ในสมัยก่อน คนที่จะมากราบนมัสการหลวงปู่ดู่ จะพากันมาทางเรือ เพราะหน้าวัดก็คือท่าน้ำ ซึ่งมีเรื่องราวปรากฏเมื่อตอนที่ท่านเจ้าคุณฯ วัดสุทัศน์ นำวัตถุมงคลมาให้หลวงปู่อธิษฐานจิต เมื่อตอนต้นของ พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านก็ขนมาทางเรือ
ยุคต่อมา การคมนาคมทางบกเริ่มเจริญขึ้น ก็เริ่มมีทางลูกรังตัดเข้ามาทางอำเภออุทัย ดังนั้น การเดินทางของศิษย์รุ่น ๒๕๒๐ ขึ้นไป จึงนิยมมาตามเส้นทางนี้
ต่อจากนั้นมาเส้นทางก็กลายเป็นลาดยาง และคอนกรีตอย่างปัจจุบัน การเดินทางช่างแสนสะดวกเมื่อเทียบกับสมัยก่อน แต่ทว่าเมื่อการเดินทางสะดวก หลวงปู่ก็ละสังขารไปเสียแล้ว
บางทีการเดินทางไปกราบครูบาอาจารย์ด้วยความยากลำบาก ก็ต้องใช้กำลังใจ กำลังศรัทธามาก ความตั้งอกตั้งใจในการรับธรรมก็มีมากตาม
เป็นธรรมดาโลกที่อะไร ๆ ที่ได้มาง่าย ๆ เราก็จะเห็นคุณค่าน้อย หรือไม่เห็นคุณค่าเอาเสียเลย
ดูอย่าง CD ธรรมะสิ เดี๋ยวนี้มีกันเกลื่อน ความขวนขวายตั้งใจฟังธรรมและปฏิบัติธรรมกลับมีน้อย
ทำให้คิดถึงประโยคที่ว่า "ธรรมะไม่ต้องมาก ทำให้มันจริง รู้น้อยแต่ปฏิบัติให้มันเกิดผล ยังดีกว่ารู้มาก แต่มิได้น้อมมาปฏิบัติให้ได้ลิ้มรสบ้างเลย"
ในสมัยที่การเดินทางสะดวกทุกอย่าง จึงสมควรที่เราจะได้ทำใจว่าแท้จริงแล้วธรรมะเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เราโชคดีกว่าหลายประเทศ หลายครอบครัว ที่เขาอยู่ห่างไกลธรรม ในอนาคตธรรมะจะหายากมากขึ้นถึงขนาดว่าจะหาคนมาเล่าธรรมะให้ฟังสักบทยังไม่มีเลย แม้ผู้ที่อยู่ในวงพระ ก็มีเพียงเศษจีวรติดห้อยไว้พอเป็นสัญลักษณ์ให้รู้เท่านั้น
ธรรมะที่ว่าง่ายนั้นคือฟังง่าย พูดง่าย แต่ที่ยากคือ ผู้ที่จะมาปฏิบัติ
แม้ในผู้ที่นำมาปฏิบัติก็ยังมีหลายระดับแห่งกำลังศรัทธาและความเพียร ว่าจะทำพอเป็นนิสัยปัจจัยติดตัวไปบ้าง หรือจะทำให้มีธรรมะเป็นที่พึ่งบ้าง หรือจะถึงขนาดทำเอาพ้นทุกข์สิ้นเชิง
วัดสะแกและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เฉพาะในแง่มุมการเดินทางมากราบหลวงปู่จึงเป็นข้อให้พิจารณาไม่น้อยเหมือนกันนะครับ
|