ประโยชน์ของการฟังธรรม คือ
๑. ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
๒. สิ่งที่เคยฟังแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจแจ่มชัด ก็จะเข้าใจได้แจ่มชัดขึ้น
๓. สามารถบรรเทาความสงสัยเสียได้
๔. ทำให้ความเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
๕. จิตของผู้ฟังธรรมย่อมผ่องใส
พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนฟังธรรมมี ๓ ประเภท
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีปรากฎอยู่ในโลก คือ
บุคคลมีปัญญาคว่ำ ๑
บุคคลมีปัญญาเช่นกับตัก ๑
บุคคลมีปัญญากว้างขวาง ๑
"...บุคคลมีปัญญาคว่ำ เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ หมั่นไปวัดเพื่อฟังธรรมในสำนักของภิกษุเสมอ ภิกษุย่อมแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงแก่เขา เขานั่งบนอาสนะนั้น จำเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุดของกถานั้นไม่ได้ เปรียบเหมือนหม้อคว่ำ ถึงจะเอาน้ำรดลงที่หมอนั้นย่อมราดไปหาขังอยู่ไม่... นี้เรียกว่าบุคคลมีปัญญาคว่ำ
"...ก็บุคคลที่มีปัญญาเหมือนตัก เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ หมั่นไปวัดเพื่อฟังธรรมในสำนักของภิกษุเสมอ ภิกษุย่อมแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงแก่เขา เขานั่งบนอาสนะนั้น จำเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุดของกถานั้นไม่ได้ เปรียบเหมือนบนตักของบุรุษมีของเคี้ยวนานาชนิด คือ งา ข้าวสาร ขนมต้ม พุทรา เกลื่อนกลาด เขาลุกจากอาสนะนั้น พึงทำเรี่ยราดเพราะเผลอสติ... นี้เรียกว่าบุคคลมีปัญญาเหมือนตัก
"...ก็บุคคลมีปัญญากว้างขวาง เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ หมั่นไปวัดเพื่อฟังธรรมในสำนักของภิกษุเสมอ ภิกษุย่อมแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงแก่เขา เขานั่งบนอาสนะนั้น จำเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุดของกถานั้นได้ แม้ลุกจากอาสนะนั้นแล้ว ก็จำเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุดของกถานั้นได้ เปรียบเหมือนหม้อหงาย เอาน้ำเทใส่ไปในหม้อนั้น ย่อมขังอยู่ หาไหลไปไม่...นี้เรียกว่าบุคคลมีปัญญากว้างขวาง..."
คัดลอกจาก อวกุชชิตาสูตร
|