้ผลอันจะเป็นที่พึ่งที่อาศัยในระยะยาวได้
นาย ข ไม่รู้ล่ะ ผมศรัทธากลุ่มที่มาเผยแพร่เรื่องการปลูกไม้ดอก แล้วเขาก็ว่าเขาเคยอยู่กับผู้ใหญ่ พ. เหมือนกัน
นาย ก แล้วคณะเขาได้เคยอยู่กับผู้ใหญ่ พ. กันทุกคนหรือ เท่าที่ทราบคณะที่เผยแพร่ส่วนใหญ่เขาเกิดไม่ทันท่านด้วยซ้ำ เพราะถ้าทันจริง ๆ ก็น่าจะทราบแนวทางของผู้ใหญ่ พ. เพราะเป็นเรื่องพื้น ๆ มาก ใคร ๆ ในยุคนั้นรู้กันทุกคน
ผมว่านะ ถ้าคณะนั้นจะเผยแพร่เรื่องการปลูกไม้ดอก (ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธในด้านที่มีคุณประโยชน์) ก็เผยแพร่ไป แต่ไม่ควรมาเผยแพร่ให้คนที่ไม่ทันผู้ใหญ่บ้าน พ. เข้าใจผิดว่าผู้ใหญ่ พ. พาทำ การเผยแพร่อย่างนั้นมันไม่ยุติธรรมต่อท่าน เพราะท่านก็บอกแล้วว่าไม่เน้นปลูกไม้ดอก
นาย ข ไม่รู้ล่ะ ผมเลือกที่จะเชื่อคนที่ผมศรัทธา
นาย ก ก็ตามใจคุณเถิด ผมก็เล่าตามที่เป็นจริง คุณจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแท้แต่คุณ เพียงแต่ผมประหลาดใจที่มีการอ้างผู้ใหญ่ พ. กับสิ่งที่ท่านไม่ได้พาทำ แถมพรรณนาสรรพคุณของการปลูกไม้ดอกเสียอย่างพิสดาร
ถ้าคุณรู้จักผู้ใหญ่ พ. ตัวจริง คุณจะทราบว่าท่านไม่เคยกล่าวถึงสรรพคุณหรือคุณประโยชน์ที่เกินเลยของการปลูกไม้ดอกนั้นเลย
ท่านมีแต่บอกว่า หากปรารถนาจะมีกินมีใช้ ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ก็ให้ทุ่มเทกับการปลูกไม้ผล แถมยังเตือนอีกว่า อย่าเสียเวลามากกับการปลูกไม้ดอก ท่านพูดของท่านอย่างนี้ แล้วคุณยังจะพูดกลับกันคือกล่าวตู่ว่าท่านมุ่งเน้นหรือพาปลูกไม้ดอกอยู่อีก ไม่ละอายต่อท่านหรือ อย่างน้อยที่สุด ก็ควรหนักแน่นต่อเหตุผลและความจริง เรื่องของท่านยังมิได้เป็นประวัติศาสตร์ยาวนานอะไร จึงไม่ยากเลยที่จะสอบสวนหาความจริงจากคนพื้นที่หรือลูกบ้านที่ยังมีชีวิต โดยเฉพาะคนที่เคยอยู่ใกล้ชิดผู้ใหญ่ พ.
อีกหน่อย หากมีอดีตลูกบ้านที่ชอบปลูกสมุนไพร ฯลฯ มาอ้างว่าผู้ใหญ่บ้านพาทำ คนรุ่นใหม่มิสับสนหรือ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ การปลูกไม้ดอกที่เผยแพร่มันก็มีประโยชน์อยู่ เพียงแต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่ พ. มุ่งเน้นหรือพาทำ แล้วเจ้าประโยชน์ของสิ่งที่เผยแพร่เหล่านั้นมันก็มีข้อจำกัดและแง่มุมที่เป็นโทษแฝงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะเป็นที่พึ่งที่อาศัยที่มั่นคงปลอดภัยในระยะยาว
สรุปว่าเรื่องการปลูกไม้ดอกนั้นเป็นประโยชน์หรือมิใช่ประโยชน์ กับเรื่องว่าการปลูกไม้ดอกเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ พ. พาทำหรือมิได้พาทำมันเป็น “คนละประเด็น” |