หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน
คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป
(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)
|
|
Started by |
|
|
Topic: เล่าเรื่องหลวงน้าทบ พระอุปัฏฐากของหลวงปู่ (Read: 19746 times - Reply: 9 comments) |
|
|
|
สิทธิ์ |
Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552
|
|
เล่าเรื่องหลวงน้าทบ พระอุปัฏฐากของหลวงปู่
|
« Thread Started on 15/2/2553 20:18:00 IP : 203.148.162.151 » |
|
|
|
หลวงน้าทบ (พระอธิการสมทบ โอฬาริโก) ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสะแก เดิมเคยเป็นพระอุปัฏฐากของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านมีบุคลิกภาพของคนสมณะที่เรียบร้อย อีกทั้งเป็นพระที่พูดน้อย และพูดเบามาก ท่านมีปฏิปทาที่รักความสันโดษเช่นเดียวกับหลวงปู่ กุฏิของท่านจึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ท่านเป็นพระเพียงรูปเดียวที่ทำหน้าที่ปลงเส้นเกศาให้หลวงปู่ตลอดหลายปีก่อนหลวงปู่จะมรณภาพ
หลวงน้าทบท่านมีโรคประจำตัวอย่างหนึ่งคือโรคปลายประสามอักเสบ ซึ่งตามสถิติทางการแพทย์ในเมืองไทยสมัยนั้นบอกไว้ว่าในแสนคนจะพบคนไทยที่เป็นโรคนี้สักคนหนึ่ง
โรคนี้ได้สร้างความทุกข์กายมิใช่น้อย โดยเฉพาะเวลาฉันอาหาร เพียงแค่ปลายช้อนสัมผัสโดนลิ้นของท่าน ก็ทำเอาท่านน้ำตาร่วงได้ เพราะมันเสียวแปล๊บทรมานท่านมาก
เคยกราบเรียนถามท่านว่า “หลวงน้าวางใจอย่างไรกับความทุกข์ของหลวงน้าที่น้อยคนในเมืองไทยหรือน้อยคนในโรคจะประสบเช่นนี้ครับ”
หลวงน้าตอบว่า “เราได้ชื่อว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นศิษย์มีครู พระพุทธเจ้าท่านให้เครื่องมือคือธรรมะมาตั้งเยอะ ถึงเวลาก็ต้องงัดมาใช้ เครื่องมือนี้ไม่ได้ผล ก็หยิบเครื่องมือคือธรรมะข้ออื่นมาต่อสู้อีก ดูอย่างทางโลกสิ ขงเบ้งเขารบด้วยวิธีนี้ไม่ชนะ เขาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามหาวิธีใหม่ ๆ มาใช้ต่อสู่อีก นี่เราเป็นลูกพระพุทธเจ้าจะยอมแพ้ได้หรือ ธรรมะต่าง ๆ ที่เคยเรียนรู้ ต้องงัดเอามาใช้ อย่าให้ธรรมะที่เรียนรู้และจดจำไว้กลายเป็นโมฆะ”
หลวงน้าทบท่านเป็นพระที่ขี้เกรงใจ ไม่เคยเอ่ยปากขอจากทางวัดหรือหลวงปู่ แต่หลวงปู่เองต่างหากที่ทำหน้าที่เหมือนแม่ทางธรรม คอยสอดส่องดูแลท่าน บ่อยครั้งที่เห็นหลวงปู่มอบปัจจัยให้หลวงน้าทบเป็นค่ายานพาหนะและค่ารักษาพยาบาลเวลาที่หลวงน้าทบต้องมารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
เมื่อเสร็จงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่แล้ว หลวงน้าได้เดินทางไปจำวัดที่ต่างจังหวัดอยู่นานหลายปี กระทั่งทางวัดสะแกได้ติดต่อขอนิมนต์ให้ท่านกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสะแก ท่านเล่าให้ฟังว่า นับเป็นเรื่องที่แปลกดี คือก่อนที่ทางวัดสะแกจะติดต่อไปนั้น ท่านได้ฝันไปว่าหลวงปู่เดินจูงมือ พาท่านชมรอบ ๆ เขตวัดสะแก มาถึงตอนนี้ ท่านจึงเข้าใจความฝันนั้นว่าเป็นนิมิตบอกว่าท่านต้องมาดูแลวัดสะแกนั่นเอง
หลวงน้าทบได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสะแกไม่กี่ปี ท่านก็มรณภาพเพราะโรคต่าง ๆ ที่รุมเร้าท่าน อุปมาเหมือนบ้านเก่าคร่ำคร่า ที่ยากจะเยียวยารักษาไว้ได้ ชีวิตพรหมจรรย์ของหลวงน้าช่างใสบริสุทธิ์ เป็นสมณะโดยแท้ เป็นผู้มีสัมมาวาจาและปฏิปทาที่งดงาม มิน่าเล่า ท่านจึงพระภิกษุผู้คู่ควรแก่การอยู่รับใช้ใกล้ชิดและเป็นพระภิกษุเพียงรูปเดียวที่ปลงผมให้กับหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ตราบกระทั่งหลวงปู่มรณภาพ |
|
|
|
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: เล่าเรื่องหลวงน้าทบ พระอุปัฏฐากของหลวงปู่
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ » คลิ๊กที่นี่ |
|
|