คาดว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ปรารถนาจะรู้ รวมทั้งครอบครองพระเครื่องที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดพระเครื่องของหลวงปู่ แต่ทว่า หลวงปู่ก็ไม่เคยบอกยืนยันว่าพระรุ่นใดของท่านที่ท่านรับรองว่าสุดยอด เพียงแต่กล่าวในเชิงให้รักษาไว้ให้ดี ๆ เป็นต้นว่า
๑. เหรียญเสมารูปเหมือนหลวงปู่ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ด้านหลังมีข้อความว่ารุ่นปฏิบัติธรรม เป็นเหรียญทองแดงชุบทองแดง จึงแลดูสุกแวววาว ท่านว่าตั้งแต่สร้างพระมา เหรียญรุ่นนี้แข็งที่สุด จะไม่แรงยังไงได้ ก็ในเมื่อผู้สร้าง แทบจะใช้แต่เนื้อชนวนล้วน ๆ ที่สำคัญคือเจตนาในการสร้างก็บริสุทธิ์ ไม่มีการจำหน่าย กะว่าจะแจกฟรีสำหรับผู้ปฏิบัติภาวนา ท่านจึงตั้งใจเต็มที่ แถมเหรียญส่วนใหญ่อยู่ในกุฏิท่านตั้งราว ๘ ปี
๒. เหรียญพระพรหมทองเหลือง-ทองแดง (ที่สร้างด้วยกรรมวิธีโลหะฉีด) รวมทั้งแหวนทุกรุ่น หลวงปู่จะพูดถามลูกศิษย์บางคนที่ไม่สันทัดสะสมวัตถุมงคล ให้ไปหาเก็บเอาไว้ เพราะเป็นของสำคัญ
๓. พระพรหมผง อันนี้อาจเป็นเพราะพ้องกับชื่อท่าน คนส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นสัญลักษณ์หรือรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ หลวงปู่ท่านก็ย่อมประกันคุณภาพอย่างเต็มที่
๔. เหรียญครูบาอาจารย์หรือพระเถระผู้มีพระคุณต่อหลวงปู่ เช่น หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อใหญ่ (พระโบราณคณิศร) หลวงปู่จะตั้งใจอธิษฐานจิตเพื่อบูชาคุณครูบาอาจารย์ ท่านเคยกล่าวท้าว่าถ้าไม่ดีจริงก็เอามาคืนท่านได้
๕. เหรียญยันต์ดวง ซึ่งด้านหน้ามีรูปครึ่งองค์หลวงปู่ซึ่งนับว่าใกล้เคียงท่านมาก แล้วก็ด้านหลังซึ่งบรรจุดวงวันเกิดของหลวงปู่ที่ลูกศิษย์เชื่อว่า หากดวงเราไม่ดี หากได้บูชาดวงหลวงปู่ ก็จะช่วยให้หนักกลายเป็นเบาได้
๖. ตะกรุดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เรียกว่าตะกรุดจักรพรรดิ์ ซึ่งพระลูกศิษย์ท่านบางรูปกล่าวว่าต้องเป็นเนื้อทองคำเท่านั้น และต้องร้อยเรียงอักขระครบถ้วนตามตำราเท่านั้น มิใช่อะไร ๆ ก็จะเป็นจักรพรรดิเสียหมด
๗. เหรียญหลวงพ่อทวดรุ่นเปิดโลก เหรียญรุ่นนี้ท่านก็มิได้ว่าดีที่สุด เป็นแต่ว่าท่านกล่าวว่าท่านเสกให้แบบเปิดสามโลก เหรียญมาดังมากก็เพราะมีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่เกษม ผ่านทางพระภิกษุ (เพื่อนของคุณรณธรรม) ว่าเหรียญรุ่นนี้กันนิวเคลียร์ได้ ประกอบกับมีหลายท่านกล่าวว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญหลวงปู่ทวดที่สวยงามที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีพระเครื่องรุ่นอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่เชื่อว่าท่านคงกล่าวกับต่างคณะต่างวาระ จนสามารถสรุปได้ว่า "ไม่สามารถสรุปว่าพระเครื่องรุ่นใดที่เป็นสุดยอด" เพราะหลวงปู่ท่านตั้งใจอธิษฐานจิตให้ทั้งนั้น จะมีความแตกต่างก็แค่รายละเอียดปลีกย่อย อันเกิดจากอารมณ์จิตและเจตนาของท่านในขณะอธิษฐานจิต เพราะสิ่งที่ท่านเคยกล่าวรับรองไว้ก็คือ พระทุกรุ่นของท่าน ท่านอธิษฐานไว้ครอบจักรวาล แล้วแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานเอา
มีเรื่องขำ ๆ เกี่ยวกับความลังเลใจของลูกศิษย์ที่คงมีพระเครื่องของท่านมากไปจนไม่รู้จะอัญเชิญองค์ใดมาห้อยติดตัวดี ในเมื่อมองไปทางองค์นั้นก็ว่าสุดยอด องค์นี้ก็เมตตาดี องค์โน้นก็แคล้วคลาดสูง สุดท้ายก็เลยใช้วิธีเอาทุกองค์มาใส่รวมในถุงย่อม ๆ แล้วห้อยคอทั้งถุง เป็นอันจบเรื่อง เพียงแต่เวลาก้มกราบพระ หรือเดินไปไหน ก็จะมีเสียงขลุกขลัก ๆ ไปตลอด ก็น่ารักไปอีกแบบ
ในเมื่อพระของท่านแทบจะไม่แตกต่างด้านพุทธคุณ ดังนั้น ความแตกต่างที่ปรากฏจึงเป็นแต่เรื่องของค่านิยมเท่านั้น ซึ่งอาจมาจากความชอบส่วนตัวของคนจำนวนหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นผลมาจากกระบวนการเก็งกำไร
แต่ที่สรุปได้แน่ ๆ ว่าทำไมหลวงปู่จึงไม่ยอมกล่าวรับรองว่าพระของท่านรุ่นใดที่เป็นเลิศที่สุดก็เพราะจะไปขัดกับสิ่งที่ท่านกล่าวรับรองไว้เสมอ ๆ ว่า พระที่เลิศสุด ประเสริฐสุดก็คือ "พระเก่าพระแท้ในตัวเอง" นั่นเอง |