เนื้อความส่วนหนึ่งจาก เกวัฏฏสูตร
ที่มา
- พระสูตรความย่อ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เกวัฏฏสูตร เรื่องนายเกวัฏฏ (ชาวประมง) จาก พระไตรปีฎกภาษาไทย ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๕๒๕ เล่ม ๙ ข้อ ๓๓๘ - ๓๔๘ หน้า ๓๐๖ – ๓๒๙
เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตร ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งประะทับอยู่ ณ สวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี เขตเมืองนาลันทา และได้กราบทูลว่า เมืองนาลันทานี้ เป็นเมืองมั่งคั่งสมบูรณ์ มีผู้คนมาก ล้วนแต่เลื่อมใสในพระองค์ ขอพระองค์ได้โปรดให้ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เพื่อที่ชาวเมืองจักเลื่อมใสยิ่งขึ้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า เรามิได้สอนภิกษุ ให้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์แก่ชาวบ้าน
เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตร ได้กราบทูลขอเป็นครั้งที่สอง พระองค์ก็ปฎิเสธอีก แต่เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตรก็ยังกราบทูลขออีกเป็นครั้งที่สาม พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ปาฏิหาริย์มี ๓ อย่าง คือ อิทธิปาฏิหาริย์, อาเทสนาปาฏิหาริย์, และอนุสาสนีปาฏิหาริย์
อิทธิปาฏิหาริย์ ได้แก่การแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ ทำให้คนเดียวเป็นหลายคน หรือหลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฎ หรือหายไปก็ได้ ทะลุกำแพงหรือภูเขาไปก็ได้ ดำดิน เดินบนน้ำ หรือเหาะไปก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ก็ได้ ไปตลอดพรหมโลกก็ได้ ผู้ที่เชื่อในอิทธิปาฏิหาริย์ เมื่อเห็นภิกษุแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง ก็จะบอกแก่ผู้ไม่เชื่อว่า ภิกษุนั้นมีคุณวิเศษน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ฝ่ายผู้ไม่เชื่อ ก็บอกว่า มีวิชาแสดงฤทธิ์ ที่ชื่อว่า คันธารี ที่ภิกษุนั้นแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง ก็เพราะใช้วิชา คันธารี นั่นเอง
พ. ท่านเกวัฏฏ์ ท่านเห็นว่า ผู้ไม่เชื่อในอิทธิปาฏิหาริย์ จะบอกอย่างนั้นกับผู้ที่เชื่อบ้างไหม
ก. คงบอกพระเจ้าข้า
พ. เราเห็นโทษของอิทธิปาฏิหาริย์เช่นนี้ จึงเกลียดอิทธิปาฏิหาริย์
พ. อาเทสนาปาฏิหาริย์ได้แก่การที่ภิกษุสามารถทายใจบุคคลอื่นได้ว่า ใจของท่านเป็นอย่างนี้ โดยอาการนี้ จิตของท่านเป็นดังนี้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เชื่อในอาเทสนาปาฏิหาริย์ เมื่อเห็นภิกษุแสดงอาเทสนาปาฏิหาริย์ ก็จะบอกแก่ผู้ไม่เชื่อว่า ภิกษุนั้นทายใจบุคคลอื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ฝ่ายผู้ไม่เชื่อ ก็บอกว่า มีวิชาทายใจบุคคลอื่น ชื่อว่ามาณิกา ที่ภิกษุนั้นทายใจบุคคลอื่นได้ ก็เพราะใช้วิชา มาณิกา นั่นเอง
พ. ท่านเกวัฏฏ์ ท่านเห็นว่า ผู้ไม่เชื่อในอาเทสนาปาฏิหาริย์ จะบอกอย่างนั้นกับผู้ที่เชื่อบ้างไหม
ก. คงบอกพระเจ้าข้า
พ. เราเล็งเห็นโทษของอาเทสนาปาฏิหาริย์.เช่นนี้ จึง เกลียดอาเทสนาปาฏิหาริย์.
พ. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ได้แก่การที่ภิกษุย่อมพร่ำ สอนอย่างนี้ว่า ท่านจงตรึกอย่างนี้ อย่าตรึกอย่างนั้น จงทำในใจอย่างนี้ อย่าทำในใจอย่างนั้น จงละสิ่งนี้ จงเข้าถึงสิ่งนี้อยู่เถิด
ท่านเกวัฏฏ์ อีกข้อหนึ่ง พระตถาคตเสด็จอุบัติในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ บริบูรณ์ด้วยพระพุทธคุณอันประเสริฐ บุคคลที่ฟังธรรมแล้ว เกิดศรัทธาออกบวชเป็นภิกษุ ปฏิบัติธรรม ถึงพร้อมด้วยศีล อินทรีย์สังวร สติสัมปชัญญะ และสันโดษ |