วัดป่า บางท่านอาจจะเข้าใจผิดว่า เป็นวัดบ้านนอกที่ไม่มีอะไรที่งามตาหรือ น่าสนใจ ตามชื่อที่เรียกกัน
เมื่อแรกที่ได้ไปสัมผัส หมู่คณะได้เข้าไปนั่งใต้ศาลาไม้หลังใหญ่ บริเวณที่รับแขกเป็นใต้ถุนศาลา ลักษณะโปร่งสบาย มองได้รอบด้านเห็นต้นไม้ได้ชัดเจน มีไก่วัดโกร่งคอขันรวมเสียงนกป่า ร้องได้ยินเป็นระยะ
ตรงด้านหน้าประกอบด้วยโต๊ะหมู่ เก้าอี้หวายสำหรับนั่ง โต๊ะไม้ไว้วางสิ่งของที่สะดวกในการจับหยิบใช้ สิ่งหรูหราของพระเป็นเพียงของใช้แบบพื้นๆ ทั่วไป
พระอาจารย์ ท่านมาแล้วและนั่งลงที่เก้าอี้หวาย
หมู่ทัวร์ธรรม รีบก้มกราบกันชุลมุน เดี๋ยวผลุบ เดี๋ยวโผล่ บางคนก็กราบแบบเร็วๆ แปะๆ ครบ 3 ครั้ง ตามธรรมเนียมของสังคม
“กราบอะไรอย่างนั้น กราบพระต้องกราบให้ถึงใจ พร้อมเพรียงกัน กราบใหม่”
การอบรมเริ่มกันตั้งแต่แรกพบ ไม่ต้องรอรำมวยให้เสียเวลา
“จะกราบให้ดูหมู่ ดูพวก”
การกราบเบญจางคประดิษฐ์เป็นการกราบที่งดงามมาก ๆ กราบด้วยใจที่เทิดทูน กริยานั้นจะนุ่มนวล นอบน้อมในผู้อาวุโส ทั้งวัยวุฒิและคุณธรรม ความนุ่มนวลที่พร้อมด้วยความนอบน้อมยังแสดงถึงความองอาจในการคารวะที่สุดใจต่อผู้ที่ตนเคารพอย่างยิ่ง
“เอ้อ นั้นแหละ”
ความงดงามในเบื้องต้นนี้ เชื่อว่า จะเป็นสิ่งเตือนใจให้เริ่มต้น รำลึกถึงคำสอนของพระโบราณได้เป็นอย่างดี
เก็บมาเล่า
อุบล
|