เรื่องราวอันเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ดู่ท่าน ทุกๆเรื่องล้วนเป็นสิ่งน่าสนใจ ควรค่าแก่การศึกษา
คุณธนิต เป็นผู้หนึ่งที่โชคดี ได้พบหลวงปู่ ได้ฟังข้อธรรมคำสอนของหลวงปู่ นับว่ามีโอกาสดีกว่าท่านอื่นๆอีกมาก ฯลฯ
คุณธนิต สามารถจดจำได้ถึง เรื่องราวที่ออกจะไปในแนวบทพระคาถา ความศักดิ์สิทธิ์ด้านต่างๆ ซึ่งผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่อยากทราบ
อย่างไรก็ดี เรื่องราวอันเกี่ยวกับด้านอภินิหารหลวงปู่ ในเวบอื่นๆรู้สึกจะมีอยู่พอสมควรแล้ว จริงบ้าง เสริมแต่งกันอีกบ้าง
จึงเหลืออยู่แต่เพียงเวบนี้แห่งเดียว ที่ยึดหลักเผยแพร่คำสอนหลวงปู่แบบซื่อตรง ไม่ผิดเพี้ยน ไม่ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ผิดความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านที่แท้จริง
คุณธนิต ลองคิดดูน่ะครับ ผมเองก็ถือได้ว่าเป็นผู้หนึ่ง เป็นนักศึกษารุ่นหลัง ที่เพียรพยายามศึกษาทั้งด้านพระเครื่อง วัตถุมงคล ตลอดจนข้อธรรมคำสอนของหลวงปู่ท่าน
การต้องการศึกษาอย่างละเอียดทุกด้านดังกล่าว จึงจำเป็นต้องคลุกคลีอยู่ที่วัด รู้จักมักคุ้นกับคนที่วัดเป็นจำนวนมาก หลายๆท่านก็ทันยุคหลวงปู่ดู่ท่านทุกคน และทันแบบใกล้ชิด รับใช้สนิทสนม ได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่างๆลึกๆอันเกี่ยวกับหลวงปู่มามากพอสมควร
ผมอาจกล่าวได้ว่า ณ ปัจจุบัน เกือบทุกท่านทุกส่วน ถ้าจะพูดถึงหลวงปู่ดู่ ก็จะว่ากันแต่ด้านอภินิหาร วัตถุมงคลต่างๆเกือบทั้งสิ้น ว่ากันด้วยความนิยมเล่นหา ว่ากันด้วยราคารุ่นนั้นรุ่นนี้ เรียกว่าเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ น้อยคนนักหรือแทบจะไม่มีเลย ที่พูดถึง ศีล สมาธิ ปัญญา พูดถึงพระไตรสรณคมณ์ ที่หลวงปู่ท่านพาทำ พาสอน ฯลฯ
จนคราแรกผมยังรู้สึกตกใจเลย แม้ หลวงพี่ หลวงน้า หลวงลุง คนที่วัด คนบริเวณวัด คนรอบวัด คนภายนอก เขารู้จักหลวงปู่ดู่แต่เพียงด้านนี้ด้านเดียวแล้วหรือ ไม่รู้และสืบทอดด้านการปฏิปทา ข้อธรรมคำสอน การปฏิบัติธรรมกันบ้างเชียวหรือ
การพบกับประสบการ์ณดังกล่าว ทำให้ผมต้องกลับมาย้อนคิดว่า อนิจจาเอ๋ย..หลวงปู่อยู่วัดสะแกมานานกว่า 4-50 ปี.. วันนั้นเมื่อปี 2526 ก่อนหลวงปู่มรณภาพ 6 ปี ถ้าไม่มีกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งจากรั้วธรรมศาสตร์ ที่อยู่กลุ่มชมรมพุทธ มีพื้นฐานความสนใจด้านพุทธศาสนาอยู่ก่อนแล้ว เข้าไปเป็นศิษย์ จดจำนำข้อธรรมคำสอนที่ถูกต้องของหลวงปู่มาเผยแพร่ดังที่เห็นในปัจจุบัน ป่านนี้เรื่องราวอันเกี่ยวกับหลวงปู่ดู่ท่านจะเป็นเช่นไรหนอ..? มิตกเป็นโมฆะสูญหายหมดสิ้นเสียแล้วหรือ?..หรือจะมีแต่เพียงตำนานชาวบ้าน ตาสี ตาสา ร่ำลือเล่าสืบทอดแต่เพียงด้านอภินิหารต่างๆ ความขลังต่างๆ ท่านเป็นองค์นั้นองค์นี้ นับเป็นสิ่งน่าตระหนกตกใจที่เดียวน่ะครับ
ที่สุดแล้วหลวงปู่ดู่ท่าน ก็คงเป็นได้แค่พระเกจิอาจารย์ขมังเวทย์ มากด้วยวิชาคาถาอาคมต่างๆ พระเครื่องมีราคาเท่านั้นเท่านี้ อุปมาดังเช่นองค์หลวงพ่อเงิน หลวงปู่ศุข หลวงปู่กลั่น หลวงพ่อเดิม เป็นต้น ที่ปัจจุบันทุกคนรู้จักแต่เพียงเป็นความสุดยอดพระเกจิระดับปรมาจารย์ พระเครื่องท่านมีราคาหลายๆแสน หลายๆล้าน แต่ไม่มีใครรับรู้ถึงปฏิปทาข้อธรรมคำสอนขององค์ท่านเหล่านั้นสืบต่อมาเลย ทั้งที่หากสืบเสาะค้นหาความจริงกันจริงๆแล้ว แต่ละองค์ล้วนมีปฏิปทาน่าเคราพเลื่อมใสมาก และมีวิถีหลักไม่พ้นซึ่งการนั่งสมาธิภาวนา ปฏิบัติธรรม
(ผมเคยกราบเรียนถามหลวงปูสุภา กันตสีโล อายุ 118 ปีปัจจุบัน ศิษย์ที่ทันยุคหลวงปู่ศุข ท่านว่าแท้จริงแล้วหลวงปูศุข ท่านสร้างพระก็แต่เพียงเพื่ออนุเคราะห์ญาติโยม ทั้งเป็นที่ตอบแทนหาปัจจัยทำนุบำรุงวัดในสมัยนั้นเล็กน้อยเท่านั้น จริงๆแล้ววันๆองค์ท่านเอาแต่นั่งสมาธิครั้งละเป็นเวลานานๆ นอกจากสอนพระเณรด้านคาถาอาคมพอเอาตัวรอดแล้ว นอกนั้นก็ไม่พ้นธรรม)
ดังนั้น..ผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่อยากฟังคุณธนิตเขียนเล่าน่ะคับ แต่ข้อเขียนอยากให้อยู่ในกรอบ "เล่าสู่กันฟัง" พอเป็นที่ประดับความรู้เฉยๆ..มิใช่ไปในแนวยึดมั่นถือมั่น จนละเลยเสียซึ่งหลักธรรม หลักปฏิบัติ สุ่มเสี่ยงต่อความสำคัญผิดแก่ศิษย์ใหม่ ผู้อ่านใหม่ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน อันจะเสียคุณค่าและวัตถุประสงค์แห่งหน้าเวบของท่านผู้ก่อตั้ง ที่เพียรทำมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย ยากเย็นน่ะครับ
ถ่ายทอดด้วยความจริงใจ..ด้วยความเคราพครับ
|