luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่  (Read: 25412 times - Reply: 14 comments)   
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
« Thread Started on 26/8/2554 23:22:00 IP : 115.87.24.96 »
 

เมื่อมาลำดับเรื่องราวของหลวงปู่ดู่ตั้งแต่เมื่อแรกเข้าวัด ผมจะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่ผ่านศิษย์หลวงปู่หลากหลายวัย

  

 ลูกศิษย์สูงวัย (โบราณ) ก็จะเรียกหรืออ้างถึงหลวงปู่ว่า "หลวงพี่" เช่นเรื่องราวของศิษย์สมัยเมื่อราว พ.ศ. ๒๕๐๐ เศษ ๆ (ยุคที่ผู้คนมาวัดสะแกทางเรือ) ที่ภายหลังจากรับแผ่นโลหะที่หลวงปู่จารให้ไปเป็นเนื้อชนวนสร้างพระ ก็ปรากฏว่าแผ่นโลหะบาง ๆ นั้นกลับไม่ยอมหลอมละลาย จนเขาต้องพายเรือกลับมาวัดสะแกอีกครั้งเพื่อแจ้งปัญหากับว่า "หลวงพี่ดู่ครับ แผ่นเนื้อชนวนของหลวงพี่มันไม่ยอมละลายครับ กวนเท่าไร ๆ มันก็ไม่ยอมละลาย" หลวงปู่ท่านรับทราบแล้วก็ให้เขากลับไปใหม่อีกครั้ง ก็ปรากฏว่าแผ่นโลหะนั้นก็หลอมละลายโดยง่ายดาย  

บางคนก็ได้รับการอบรมจากท่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น คนที่จะไปหาปลาหากุ้ง หลวงปู่ท่านก็ให้เขาสมาทานศีลก่อน แต่เขาแย้งว่ามันเป็นอาชีพของเขา เดี๋ยวเขาก็ต้องไปหาปลาหากุ้งตามประสาของเขาแล้ว รับศีลไปจะมีประโยชน์อะไร หลวงปู่ท่านก็ให้เหตุผลว่ายังไงตอนนี้ (ซึ่งยังไม่ได้ทำบาป) ก็ให้มีศีลไว้ก่อน เผื่อเกิดไปตายเสียระหว่างทาง เช่น ไปโดนอสรพิษกัดตาย ก็จะได้ตายขณะมีศีล ชาวบ้านคนนั้นฟังคำหลวงปู่แล้วก็อึ้งและเห็นดีเห็นงามทำตามหลวงปู่ (หลวงพี่) สอน (ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ได้เอาไปแทรกเป็นเกร็ดประวัติหลวงปู่ตั้งแต่เมื่อคราวทำหนังสือพระผู้จุดประทีปในดวงใจ) 

 

ต่อจากยุคหลวงพี่ก็มาถึงยุคหลวงพ่อ คือในราวปี ๒๕๒๕ ที่เริ่มมีคนกรุงเทพฯ เดินทางมาทางถนน (แทนทางเรือ) แม้หลวงปู่จะมีอายุใกล้ ๘๐ แต่ด้วยความผ่องใสของท่าน ทุกคนจึงพอใจนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อ" สัดส่วนการสอนธรรมะก็เริ่มมากขึ้น แต่ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ก็ยังปรากฏเป็นปรกติ ไม่เฉพาะภายในประเทศไทยนี้ หากแต่ไปไกลถึงสิงคโปร์ ดังตัวอย่างลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงปู่ที่ไปธุระที่นั่น ด้วยความที่อยู่ในย่านที่ห่างจากตัวเมืองออกไปมาก ดังนั้น เมื่อเสร็จธุระจะหารถ Taxi เพื่อไปส่งสนามบิน ปรากฏหาไม่ได้เลย เขายืนข้างถนนมองหารถ Taxi อยู่เป็นเวลาราวชั่วโมงครึ่งก็ยังไม่เห็นรถผ่านมาสักคัน จนจวนเจียนจะตกเครื่องบิน หมดหนทางแล้วจึงเอาพระหลวงปู่ที่ห้อยคอมาอธิษฐานขอให้มี Taxi ผ่านมาโดยเร็วด้วยเถิด ปรากฏไม่ถึง ๕ นาที ก็มี Taxi มา ที่แปลกกว่านั้นก็คือเป็น Taxi ที่วิ่งอยู่คนละฟากถนน ก็ยังอุตส่าห์ u-turn กลับมารับ 

 

 ย้อนกลับมาเรื่องหลวงพี่และหลวงพ่อต่อ (ก่อนจะเลยเถิดไปไกล)  ในยุคที่หลวงปู่เป็นหลวงพ่อ พระวัดสะแกรูปอื่น ๆ ที่เป็นศิษย์และมีอายุน้อยกว่าท่าน ก็มักถูกเรียกว่า "หลวงน้า" เช่น หลวงน้าสายหยุด หลวงน้าลำไย และหลวงน้าดำ เป็นต้น ซึ่งก็ฟังน่ารัก เป็นไทย ๆ และดูใกล้ชิดดี ซึ่งหลวงน้าหนึ่งในนั้นก็มีประสบการณ์การดั้นด้นไปกราบพระมหาวีระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) แล้วถูกอบรมกลับมาว่า อย่าข้ามครูบาอาจารย์ที่อยู่ใกล้ตัว คือหลวงพ่อดู่ เพราะท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูง ให้กลับไปขอขมาท่านเสีย หลวงน้าท่านนั้นจึงกลับมา พร้อมกับยกหลวงพ่อไว้ในฐานะเสมือนเป็นพ่อ แล้วให้พระมหาวีระเป็นเหมือนแม่  

ก๊อก ๆ กลับมาเรื่อง "หลวงพ่อ" ต่อ  ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในยุคก่อน ๒๕๓๐ นิยมเรียกหลวงปู่ว่าหลวงพ่อ แต่สำหรับลุงยวงซึ่งเป็นหลานหลวงปู่ ก็จะเรียกตามความสัมพันธ์กับท่านว่า "หลวงลุง" ทำให้คนใกล้ชิดลุงยวง พากันเรียกท่านว่าหลวงลุงตามไปด้วย 

เมื่อถึงปี ๒๕๓๒ ด้วยวัย ๘๕ ปี สังขารขันธ์ของหลวงปู่เริ่มร่วงโรย  ลูกศิษย์หลายคนก็เริ่มจูงลูกจูงหลานมากราบท่านมากขึ้น ในช่วงท้ายนี้ผู้คนจึงเริ่มเรียกท่านว่า "หลวงปู่" มากขึ้น 

สังขารขันธ์ของหลวงปู่ที่แปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปนั้น เป็นดังที่หลวงปู่เคยกล่าวให้แง่คิดกับศิษย์ว่า "แกวันนี้ กับแกเมื่อวานก็ไม่เหมือนเก่า ...แกวันก่อนมันตายไปแล้ว" หลวงปู่ท่านเมตตาต่อทุกคนที่จะมาเอาธรรม หรืออย่างน้อยมีแววที่ท่านอาจให้ยึดโยงจากวัตถุมงคลหรือเรื่องปาฏิหาริย์มาสู่ธรรมในภายหน้าได้ แต่อย่างที่ว่า ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่นั้นชัดเจนมาก ๆ ว่า มิได้เป็นไปเพื่อความหลง คือ มิได้เป็นไปเพื่อให้หลงเสียทรัพย์ไปกับพิธีกรรมต่าง ๆ หรือลุ่มหลงจมปรักหรือจิตฟูฟุ้งไปกับปาฏิหาริย์ หากแต่เป็นปาฏิหาริย์ชนิด "พระท่านทำให้เชื่อ" ทั้งสิ้น เมื่อเชื่อคุณพระพุทธฯ ก็เท่ากับว่าลดความลังเลสงสัยในการที่จะน้อมนำธรรมะมาปฏิบัติขัดเกลาตัวเอง ว่าจะเกิดผลดีแก่ตัวเองจริง ๆ

มาบัดนี้ ยังมีคนบางกลุ่มเอาแต่เรื่องพิธีกรรม แล้วอ้างว่าหลวงปู่พาทำ แถมยังบอกว่าเป็นเรื่องทางปัญญา ก็ไม่รู้ว่าเป็นปัญญาพาตัวเองให้ได้ตนเป็นที่พึ่งแก่ตัวอย่างไร นอกจากพาตัวเองให้ต้องขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับ หรือขึ้นกับความวาดฝันในอานิสงส์สุดคณนาจากพิธีกรรมเหล่านั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นช่องทางหาทรัพย์ทั้งเงินทองและอสังหาริมทรัพย์บนศรัทธาของผู้ไม่รู้ทันเท่านั้น

จากหลวงพี่สู่หลวงพ่อ กระทั่งมาเป็นหลวงปู่ คุณความดีที่ท่านสร้างไว้นั้นมากมาย แค่ทำให้คนหยาบคนพาลคนหนึ่งมาเป็นกัลยาณชนก็มีอานิสงส์มากมายเหลือประมาณ เพราะเท่ากับทำภพชาติของคนหลงให้สั้นเข้า ทุกข์และน้ำตาที่ต้องทิ้งไว้กับโลกก็น้อยลง  ทำอย่างไรหนอ ปฏิปทาและคำสอนอันบริสุทธิ์ของหลวงปู่จะถูกเล่าขานออกไปอย่างไม่รู้จบ เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มาก

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
จำนวนข้อความทั้งหมด:  7
1
แสดงความคิดเห็น
Monchai

Posts: 1 topics
Joined: 29/10/2553

ความคิดเห็นที่ 1  « on 27/8/2554 14:43:00 IP : 110.77.176.60 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 

      รบกวนสอบถามคุณสิทธิ์ครับ  ที่วัดสะแกพระภิกษุสงฆ์ ที่เป็นศิษย์ ที่ทันหลวงปู่ มี หลวงน้าสายหยุด หลวงน้าลำใย และหลวงน้าดำแล้ว  คนที่วัด บอกยังมีหลวงพี่วันชาติ  อีกหนึ่งรูป ใช่รึเปล่าครับ 

       หลวงพี่วันชาตินี้ กระผมเคยเรียนถามท่านเรื่อง การปฏิบัติธรรม  ท่านบอกว่าท่านยังไม่เก่ง  ควรจะไปถามหลวงน้าสายหยุดหรือหลวงน้าลำใยจะดีกว่าครับ 

           ซึ่งทั้งสามรูปนี้ ผมเคยไปกราบและเรียนถามเรื่องการปฏิบัติธรรมมาแล้ว ยังมีหลวงน้าดำ ที่ยังไม่มีโอกาสเลยครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 2  « on 27/8/2554 22:39:00 IP : 124.122.211.109 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 

คุณ Monchai ครับ องค์ที่ถ่อมตัวนั้นแหละ พระดีครับ

พระดีมักอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว และบ่อยครั้งก็ต้องทำตัวเป็นคนโง่ เพื่อความสงบของท่านเอง

ผมไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกับพระวันชาติแต่ทราบว่าท่านมีปฏิปทาที่ดี มีความสม่ำเสมอในข้อวัตร

สำหรับหลวงน้าดำ ท่านเป็นผู้ใหญ่ของวัดสะแก เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่โดยตรง ท่านเคยไปปฏิบัติกับหลวงปู่ฝั้น และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยได้รับมอบหมายให้ลงเหล็กจารแทนหลวงปู่ในช่วงที่หลวงปู่ชราภาพ ท่านเคยออกตัวว่าไม่สันทัดในการสอนธรรมะ แต่ถ้าสนทนาเป็นการส่วนตัว ก็คงได้อะไรดี ๆ เพราะท่านมีประสบการณ์มากครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
Monchai

Posts: 1 topics
Joined: 29/10/2553

ความคิดเห็นที่ 3  « on 28/8/2554 9:50:00 IP : 110.168.151.217 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 
สิทธิ์ Talk:

คุณ Monchai ครับ องค์ที่ถ่อมตัวนั้นแหละ พระดีครับ

พระดีมักอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว และบ่อยครั้งก็ต้องทำตัวเป็นคนโง่ เพื่อความสงบของท่านเอง

ผมไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกับพระวันชาติแต่ทราบว่าท่านมีปฏิปทาที่ดี มีความสม่ำเสมอในข้อวัตร

สำหรับหลวงน้าดำ ท่านเป็นผู้ใหญ่ของวัดสะแก เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่โดยตรง ท่านเคยไปปฏิบัติกับหลวงปู่ฝั้น และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยได้รับมอบหมายให้ลงเหล็กจารแทนหลวงปู่ในช่วงที่หลวงปู่ชราภาพ ท่านเคยออกตัวว่าไม่สันทัดในการสอนธรรมะ แต่ถ้าสนทนาเป็นการส่วนตัว ก็คงได้อะไรดี ๆ เพราะท่านมีประสบการณ์มากครับ



         ขอขอบคุณ คุณพี่สิทธิ์  ( ขออนุญาตเรียก พี่ นะครับ อาจจะด้วยวัยวุฒิและศิษย์หลวงปู่รุ่นหลัง ) ผมและครอบครัวคงต้องหาโอกาสไปกราบหลวงน้าดำอย่างแน่นอนครับ

          

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
จันทร์

Posts: 0 topics
Joined: 18/3/2554

ความคิดเห็นที่ 4  « on 28/8/2554 16:40:00 IP : 118.173.234.209 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 

ขออนุโมทนากับบทความดีดีครับ เป็นไงไม่รู้ชอบทางด้านอิทธิปาฎิหาริย์เมื่อก่อนก็อยากจะเป็น X-men(ปรับภพ-ปรับภูมิ),มาตอนนี้ยืมหนังสือน้องมาอ่าน น้องพึ่งทำบุญซื้อมาเป็นรูปหลวงปู่ยืนอยู่บนท้องฟ้า(ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อหนังสือ)อ่านแล้วชวนให้ติดตามในหลายฯเรื่องของหลวงปู่ที่เกียวกับปาฏิหาริย์ตั้งใจว่าจะอ่านจบเล่ม อดหลับอดนอนอ่านไปหลายคืน ตรัสสินใจเอาไปคืนเจ้าของไม่อ่านแล้ว อ่าน ตามรอยธรรมย้ำรอยครู เล่มเดิมดีกว่า ความอยากได้ในวัตถุมงคลของหลวงปู่จะได้ลด ลง เฮ้อเหนื่อยจังกับใจดวงนี้ อยากนู้นอยากนี่ตลอด

กราบขอบพระคุณในบทความดีฯครับ

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
จันทร์

Posts: 0 topics
Joined: 18/3/2554

ความคิดเห็นที่ 5  « on 28/8/2554 16:42:00 IP : 118.173.234.209 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 

ขออนุโมทนากับบทความดีดีครับ เป็นไงไม่รู้ชอบทางด้านอิทธิปาฎิหาริย์เมื่อก่อนก็อยากจะเป็น X-men(ปรับภพ-ปรับภูมิ),มาตอนนี้ยืมหนังสือน้องมาอ่าน น้องพึ่งทำบุญซื้อมาเป็นรูปหลวงปู่ยืนอยู่บนท้องฟ้า(ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อหนังสือ)อ่านแล้วชวนให้ติดตามในหลายฯเรื่องของหลวงปู่ที่เกียวกับปาฏิหาริย์ตั้งใจว่าจะอ่านจบเล่ม อดหลับอดนอนอ่านไปหลายคืน ตรัสสินใจเอาไปคืนเจ้าของไม่อ่านแล้ว อ่าน ตามรอยธรรมย้ำรอยครู เล่มเดิมดีกว่า ความอยากได้ในวัตถุมงคลของหลวงปู่จะได้ลด ลง เฮ้อเหนื่อยจังกับใจดวงนี้ อยากนู้นอยากนี่ตลอด

กราบขอบพระคุณในบทความดีฯครับ

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 6  « on 28/8/2554 20:42:00 IP : 124.122.255.198 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 

คุณจันทร์ครับ สมัยก่อนผมก็อยากได้พระหลวงปู่มาก ขนาดว่ายอมไปตลาดพระและหาเช่าพระครั้งแรกในชีวิต

ได้เป็นพิมพ์ยมกปาฏิหาริย์ มีพระธรรมธาตุขึ้น (สมัยนั้นตลาดพระยังไม่รู้จัก เขาคิดว่ามีส่วนผสมของเขี้ยวหนุมาน) เช่ามาด้วยราคา ๗๐๐ บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อยในยุคนั้น ซึ่งหลวงปู่ก็ยังมีชีวิต

พอเอามาให้ลูกศิษย์หลวงปู่พิจารณา เขาสันนิษฐานให้ฟังว่าน่าจะเป็นวัตถุมงคลที่มีคนมาขโมยไปจากกุฏิหลวงปู่ (เพราะยังไม่เคยมีการออกให้บูชาเลย)

ฟังแล้วก็ให้รู้สึกห่อเหี่ยว จึงได้เข็ดขยาด

แล้วก็มาวัตุมงคลที่สร้างจากปูนขาวพิมพ์ต่าง ๆ ด้านหลังฝังเศษทับทิม/พลอย ผมรู้แน่ว่าสร้างภายหลัง (เพราะผมและเพื่อน ๆ ได้ร่วมเทพระพิมพ์นี้ไปเป็นจำนวนนับหมื่นองค์) แต่ต้องรู้สึกผิดหลังที่เห็นลูกศิษย์สมัยหลวงปู่ไปยืนโฆษณาในตลาดพระแห่งหนึ่งว่าเป็นรุ่นที่ทันหลวงปู่ ผมจึงเป็นโรคขยาดกลัวตลาดพระเป็นอย่างยิ่ง

แล้วก็ยังเรื่องลูกแก้วรุ่นเปิดโลกที่ผมและเพื่อนไปซื้อลูกแก้วประดับตู้ปลา มาจำนวนหลายพันลูกให้หลวงปู่เสก พวกเราก็ทราบกันอยู่ว่าหลวงปู่เสกโดยนั่งหลับตาอธิษฐานจิต ท่านไม่ได้ใช้เทียนน้ำมนต์แต่อย่างใด แต่กลับเห็นลูกศิษย์หลวงปู่ (ที่ชอบเที่ยวแวะเวียนตามแผงพระ) ไปเที่ยวยืนยันใคร ๆ ว่าลูกแก้วที่ในตู้จำหน่ายซึ่งมีน้ำตาเทียนหยดอยู่ทุกลูก เป็นของแท้แน่นอน (ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะลูกแก้วทั้งหมดอยู่ในกล่องที่ปิดฝา)

เรื่องที่จะแนะนำใครไปหาวัตถุมงคลหลวงปู่จากตลาดพระจึงเป็นอันเลิกพูด เพราะขนาดลูกศิษย์หลวงปู่ที่ทันหลวงปู่ก็ยังกล้าพูดไม่จริง การพูดคลาดเคลื่อนเพราะความไม่รู้ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับความจงใจพูดเท็จเพียงเพื่อผลประโยชน์

สุดท้ายถ้ามีบุญ และรักเคารพหลวงปู่จริง ๆ คงต้องรอให้มีเหตุให้ได้พระหลวงปู่ฟรี ๆ จะปลอดภัย แต่ห้ามกะเกณฑ์ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ระหว่างนั้น ก็ให้พยายามสร้างพระภายในด้วยการปฏิบัติไปเรื่อย ๆ และเชื่อเหลือเกินว่าเมื่อปฏิบัติมากเข้า ๆ เจ้าตัวความอยากก็จะลดลง ๆ ไปด้วย ทุกข์เพราะความอยากก็จะลดลงไปเองครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
supa

Posts: 2 topics
Joined: 17/5/2554

ความคิดเห็นที่ 7  « on 29/8/2554 8:48:00 IP : 180.183.201.9 »   
Re: จากหลวงพี่ ...สู่หลวงปู่ดู่
 

คุณสิทธิ์คะ สมัยพุทธกาลมีวัตถุมงคลไหม พระพุทธองค์ได้ตรัส/คาดการณ์อะไรเกี่ยวกับวัตถุมงคลไว้บ้างคะ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
1
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   สนทนาเรื่องราวหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 3 Visits: 16,690,380 Today: 258 PageView/Month: 71,941