ขอกราบคุณพระศรีรัตนตรัย ขอกราบหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่
คุณอาสิทธิ์ คุณอาเมธา และพี่ ๆ ทีมงานทุกท่าน
เรื่องที่ผมเขียนมานี้เคยลงไปแล้วครั้งหนึ่ง ของกระทู้คุณอาสิทธิ์ที่ชื่อว่า ไปทำงาน ผมตั้งใจเขียนขยายความเพิ่ม เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอีก ตามกระทู้ที่ว่า เราเชื่อหลวงปู่กันจริงไหม...แล้วเชื่อท่านในแบบไหนกัน...ถ้าผมเขียนผิดพลาดประการใดผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
เรื่องของผมมีอยู่ว่า ในปีนั้นเป็นปี 2009 ปีที่ถัดจากการระบาดอย่างหนักของโรคไข้หวัดนก ผมรู้สึกตัวร้อน ๆ หนาว ๆ เหมือนจะเป็นไข้ ผมจึงลางานมาพักที่บ้านสามวัน ผมมีอาการไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีน้ำมูก มีเสมหะออกมาเยอะมาก ไอและเจ็บคอต้องกินน้ำร้อนจนลิ้นแตก กินยาลดไข้แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น อาการหนักขนาดนี้ ผมไม่รู้ว่าผมเป็นโรคอะไร ได้แต่นอนอยู่บนเตียงและลุกขึ้นไปกินน้ำร้อนกับยา
แต่เวลานั้นในใจผมไม่คิดที่จะไปหาหมอเลย คิดแต่จะลองรักษาด้วยธรรมโอสถจากธรรมปฏิบัติเท่านั้น บนหัวเตียงผมมีหนังสือตามรอยธรรม ย้ำรอยครู ผมอ่านถึงตอนที่หลวงปู่สอนเรื่องความเชื่อว่า แกเชื่อจริงไหมล่ะ ถ้าแกเชื่อจริง ก็จะได้ของจริง ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ต้องทำจริงจึงจะเห็นผล
จึงกำเหรียญรูปลักษณ์หลวงปู่ สวดไตรสรณคมน์สามวันสองคืน อาการของผมค่อย ๆ ดีขึ้นจนเป็นปรกติ ดูเป็นเรื่องแปลกและดูเกินความจริงไป ผมจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร แล้วเก็บความสงสัยเอาไว้กับตัวเองมาตลอด
จนได้มีโอกาสไปนั่งฟังคุณอาเมธาเล่าเรื่องหลวงปู่ที่บ้านคุณอาเมธา ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจติดตามฟัง กว่าเรื่องของผมอีกเยอะเลยครับ ผมเก็บความสงสัยของผมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
หลังจากพบคุณอาเมธา ผมจึงพิมพ์คำถามผ่าน sms ไปว่า ขอคุณอาเมธาครับ ผมขอกราบถามหลวงปู่ด้วยครับว่า ปี2009 ปีที่ผมป่วยเป็นไข้หวัดนกในปีนั้น ผมกำเหรียญรูปหลวงปู่ ซึ่งเป็นเหรียญที่หลวงปู่ไม่ได้ปลุกเสกด้วย หลวงปู่มาช่วยชีวิตผมไว้หรือครับ
ผ่านไปสามสี่วัน คุณอาเมธาพิมพ์กลับมา บอกว่าหลวงปู่ท่านมาช่วยจริง และท่านฝากบอกอีกว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่ใช้รักษาโรคได้นะ ขอบารมีพระ ให้ขอความช่วยเหลือหลวงปู่ทวด ผมเก็บข้อความนี้ไว้ในมือถือ และยังเป็นข้อความที่อยู่ในใจของผมตลอดเวลาครับ เรื่องของผมมีเพียงเท่านี้ละครับ แล้วเรื่องของพี่ ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ...
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่อ่าน และขออนุโมทนาในการปฏิบัติธรรม สาธุ สาธุ สาธุครับ
|