ตัวอย่างคู่ปราบ คู่ปรับ
พระพุทธเจ้าปราบพญาชมพูบดี
พระอุปคุตปราบพญามาร
พระพุทธเจ้าปราบท้าวพกาพรหม
ในเทปที่ผมเคยอัดไว้
หลวงปู่พูดถึงสามเณรอรหันต์ ที่เป็นคู่ปรับ
ของพระโปฐิละ พระอาจารย์ใบลานเปล่า
แม้ในยุคนี้หลวงปู่กับศิษย์หลายคน รวมทั้งเฮียอู๋
ก็จัดได้ว่าเป็น "คู่ปราบ คู่ปรับ"
เพราะท่านสอนแล้วเชื่อ
ไม่ไปเที่ยวแสวงหาครูอาจารย์ที่ใดอีก
มีหลวงปู่เพียงองค์เดียว
หรือครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่บอกให้ไปกราบ
ครั้งหนึ่งผมอยู่ในเหตุการณ์
มีเพื่อนที่มาจากกรุงเทพฯ เคยมาปฏิบัติกับหลวงปู่
ได้เรียนหลวงปู่ว่าจะไปกราบพระอาจารย์ ...
ไปค้างคืนปฏิบัติภาวนา
ท่านตอบเขาว่า "โมทนาด้วย ข้าไม่มีโอกาส"
ภายหลังเมื่อมีโอกาสอยู่กับหลวงปู่เพียงลำพัง
ท่านสอนผมว่า
"สมัยก่อนเวลาลูกศิษย์
มาขอเรียนธรรมะกับอาจารย์
ถ้ายังทำไม่ได้ เขาจะไม่ไปไหน
ไม่ไปหาองค์อื่น
เพราะถือเป็นการปรามาส
ครูอาจารย์ที่ท่านกำลังสอนอยู่"
หากเราพิจารณาให้ดี
ที่พระพุทธองค์ทรงทำเป็นแบบอย่าง
ตามพุทธประวัติ
เจ้าชายสิทธัตถะตอนที่ยังแสวงหาโมกขธรรม
ท่านได้ไปเรียนกับพระดาบสทั้งสอง
อาฬารดาบส กาลามโคตร กับอุทกดาบส รามบุตร
สำนักแรกท่านศึกษาปฏิบัติจนได้ฌาน ๔
และอรูปฌาน ๓ (สมาบัติ ๗)
สิ้นความรู้อาจารย์ ถึงได้ขอไปเรียนสำนักที่สอง
ท่านก็ปฏิบัติต่อจนได้สมาบัติ ๘
คือฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔
ท่านอาจารย์ทั้งสององค์หมดความรู้
ไม่รู้จะสอนอะไรอีก ต่างก็ชักชวนพระองค์
ให้อยู่ช่วยกันสอนอบรมลูกศิษย์
แต่ทรงพบว่ายังมิใช่ทางพ้นทุกข์
ถึงได้แสวงหาหนทางปฏิบัติต่อไป
นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่หลวงปู่ท่านว่า
"ข้าสอนตามแบบพระพุทธเจ้า"
กับข้อคิดในการแสวงหาครูอาจารย์
เล่าไว้ให้หมู่คณะและผู้สนใจที่มาภายหลัง
ได้ฟังกัน
|