luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   ปรามาสพระ  (Read: 9307 times - Reply: 3 comments)   
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ปรามาสพระ
« Thread Started on 13/3/2553 19:39:00 IP : 124.121.131.46 »
 

ในสมัยก่อนมีความนิยมอันหนึ่งที่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี นั่นก็คือการเอาวัตถุมงคลมาลอง บ้างก็เอามายิงดู ถ้ายิงไม่ออก หรือยิงเฉไปทางอื่น ก็จะเชื่อมั่นและรับรองว่าดีจริง หากยิงถูก พระเครื่องก็แหลกเท่านั้น

เมื่อตอนหลวงปู่ละสังขารใหม่ ๆ ลูกศิษย์จำนวนหนึ่งได้นำผงพระหลวงปู่มาผสมเทพระ กะว่าให้ได้จำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อถวายกุศลแก่หลวงปู่

ส่วนที่เหลือจากนั้น ก็เอามาแจกจ่ายเป็นที่ระลึก ซึ่งมีส่วนหนึ่งได้ถูกแจกจ่ายไปยังหมู่คณะที่อยู่ที่ชลบุรี

ณ ที่นั้นเอง พระรุ่นนี้ได้ถูกแจกจ่ายไปอีกทอดหนึ่งยังเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เด็กพวกนี้มีนิสัยคึกคะนอง เกิดอยากลองของ จึงได้นำไปยัดใส่ปากปลาเป็น ๆ ตัวหนึ่ง จากนั้นก็เอามีดกรีดท้องปลา ปรากฏว่ากรีดไม่เข้า เด็กพวกนั้นจึงลองใหม่โดยการเอาพระออกจากปากปลา แล้วเอามีดกรีดอีกที ทีนี้ปรากฏว่ากรีดเข้า ปลาโชคร้ายตัวนั้นจึงตายอย่างทรมาน

หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ กรรมก็ขี่จรวดมาทัน เด็กวัยรุ่นคนที่ก่อเหตุกรีดท้องปลาจนตาย ก็ไปมีเรื่องกับเด็กวัยรุ่นด้วยกัน ถูกเขาเอามีดดาบมาไล่ฟันจนถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงตาย

เรื่องทำนองนี้ ยังมีอีก หนุ่มวัยสามสิบกว่าคนหนึ่ง ได้สมญาว่าเพชรฆาตรพระเครื่อง แกยิงพระแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยว่านับไม่ถ้วนแล้ว กระทั่งมีผู้ที่แกนับถือมาเตือนว่ามันเป็นบาปหนัก จัดว่าเป็นการทำร้ายพระพุทธเจ้าเชียวแหละ ชายคนนี้นอนฝันร้ายอยู่หลายคืน เมื่อนึกถึงคำตักเตือนของรุ่นพี่ จึงตัดสินใจเลิกการนำพระเครื่องมาลองยิงอีก

แต่วิบากกรรมเป็นกฎตายตัว ไม่ช้าไม่นาน ก็มีเหตุให้แกต้องเจออุบัติเหตุอยู่เป็นประจำทุกเดือน เดือนละอย่างน้อย ๒-๓ ครั้ง ต่อเนื่องมากกว่า ๑๐ ปี จนกระทั่งเนื้อตัวมีแต่แผล ขาก็หัก สมองก็ไม่สมประกอบ เดินกระโผลกกระเผลก ถึงขั้นต้องคลานเอาบ้าง ดีที่แกสำนักความผิดบาป ตั้งหน้าตั้งตาทำความดี พร้อม ๆ กับการยอมรับในผลกรรมที่แกเป็นผู้ก่อไว้ คือการปรามาสพระ

อีกตัวอย่างหนึ่ง เป็นคนในวงการพระเครื่อง แกชอบที่จะทำพระสมเด็จโตของปลอม โดยใช้เทคนิคเอาผิวใบตองมาขัดที่องค์พระสมเด็จเพื่อให้เกิดความมันเงาหรือแตกลายงา เอาไปหลอกขายผู้ไม่รู้ ผลกรรมที่เกิดกับแกคือโรคผิวหนังที่รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ในที่สุดแกต้องใส่เสื้อแขนยาวอยู่ตลอดเวลา

ที่ยกตัวอย่างมาเล่านี้ เพื่อจะบอกว่าขึ้นชื่อว่ารูปเหมือนพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะปลุกเสกมาแล้วหรือไม่ก็ตาม เราก็ควรให้ความเคารพเพราะนั่นคือสัญลักษณ์หรือองค์แทนพระพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาเอกแห่งโลก ผู้เป็นต้นแบบสูงสุดของผู้บำเพ็ญคุณงามความดี

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: ปรามาสพระ
จำนวนข้อความทั้งหมด:  2
1
แสดงความคิดเห็น
Aimee2500

Posts: 44 topics
Joined: 14/12/2552

ความคิดเห็นที่ 1  « on 14/3/2553 2:49:00 IP : 86.181.86.227 »   
Re: ปรามาสพระ
 
 สัทธา ทานัง อนุโมทามิ     สัทธา ทานัง อนุโมทามิ     สัทธา ทานัง อนุโมทามิ    
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
tpyw

Posts: 0 topics
Joined: 15/1/2553

ความคิดเห็นที่ 2  « on 14/3/2553 8:15:00 IP : 58.8.147.188 »   
Re: ปรามาสพระ
 

มีเรื่องมาสารภาพครับ ย้อนไปสิบกว่าปีก่อน

เมื่อก่อนชอบยิงปืนครับ

เคยนำตะกรุดและแหวนไปติดไว้ที่เป้ายิงปืนแล้วยิงครับ ระยะไม่ไกล ออกทุกนัดครับแต่ไม่รู้ว่าลูกปืนกระจายหายไปไหนหมด ลองอีกก็ออกครับแต่ไม่เข้าเป้า แฮะๆอาจมือไม่ดีก็ได้

 

จากนั้นก็ยังซ้อมยิงไปอีกหลายสนาม แต่ไม่ได้ลองทำนองนี้อีก อย่างไรก็ตามมีอยู่สนามหนึ่งตอนเล็ง เผลอจับปืนโดยเอานิ้วโป้งขึ้นมาอยู่หลังสไลด์ พอเหนี่ยวไกปืน ปัง ก็ต้องอยู่นิ่งๆครับ เพราะสไลด์ปืนถอยมาเจาะนิ้วโป้งเลือดพุ่งไปสายเลอะโต๊ะวางปืนเต็มไปหมด ที่อยู่นิ่งๆเพราะอายและก็ยังงงๆครับ จนทหารที่คุมต้องไล่ไปทำแผลครับ อืม มาตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเราได้ปรามาสพระไปซะแล้ว ตอนนั้นก็คิดอยากลองครับ มาตอนนี้คงยังไม่สายไปที่จะหมั่นทำครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 16 Visits: 16,689,170 Today: 2,407 PageView/Month: 70,726