อยากจะบอกว่าหลวงปู่ไม่เพียงเป็นกำลังใจให้ศิษย์เท่านั้น หากแต่ท่านยังพยายาม "ปิดอบาย" ให้กับลูกศิษย์อีกด้วย
กับตัวอย่างคนหาปลาที่ลุงสิทธิ์เล่าไว้ในประวัติหลวงปู่ ก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่งที่หลวงปู่ต้องการปิดอบายให้กับชาวบ้านหาปลา โดยให้สมาทานศีล อย่างน้อยที่สุดก็ในช่วงที่ยังมิได้ทำปาณาติบาตตามอาชีพหากินกับปูปลาประจำวัน
อีกหลาย ๆ ตัวอย่างที่เล่าไว้ในหัวข้อปกิณกบาป ไม่ว่าจะเป็นกรณีพาเด็กเล็กเข้าวัดแล้วไม่ดูแลให้ดี ปล่อยให้เด็กเที่ยวไปส่งเสียงรบกวนคนที่นั่งภาวนา หรือเรื่องการเอ่ยปากใช้พระทำนั่นทำนี่ให้ ฯลฯ
ที่จะเล่าเพิ่มในวันนี้คือเรื่องความเมตตาของหลวงปู่ที่จะปิดอบายให้กับชาวบ้านคนหนึ่ง แต่หลวงปู่คงทำไม่สำเร็จ เพราะเขาไม่รับ หลวงปู่จึงต้อง "อุเบกขา"
เรื่องก็มีอยู่ว่าก่อนที่หลวงปู่จะมาบวชเป็นพระ หลวงปู่ได้นำปัจจัยทั้งหมดที่เป็นมรดกและที่หลวงปู่สะสมในช่วงครองเพศเป็นฆราวาส จำนวนราวแสนสามหมื่นบาท ไปฝากไว้กับญาติคนหนึ่ง
เป็นเวลานานหลายปีทีเดียว กว่าหลวงปู่จะเอ่ยปากถามถึงปัจจัยที่ฝากเขาไว้ โดยที่เขาก็เป็นคนเทียวไปเทียวมาที่วัด (เพราะบ้านอยู่ในละแวกใกล้วัด) แต่เขาไม่เคยเอ่ยปากว่าจะนำมาคืนหลวงปู่ (เพื่อให้หลวงปู่นำไปใช้เป็นประโยชน์แก่สงฆ์ส่วนรวม) แต่อย่างใดเลย
อย่างที่ลุงสิทธิ์เคยเล่าให้ฟังแล้วว่า หลวงปู่เป็นพระที่ไม่สั่งสม ปัจจัยที่มีคนนำมาถวาย หลวงปู่ท่านก็จะมอบให้เป็นของสงฆ์ส่วนรวม ดังนั้น จึงชัดเจนมากว่า การทวงถามถึงทรัพย์ที่เคยฝากโยมไว้นั้น หลวงปู่คงมุ่งหวังมิให้เขาผิดศีลข้ออทินนาทาน แต่เขาก็พ่ายแพ้ต่อความโลภในทรัพย์ของผู้อื่น
กาลเวลาผ่านมากระทั่งหลวงปู่ใกล้มรณภาพ หลวงปู่ก็ได้ให้โอกาสครั้งสุดท้ายแก่เขา หลวงปู่ได้เอ่ยปากอีกครั้งกับเขา แต่...เขากลับปฏิเสธโอกาสนั้นอย่างมิใยดี ด้วยการลุกเดินหนีไปโดยไม่พูดจาอะไร
...โลกคือหมู่สัตว์ที่ล้วนพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่มจักพอ เพราะเป็นทาสแห่งตัณหา
โอกาสที่หลวงปู่เมตตาหยิบยื่นให้ด้วยปรารถนาจะปิดอบายแก่เขา แต่เขาก็ปฏิเสธมัน เพราะความที่ลุแก่อำนาจแห่งโลภะในทรัพย์ของผู้อื่น
หลังจากนั้นไม่นาน หลวงปู่ก็ละสังขาร เขา (ผู้ปฏิเสธความเมตตาของหลวงปู่) ได้หาอุบายวิธีชำระหนี้สงฆ์ด้วยการสร้างพระพุทธรูปขนาดย่อม ๆ สององค์มาวางไว้ที่ซุ้มประตูวัด
...โอหนอ เหตุผลและการกระทำที่จะทำให้สบายใจเช่นนั้น เพียงพอไหมหนอที่จะ...ปิดอบาย น่ากลัวจริง น่ากลัวจริง |