luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ  (Read: 43479 times - Reply: 16 comments)   
meesuk09

Posts: 1 topics
Joined: 9/3/2553

หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
« Thread Started on 10/3/2553 9:14:00 IP : 58.8.45.127 »
 

อยากได้หนังสือตามรอยธรรม   ทำอย่างไรดี

คาถามหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ดีมาก  ทำไม ไม่มีการกล่าวถึงในเว็ปนี้เลย  ผู้รู้ควรนำมากล่าวอย่างละเอียดเพื่อประโยชน์แก่บุคคล

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
จำนวนข้อความทั้งหมด:  13
1
2
>
แสดงความคิดเห็น
รณราณ

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 1  « on 10/3/2553 11:27:00 IP : 58.11.81.228 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

ในกระทู้ก่อนหน้านี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดพิมพ์หนังสือตามรอยธรรมครับ

ส่วนเรื่องคาถามหาจักรพรรดินั้น เห็นทางผู้จัดทำ website นี้ เขามุ่งมั่นในการเผยแผ่คำสอนของหลวงปู่เป็นหลักครับ ถ้าอ่านเจตนารมณ์ของคณะผู้จัดทำด้านบนของ website จะเข้าใจครับ

เลย copy บางส่วนมาให้ครับผม

...ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ
(Admin)

Posts: 75 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 2  « on 10/3/2553 13:01:00 IP : 58.11.81.228 »     Edit Topic
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

เมื่อเอ่ยถึงคาถามหาจักรพรรดิขึ้นมา ก็ถือโอกาสให้ข้อมูลและแสดงทัศนะให้ทราบเสียเลย

เท่าที่สัมผัสหลวงปู่อยู่หลายปี ก็ได้ยินท่านพูดถึงคาถาที่ว่านี้ แต่ท่านเรียกว่า คาถาหรือบทบูชาพระ ไม่ใช่คาถาจักรพรรดิอย่างที่นิยมรียก ๆ กันในบางที่ ซึ่งทั้งผมและลูกศิษย์ที่วัดก็รู้สึกว่ามีอะไรกันหรือกับบทนี้ เพราะหลวงปู่ก็บอกเพียงบทบูชาพระที่ดีบทหนึ่ง (เนื้อหาครอบคลุมพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ แถมยังบูชาไปถึงพระสีวลีและพระธาตุอีกด้วย) แต่ก็ไม่ได้มีใครให้ความสำคัญยิ่งไปกว่าการปฏิบัติสมาธิภาวนา เพราะเจอหลวงปู่ทีไร ทานก็ไล่ให้ไปทำงาน (หมายถึงนั่งสมาธิ) ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่ท่านจะบอกให้ไปหาที่สวดมนต์อะไรนี่ นี้ก็จัดเป็นความคลาดเคลื่อนของปฏิปทาท่านอย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ก็มีเหมือนกันที่ศิษย์ที่กำลังทุกข์ยากทางเศรษฐกิจบางคนมาปรารภให้ท่านฟัง ท่านก็แนะนำให้สวดบทบูชาพระนี้ควบคู่กับการทำความดีอย่างอื่น ๆ เพราะท่านว่าสวดแล้วจะไม่อดอยาก แต่หากจะเอาพ้นทุกข์หรือให้มีตนเป็นที่พึ่งแก่ตน ท่านก็วกมาที่การเจริญสติและการนั่งสมาธิทุกทีไป

ดังนั้น จึงไม่เห็นจุดที่จะต้องยกการสวดบทบูชาพระนี้แต่อย่างใดเลย เพราะหลวงปู่ไม่เคยเน้น สิ่งที่ท่านเน้นคือการปฏิบัติภาวนา ดูจิต รักษาจิต

ถ้าเราวางใจเป็นกลาง พิจารณาคำสอนโดยรวมของหลวงปู่ เราก็จะพอเข้าใจเรื่องนี้ได้ เช่น คำสอนที่ว่าสวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน, ศาสนาพุทธไม่ใช่การสวดมนต์อ้อนวอนเรียกร้องความสำเร็จ แต่เป็นศาสนาของการประพฤติปฏิบัติ (ในหลักศีล สมาธิ และปัญญา), หมั่นดูจิต รักษาจิต เป็นต้น

ดังนั้น เราจึงไม่ควรนำสิ่งที่ชอบใจส่วนตัวคือการสวดมนต์ (ซึ่งส่วนตัวของผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเหมือนกัน) มาทำให้คนส่วนใหญ่สับสนกับปฏิปทาของหลวงปู่ เพราะจะทำให้เสียประโยชน์คนหมู่มากและทำให้ไม่เข้าถึงธรรมอันประณีตที่หลวงปู่บอกว่า "จะได้อาศัยเป็นที่พึ่งในภายหน้า"

คณะผู้ดูแลเวปยังคอยสอบทานและบอกตัวเองเสมอ ๆ ว่า เราจะต้องคิด พูด ทำ (ในการเผยแพร่คำสอนหลวงปู่)  ด้วยเมตตา มีความซื่อตรงต่อหลวงปู่ ถ่ายทอดคำสอนและปฏิปทาของหลวงปู่ชนิดที่ว่าหากหลวงปู่ยังมีชีวิต ท่านจะนึกโมทนากับพวกเรา มิใช่ทำในสิ่งที่จะเก้อเขินหรืออายหลวงปู่ครับ  

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คุณชาย

Posts: 1 topics
Joined: 19/11/2552

ความคิดเห็นที่ 3  « on 7/4/2553 22:17:00 IP : 202.149.25.235 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

     ต้องขอบคุณพี่ชายของพวกเรา ที่สั่งสอนเราตามแนวทางที่หลวงปู่ท่านเคยบอกไว้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้เรารัก, เคารพ และเทิดทูนในองค์หลวงปู่เพิ่มมากขึ้น ทุก ๆ เรื่องที่พี่เอามาบอกเล่าให้พวกเราฟัง ก็ทำให้เรารักเคารพ พีชายของเราเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน !

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
gftor

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 4  « on 8/4/2553 10:21:00 IP : 58.137.145.50 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

โมทนา สาธุ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ
(Admin)

Posts: 75 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 5  « on 14/4/2553 22:31:00 IP : 124.121.124.33 »     Edit Topic
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

อ้างอิงคำถามของคุณ balakia :

ถามครับ : หลวงปู่ท่านเน้นแผ่เมตตา และ/หรือสอน เรื่องบท "สัพเพพุทธาฯ" รึเปล่าครับเพราะผมเองไม่ทันท่าน

 

ขอแยกตอบเป็น ๒ ประเด็นครับ

๑. เราปฏิบัติภาวนาเพื่อเจริญสมาธิและปัญญา มิใช่ปฏิบัติเพื่อการแผ่เมตตา เพียงแต่ว่าเมื่อเราปฏิบัติภาวนาจนใจสงบสว่าง ท่านถือเป็นบุญใหญ่ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียโอกาส เราก็ควรแผ่เมตตาหรือกรวดน้ำออกไปด้วย ดังนั้นการใช้คำว่า "เน้น" อาจจะหนักไปหน่อย เพราะการปฏิบัติธรรมท่านมีหลักว่าเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน ก่อนที่จะไปช่วยใคร ๆ อุปมาเหมือนหางบประมาณ (จากการปฏิบัติภาวนา) ให้มากพอเสียก่อน จึงค่อยใช้งบประมาณ (คือกรวดน้ำหรือแผ่เมตตา)

๒. ท่านสอนเรื่องบทสัพเพฯ แต่มิใช่เป็นบทแผ่เมตตาอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด บทสัพเพฯ คือการอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยมาไว้ที่จิตเรา อุปมาเหมือนอัญเชิญองค์พระมาไว้ที่จิต เพื่อเป็นอุบายในการรักษาจิตของเราให้ไม่มีโลภ โกรธ หลง (จิตเราจะได้เป็นพระตลอด) บทนี้จึงเป็นบทเพื่อตัวเรามิใช่ใครอื่น แต่บทพุทธังอนันตังฯ ต่างหากที่หลวงปู่ให้ใช้เป็นบทอธิษฐานแผ่เมตตา ซึ่งประเด็นนี้เคยชี้แจงไปหลายวาระแล้วครับ

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
Specialized

Posts: 0 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 6  « on 16/4/2553 18:38:00 IP : 222.123.23.164 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 
ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆครับ ซึ่งตอนแรกมัวแต่ไปคิดว่าสวดมนต์นี่แหละคือปฎิบัติธรรมแล้ว ทำแบบนี้มาร่วมสองสามปีจนมาวันหนึ่งคิดได้ว่าที่เราทำมา โลภ โกรธ หลง ไม่ได้ลดลงเลย เพราะบางทียังไปสวดมนต์อ้อนวอนขอพระท่านอีก (ตามที่มีคนสอนมาว่าสวดมนต์แล้วขออะไรพระก็ได้) แถมสวดทีหนึ่งก็นานมากจริงๆ เพราะใจมัวแต่ไปคิดว่าต้องทำให้ได้เท่านั้นจบ เท่านี้จบ พอสวดเสร็จก็นานจนเหนื่อยเลยไม่ได้ปฎิบัติกับเขาซะที ตอนนี้พอเข้าใจแล้วครับ ออกทะเลตั้งนาน
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
balakia

Posts: 4 topics
Joined: 27/1/2553

ความคิดเห็นที่ 7  « on 19/4/2553 14:01:00 IP : 123.2.105.92 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 
Administrator Talk:

อ้างอิงคำถามของคุณ balakia :

ถามครับ : หลวงปู่ท่านเน้นแผ่เมตตา และ/หรือสอน เรื่องบท "สัพเพพุทธาฯ" รึเปล่าครับเพราะผมเองไม่ทันท่าน

ขอแยกตอบเป็น ๒ ประเด็นครับ

๑. เราปฏิบัติภาวนาเพื่อเจริญสมาธิและปัญญา มิใช่ปฏิบัติเพื่อการแผ่เมตตา เพียงแต่ว่าเมื่อเราปฏิบัติภาวนาจนใจสงบสว่าง ท่านถือเป็นบุญใหญ่ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียโอกาส เราก็ควรแผ่เมตตาหรือกรวดน้ำออกไปด้วย ดังนั้นการใช้คำว่า "เน้น" อาจจะหนักไปหน่อย เพราะการปฏิบัติธรรมท่านมีหลักว่าเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน ก่อนที่จะไปช่วยใคร ๆ อุปมาเหมือนหางบประมาณ (จากการปฏิบัติภาวนา) ให้มากพอเสียก่อน จึงค่อยใช้งบประมาณ (คือกรวดน้ำหรือแผ่เมตตา)

๒. ท่านสอนเรื่องบทสัพเพฯ แต่มิใช่เป็นบทแผ่เมตตาอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด บทสัพเพฯ คือการอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยมาไว้ที่จิตเรา อุปมาเหมือนอัญเชิญองค์พระมาไว้ที่จิต เพื่อเป็นอุบายในการรักษาจิตของเราให้ไม่มีโลภ โกรธ หลง (จิตเราจะได้เป็นพระตลอด) บทนี้จึงเป็นบทเพื่อตัวเรามิใช่ใครอื่น แต่บทพุทธังอนันตังฯ ต่างหากที่หลวงปู่ให้ใช้เป็นบทอธิษฐานแผ่เมตตา ซึ่งประเด็นนี้เคยชี้แจงไปหลายวาระแล้วครับ



ขอบคุณครับ พี่ Admin และขอโมทนาบุญด้วยครับ

และขอบคุณ คุณบอย ด้วยครับเพราะผมรู้จักเวบนี้เพราะคุณบอยเอาไปโพสไว้ในเวบธรรมะเวบหนึ่งครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
manitgr

Posts: 0 topics
Joined: 3/2/2553

ความคิดเห็นที่ 8  « on 23/4/2553 22:20:00 IP : 113.53.103.66 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

ผมขอตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้

ผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับหลวงปู่ดู่  จากเว็บต่างๆหลายเว็บ  ประเด็นหนึ่ง  ที่พอจับความได้ก็คือ

หลวงปู่ดู่ท่านจะให้คำสอนกับศิษย์บางท่าน  เป็นคำสอนเฉพาะนิสัยและจริตของศิษย์ท่านนั้นก็มี  ซึ่งไม่ใช่คำสอนที่เหมาะสมกับศิษย์ทั่วไป  เช่น เรื่องการสวดบทจักรพรรดิ์  และการสวดบทสัพเพ  กล่าวคือ  บทแรกเป็นการสวดบูชาพระ  บทหลังเป็นการขอบารมีพระ  ให้ส่งพลังกระแสบุญจากหลวงปู่ดู่อุทิศผ่านร่างผู้สวด  ไปยังผู้ที่ผู้สวดต้องการอุทิศบุญให้  ทั้งผู้ที่ตายไปแล้ว   และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่

ส่วนศิษย์บางท่าน  ที่ไม่มีทักษะด้านการอุทิศบุญด้วยวิธีดังกล่าว   ก็อาจจะไดรับคำสอนที่ต่างไปจากคำสอนด้านบนนี้

กล่าวโดยสรุปก็คือ  หลวงปู่สอนธรรม  ที่เหมาะกับจริตนิสัยของศิษย์  แต่ละท่าน    ดังนั้นจึงไม่อาจจะกล่าวว่า  คำสอนแบบใดจะดีกว่ากัน   เพราะศิษย์มีจริตนิสัยต่างกัน   คำสอนของหลวงปู่ในบางเรื่อง  จึงเหมาะกับศิษย์เฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น

แต่คำสอนโดยทั่วไป  ก็อยู่ในหลักศีล  สมาธิ  ปัญญา  อยู่ในกรอบเดียวกันนั่นเอง

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
balakia

Posts: 4 topics
Joined: 27/1/2553

ความคิดเห็นที่ 9  « on 24/4/2553 23:54:00 IP : 123.2.105.92 »   
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

สาธุ โมทนาบุญด้วยครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ
(Admin)

Posts: 75 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 10  « on 26/4/2553 7:43:00 IP : 203.148.162.128 »     Edit Topic
Re: หนังสือตามรอย.... คาถามหาจักรพรรดิ
 

ฟังความเห็นหลายท่านแล้ว เกรงจะเข้าใจไม่ตรงเจตนารมณ์ที่เคยแสดงทัศนะไป

ทางคณะผู้ดูแลเวปมิได้มีเจตนา anti บทสวดบูชาพระ (หรือที่คนเดี๋ยวนี้เรียกว่าบทสวดพระมหาจักรพรรดิ) เพราะสมาชิกผู้ดูแลเวปหลาย ๆ ท่านก็สวดกันเป็นประจำอยู่แล้ว รวมทั้งบางท่านก็ได้ประสบเหตุแคล้วคลาดปลอดภัยมาเพราะบทนี้ก็มี ดังนั้น เรื่องที่จะ anti ย่อมไม่มี

แต่จุดที่ต้องการจะสื่อก็คือ สิ่งใดเป็นเรื่องหลัก สิ่งใดเป็นส่วนประกอบ บนพื้นฐานสิ่งที่หลวงปู่ท่านสั่งสอนพวกเรามา ในเมื่อเรามีเวลาให้กับส่วนประกอบมากเท่าใด เราก็ควรบอกตัวเองที่จะให้เวลากับเรื่องหลักให้มากกว่าเท่านั้น จึงจะเหมาะสม

ลองสังเกตคนเก่า ๆ ที่วัดสะแกดูสิ จะเห็นแต่คนมานั่งกรรมฐาน เราแทบจะไม่เห็นว่ามีใครมานั่งสวดคาถากันเลย นี่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญมาก หรือเป็นเรื่องหลัก บรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ก็คงทำกันเป็นล่ำเป็นสันแล้ว

ในเมื่อมีกระแสความนิยมในการสวดมนต์ ก็ยิ่งต้องเน้นว่าอย่าเอาแต่สวดแล้วละเลยไปว่าสิ่งที่จะทำให้เราปลอดภัยหรือพ้นทุกข์ หรือเอาเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริงนั้นคือการปฏิบัตินะ นี้คือสิ่งที่หลวงปู่อบรมสั่งสอนต่อเนื่องมาหลายปี เรื่องการสวดคาถาก็เป็นเพียงเครื่องช่วยหรือเครื่องสนับสนุนในการจูงจิต รวมไปถึงการช่วยให้ปัญหาเฉพาะหน้าบรรเทาลงเท่านั้น แต่ในระยะยาว จะเอาเป็นที่พึ่งไม่ได้ ถ้าไม่สร้างสมาธิธรรม และปัญญาธรรมให้เกิดให้มีขึ้นในตัวเราครับ

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
2
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 21 Visits: 16,687,910 Today: 1,141 PageView/Month: 69,459