หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน
คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป
(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)
|
|
Started by |
|
|
Topic: หอสวดมนต์วัดสะแก (Read: 33738 times - Reply: 25 comments) |
|
|
|
สิทธิ์ |
Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552
|
|
หอสวดมนต์วัดสะแก
|
« Thread Started on 7/6/2555 21:29:00 IP : 124.122.0.126 » |
|
|
|
หลายท่านที่ไปเยือนวัดสะแกช่วงนี้อาจรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปจากหอสวดมนต์หนอ
คำตอบก็คือ รูปหล่อพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งถูกอัญเชิญไปจัดเก็บไว้ชั่วคราว รอการสร้างมณฑปถวายบริเวณตรงข้ามพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดู่ เนื่องจากองค์พระมีน้ำหนักมาก ทำให้พื้นหอสวดมนต์ทรุดตัว
หอสวดมนต์วัดสะแกแห่งนี้มีตำนานมาแต่ครั้งที่หลวงปู่ดู่ยังมีชีวิต เดิมทีเป็นกุฏิพระ ๒ ชั้น พระหนุ่มรูปหนึ่งอยากจะให้มีคนมากราบไหว้ท่านเหมือนอย่างหลวงปู่ จึงออกวัตถุมงคลบ้าง เวลานอนจำวัดก็ต้องนอนให้สูงกว่าหลวงปู่ โดยการนอนที่ชั้น ๒ อยู่มาไม่นานก็เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิ ๒ ชั้นนั้น ลามมาถึงฝั่งกุฏิหลวงปู่
แม้ลูกศิษย์หลวงปู่จะมานิมนต์ให้ท่านเก็บของแล้วหนีออกไปจากกุฏิ หลวงปู่ก็ไม่ยอมไป สุดท้ายเมื่อไฟลามมาใกล้กุฏิหลวงปู่่ อยู่ ๆ มันก็ดับไปเอง
ดังนั้น ที่หอสวดมนต์นี้ ในแง่มุมหนึ่งจึงเป็นอุทาหรณ์เตือนใจว่า "อย่าเลยครูอาจารย์" คนที่ขาดความกตัญญูรู้คุณครูอาจารย์ย่อมไม่เจริญ (อย่างยั่งยืน)
จากกุฏิ ๒ ชั้น จึงกลายมาเป็นหอสวดมนต์ยุคแรก แล้วต่อมาอีกหลายปี หอสวดมนต์นี้ก็ได้ใช้เป็นที่ตั้งศพของหลวงปู่อยู่ราว ๑ ปี ก่อนจะได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
จากหอสวดมนต์ยุคแรกก็มาสู่ยุคที่สองที่ได้รับการบูรณะให้สวยสดงดงามพร้อมกับการเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อพระศรีอาริยเมตไตรย
ถึงแม้ว่ารูปหล่อพระศรีอริยเมตไตรยจะไม่มีให้เห็นอย่างที่เคยชินตา เราก็ควรพิจารณาในทางธรรมว่าทุกอย่างไม่เที่ยง และหากเรายึดติดกับวัตถุภายนอกเกินไปก็จะเป็นเหตุแห่งความเศร้าหมองได้ เพราะความไม่เที่ยงภายนอกย่อมย่ำยีจิตใจของผู้ยิดติดให้เกิดความไม่เที่ยงไปด้วย
หอสวดมนต์จะมีคุณค่าหาประมาณมิได้ หากถูกใช้เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้พุทธศาสนิกชนเข้าถึง "วิหารธรรมภายใน" ดังที่เรียกว่า ได้ "ตน" ที่จะเป็นที่พึ่งแห่งตนก็ไม่ผิด |
|
|
|
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: หอสวดมนต์วัดสะแก
แสดงความคิดเห็น |
|
สิทธิ์ |
Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552
|
|
ความคิดเห็นที่ 11 « on 11/6/2555 23:33:00 IP : 124.122.236.6 » |
|
Re: หอสวดมนต์วัดสะแก |
|
|
|
ฐายิณี Talk: |
ลุงสิทธิ์ เดี๋ยวนี้ยังมีอีกไหมที่ปฏิบัติธรรมโต้รุ่งที่วัดสะแก ถ้ามีวันไหนบ้างคะ
โดยส่วนตัวเพราะถ้าไปวัดสะแกจะไปแต่กลางวัน
ไปกลางคืนไม่ได้เพราะจะไม่มีรถโดยสารกลับ
(อันตรายสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าตาเป็นอาวุธ)
แต่ถ้าไปตอนเย็นและกลับเช้าไม่มีปัญหา
น่าสนใจมากค่ะลุง สิทธิ์ช่วยบอกที
|
|
|
คุณฐายิณีมาถามเอาในยุคที่ไม่มีการปฏิบัติธรรมโต้รุ่งที่วัดสะแกเสียแล้ว (ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินของทางวัด) แถมยังเลิกดึกไม่ได้ (เพราะกลัวแก๊งมอเตอร์ไซ) คุณฐายิณีก็เลยไม่ต้องใช้หน้าตาเป็นอาวุธอย่างที่คนแถวหลังพูดแซวนะครับ
นี้แหละ จึงว่าศีลช่วยเอื้อต่อการเจริญธรรมอย่างไร ในทางตรงกันข้าม เมื่อคนในสังคมขาดศีลกันแล้ว จะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญธรรมอย่างไร |
|
|
|
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ » คลิ๊กที่นี่ |
|
|