luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท  (Read: 75585 times - Reply: 72 comments)   
yingka

Posts: 50 topics
Joined: 9/11/2552

คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
« Thread Started on 8/3/2555 9:47:00 IP : 124.122.251.29 »
 

 

     "สติ" เป็นสภาวธรรมอันหนึ่งซึ่งให้ธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นโดยพร้อมเพรียง

"สติ" ก็คือ ชีวิต  ถ้าขาดสติเมื่อใดก็เหมือนตาย

 

     ที่เรามาปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพื่อให้เห็นจิตเดิม เราคิดว่าจิตเป็นสุข

จิตเป็นทุกข์ แต่ความจริงจิตไม่ได้สร้างสุขสร้างทุกข์ อารมณ์มาหลอกลวง

ต่างหาก มันจึงหลงอารมณ์  ฉะนั้น เราจึงต้องมาฝึกจิตใจให้ฉลาดขึ้น

ให้รู้จักอารมณ์ ไม่ให้เป็นไปตามอารมณ์ จิตก็สงบ เรื่องแค่นี้เอง ที่เราต้อง

มาทำกรรมฐานกันยุ่งยากทุกวันนี้

 

     การฝึกจิตไม่เหมือนฝึกสัตว์ จิตนี่เป็นการฝึกยากแท้ๆ แต่อย่าไปท้อถอย

ง่ายๆ ถ้ามันคิดไปทั่วทิศก็กลั้นใจมันไว้ พอใจมันจะขาดมันก็คิดอะไรไม่ออก

มันก็วิ่งกลัีบมาเอง ให้ทำไปเถอะ

 

     จิตของเรานี้ เมื่อไม่มีใครตามรักษา มันก็เหมือนคนคนหนึ่งที่ปราศจาก

พ่อแม่ที่ดูแล เป็นคนอนาถา คนอนาถานั้นเป็นคนที่ขาดที่พึ่ง คนที่ขาดที่พึ่ง

ก็เป็นทุกข์ จิตนี้ก็เหมือนกัน ถ้าขาดการอบรมบ่มนิสัยหรือทำความเห็นให้

ถูกต้องแล้ว จิตนี้ก็ลำบากมาก

 


 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
จำนวนข้อความทั้งหมด:  22
<
1
2
3
>
แสดงความคิดเห็น
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 11  « on 20/6/2556 22:47:00 IP : 223.205.239.97 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 


ขอบคุณน้องสุภาและคุณปุถุชน (คน(มีภูมิธรรม)ไม่ธรรมดา ในความเห็นของพี่คนแอบอ่าน) เช่นกันค่ะ

ขอลงประมวลคำถามและคำตอบ แนวการปฏิบัติธรรม โดย พระอาจารย์ชา สุภัทโท ต่อเลยนะคะ

ถาม

ผมยังคงมีความนึกคิดต่างๆ มากมาย จิตของผมฟุ้งซ่านมาก ทั้งๆ ที่ผมพยายามจะมีสติอยู่

ตอบ

อย่าวิตกในเรื่องนี้เลย พยายามรักษาจิตของท่านให้อยู่กับปัจจุบัน เมื่อเกิดรู้สึกอะไรขึ้นมา
ภายในจิตก็ตาม จงเฝ้าดูมัน และปล่อยวาง อย่าแม้แต่หวังที่จะไม่ให้มีความนึกคิดเกิดขึ้นเลย
แล้วจิตก็จะลุถึงสภาวะปกติธรรมชาติของมัน ไม่มีการแบ่งแยก ระหว่างความดีและความชั่ว
ร้อนและหนาว เร็วหรือช้า ไม่มีเรา ไม่มีเขา ไม่มีตัวฉันของฉัน อะไรๆ ก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น

เมื่อท่านเดินบิณฑบาต ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่เดินและเห็นตามที่เป็นอยู่
ไม่จำเป็นต้องยึดมั่นอยู่ในการแยกตนไปอยู่ตามลำพังหรือกักขังตนเอง ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด
จงรู้จักตัวเองด้วยการปฏิบัติตนเป็นปกติตามธรรมดาและเฝ้าดูเมื่อเกิดสงสัย จงเฝ้าดูมันเกิดขึ้น
และดับไป มันก็ง่ายๆ


อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดทั้งสิ้น


เหมือนกับว่า ท่านกำลังเดินไปตามถนน บางขณะท่านจะพบสิ่งกีดขวางทางอยู่ เมื่อท่าน
เกิดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง จงรู้ทันมัน และเอาชนะมัน โดยปล่อยให้มันผ่านไปเสีย อย่าไป
คำนึงถึงสิ่งกีดขวางที่ท่านได้ผ่านมาแล้ว อย่าวิตกกัลวลกับสิ่งที่ยังไม่ได้พบ จงอยู่กับปัจจุบัน
อย่าสนใจกับระยะทางของถนน หรือกับจุดหมายปลายทาง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไป
ไม่ว่าท่านผ่านอะไรไป อย่าไปยึดมั่นไว้

ในที่สุด จิตจะบรรลุถึงความสมดุลย์ตามธรรมชาติของจิต และเมื่อนั้น การปฏิบัติก็จะเป็น
ไปเองโดยอัตโนมัติ

ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นและดับไปในตัวของมันเอง


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
น้อง

Posts: 5 topics
Joined: 17/3/2554

ความคิดเห็นที่ 12  « on 22/6/2556 20:44:00 IP : 171.96.34.85 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 
สาธุ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 13  « on 5/7/2556 12:22:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 


พี่คนแอบอ่านหยิบยกธรรมะของหลวงพ่อชามาแต่ละตอนล้วนสำคัญและเป็นเรื่องใกล้ตัวนักปฏิบัติมาก

อย่างกรณีสำรวมอินทรีย์นี้ก็เหมือนกัน เข้าทำนอง "ทำเหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน"

คน ๒ คน สำรวมอินทรีย์เหมือนกัน แต่คนหนึ่งเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด (บางทีเลยเถิดถึงขนาดเผลอไปเพ่งโทษผู้อื่นว่าไม่สำรวมเท่าตน) อีกคนหนึ่ง ได้อานิสงส์ของการสำรวมอินทรีย์เป็นความสงบกายวาจาที่จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการเจริญสมาธิและปัญญาต่อไป

อะไร ๆ ที่ไม่พอเหมาะพอดี จึงเคลื่อนจากมัชฌิมาปฏิปทา เมื่อเคลื่อนจากมัชฌิมาปฏิปทา ก็ทำให้ไม่สำเร็จประโยชน์ คือ ไม่พาให้บรรลุถึงจุดหมายที่ต้องการ 

ขอบคุณและอนุโมทนากับพี่คนแอบอ่านอีกครั้งครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
น้อง

Posts: 5 topics
Joined: 17/3/2554

ความคิดเห็นที่ 14  « on 28/9/2556 16:55:00 IP : 171.98.86.175 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 
สาธุ พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 15  « on 4/10/2556 12:59:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 

ขอบพระคุณพี่คนแอบอ่านอย่างสูงครับ เพราะช่วงนี้กำลังเผชิญกับ "ตัวง่วง" อยู่บ่อยครั้งครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 16  « on 14/11/2556 16:29:00 IP : 180.183.16.207 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 


     ประมวลคำถามและคำตอบ แนวการปฏิบัติธรรม โดย พระอาจารย์ชา สุภัทโท ที่ตอบปัญหาการปฏิบัติฯ แก่พระภิกษุสงฆ์

      ถาม

                 ขอความกรุณาท่านอาจารย์อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรมด้วยครับ

      ตอบ

               กรรม คือ การกระทำ กรรมคือการยึดมั่น ถือมั่น กาย วาจา และใจ ล้วนสร้างกรรมเมื่อมีการ ยึดมั่น ถือมั่น เราทำกันจนเกิดความเคยชินเป็นนิสัย ซึ่งจะทำให้เราเป็นทุกข์ได้ในกาลข้างหน้า นี่เป็นผล ของการยึดมั่น ถือมั่น และของกิเลสเครื่องเศร้าหมองของเราที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ความยึดมั่นทั้งหลาย จะทำให้เราสร้างกรรม

              สมมุติว่า ท่านเคยเป็นขโมยก่อนที่จะมาบวชเป็นพระ ท่านขโมยเขา ทำให้เขาไม่เป็นสุข ทำให้ พ่อแม่หมดสุข ตอนนี้ท่านเป็นพระ แต่เวลาที่ท่านนึกถึงเรื่องที่ท่านทำให้ผู้อื่นหมดสุขแล้ว ท่านก็ไม่ สบายใจ และเป็นทุกข์แม้จนทกุวันนี้

              จงจำไว้ว่า ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดผลในอนาคตได้

               ถ้าท่านเคยสร้างกรรมดีไว้ในอดีต และวันนี้ก็ยังจำได้ ท่านก็เป็นสุข ความสุขใจเป็ผลจากกรรม ในอดีต

              สื่งทั้งปวงมีเหตุเป็นปัจจัยทั้งในระยะยาว และถ้าใคร่ครวญดูแล้วทั้งในทุกๆ ขณะด้วย แต่ท่าน อย่าไปนึกถึงอดีตหรือปัจจุบัน หรืออนาคต เพียงแต่เฝ้าดูกายและจิต ท่านจะต้องพิจารณาจนเห็นจริงใน เรื่องกรรมด้วยตัวของท่านเอง จงเฝ้าดูจิต ปฏิบัติแล้วท่านจะรู้อย่างแจ่มแจ้ง

              อย่าลืมว่า กรรมของใครก็เป็นของคนนั้น อย่ายึดมั่น และอย่าจับตาดูผู้อื่น

              ถ้าผมดื่มยาพิษ ผมก็ได้ทุกข์ ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะมาเป็นทุกข์ด้วย จงรับเอาแต่สิ่งดีที่อาจารย์ สอน แล้วท่านจะเข้าถึงความสงบ จิตของท่านจะเป็นเช่นเดียวกันกับอาจารย์

              ถ้าท่านพิจารณาดู ท่านก็จะรู้ได้ แม้ว่าขณะนี้ท่านจะยังไม่เข้าใจ เมื่อท่านปฏิบัติต่อไป มันก็ จะแจ่มแจ้งขึ้น ท่านจะรู้ได้ด้วยตนเอง ได้ชื่อว่าปฏิบัติธรรม

              เมื่อเรายังเล็ก พ่อแม่วางกฏระเบียบกับเรา และหัวเสียกับเรา แท้จริงแล้วท่านต้องการจะช่วยเรา กว่าเราจะรู้ก็ต่อมาอีกนาน พ่อแม่และครูบาอาจารย์ดุว่าเรา และเราก็ไม่พอใจ ต่อมาเราจึงเข้าใจว่าทำไม เราถึงถูกดุ ปฏิบัติไปนานๆ แล้วท่านก็จะเห็นเอง ส่วนผู้ที่คิดว่าตนฉลาดล้ำก็จะจากไปในเวลาอันสั้น เขา ไม่มีวันจะได้เรียนรู้

              ท่านต้องขจัดความคิดว่าตัวฉลาด สามารถ ออกไปเสีย ถ้าท่านคิดว่า ท่านดีกว่าผู้อื่น ท่านก็จะมีแต่ ทุกข์ เป็นเรื่องน่าสงสาร อย่าขุ่นเคืองใจ แต่จงเฝ้าดูตนเอง

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 17  « on 15/1/2557 19:17:00 IP : 180.183.68.188 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 


           ประมวลคำถามและคำตอบ แนวการปฏิบัติธรรม โดย พระอาจารย์ชา สุภัทโท ที่ตอบปัญหาการปฏิบัติฯ แก่พระภิกษุสงฆ์

  • ถาม

             บางครั้งดูเหมือนว่า ตั้งแต่ผมบวชเป็นพระมานี้ ผมประสบความยากลำบากและความทุกข์มากขึ้น

  • ตอบ

             ผมรู้ว่า พวกท่านบางคนมีภูมิหลังที่สะดวกสบายทางวัตถุมาก่อน และมีเสรีภาพ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ขณะนี้ท่านต้องเป็นอยู่อย่างสำรวมตนเอง และมักน้อยยิ่งนัก ซ้ำในการฝึกปฏิบัตินี้ ผมยังให้ท่านนั่งคอยหลายชั่วโมง อาหารและดินฟ้าอากาศ ก็ต่างกันไปกับบ้านเมืองของท่าน แต่ทุกคนก็ต้องผ่านความทุกข์ยากกันบ้าง นี่คือความทุกข์ที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์

            อย่างนี้แหละที่จะทำให้ท่านได้เรียนรู้ เมื่อท่านนึกโกรธ หรือนึกสงสารตัวเอง นั่นแหละเป็นโอกาสที่เหมาะที่จะเข้าใจเรื่องของจิต พระพุทธเจ้าตรัสว่า กิเลสทั้งหลายเป็นครูของเรา

           ศิษย์ทุกคนก็เหมือนลูกของผม ผมมีแต่เมตตากรุณาต่อทุกคน ถ้าผมทำให้ท่านทุกข์ยากก็เพื่อประโยชน์ของท่านเอง ผมรู้ว่าพวกท่านบางคนมีการศึกษาดี และมีความรู้สูง ผู้มีการศึกษาน้อย และมีความรู้ทางโลกน้อย จะฝึกปฏิบัติได้ง่าย

           มันก็เหมือนกับว่า ฝรั่งเช่นท่านนี้ มีบ้านหลังใหญ่ที่จะต้องเช็ดถู เมื่อเช็ดถูแล้ว ท่านก็จะมีที่อยู่กว้างขวาง มีครัว มีห้องสมุด ท่านต้องอดทน และความอดทนได้สำคัญมากในการฝึกปฏิบัติของเรา

           เมื่อผมยังเป็นพระหนุ่มๆ อยู่ ผมไม่ได้รับความยากลำบากมากเท่าท่าน ผมพูดภาษาพื้นเมือง และฉันอาหารพื้นเมืองของผมเอง แม้กระนั้น บางวันผมก็ทอดอาลัย ผมอยากสึก และถึงกับอยากฆ่าตัวตาย ความทุกข์เช่นนี้เกิดจากความเห็นผิด

           เมื่อท่านได้เห็นความจริง (สัจจธรรม) แล้วท่านจะละทิ้งทัศนะและทิฏฐิเสียได้ ทุกอย่างจะเข้าสู่ความสงบ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 18  « on 15/1/2557 19:26:00 IP : 180.183.68.188 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 


ถาม

             ผมเจริญสมาธิภาวนาจนจิตสงบลึก ผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ ?

ตอบ

              นี่ก็ดีแล้ว ทำจิตให้สงบ และเป็นสมาธิ และใช้สมาธินี้พิจารณาจิตและกาย ถ้าจิตเกิดไม่สงบก็จงเฝ้าดูด้วย แล้วท่านจะรู้ถึงความสงบที่แท้จริง

              เพราะอะไร ?

              เพราะท่านจะได้เห็น ความไม่เที่ยง แม้ความสงบเองก็ดูให้เห็นว่าไม่เที่ยง

              ถ้าท่านติดอยู่ในความสงบแล้ว ท่านจะเป็นทุกข์เมื่อจิตไม่สงบ ฉะนั้น จงปล่อยวางหมดทุกสิ่งแม้แต่ ความสงบ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
เหลิม

Posts: 2 topics
Joined: 18/5/2555

ความคิดเห็นที่ 19  « on 16/1/2557 8:11:00 IP : 134.204.208.36 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 

สาธ....

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
คนแอบอ่าน

Posts: 3 topics
Joined: 21/7/2555

ความคิดเห็นที่ 20  « on 16/1/2557 14:07:00 IP : 180.183.68.188 »   
Re: คติธรรมหลวงพ่อชา สุภทฺโท
 


 ถาม

              ผมได้ยินท่านอาจารย์พูดว่า ท่านเป็นห่วงลูกศิลย์ที่พากเพียรใช่ไหมครับ ?

 ตอบ

              ถูกแล้ว ผมเป็นห่วง ผมเป็นห่วงว่าเขาเอาจริง เอาจังจนเกินไป เขาพยายามมากเกินไป แต่ขาดปัญญา เขาเคี่ยวเข็นตนเองไปสู่ความทุกข์ยากโดยไม่จำเป็น

              บางคนมุ่งมั่นที่จะรู้แจ้ง เขากัดฟันแน่น และใจดิ้นรนอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้เป็นความพยายามมากเกินไป

              คนทั่วไปก็เช่นเดียวกัน พวกเขาไม่รู้ถึงสภาพเป็นจริงของสิ่งทั้งปวง(สังขาร  สังขารรูปทั้งปวง จิต และร่างกาย ล้วนเป็นของไม่เที่ยง จงเฝ้าดูและอย่ายึดมั่นถือมั่น

              บางคนคิดว่าเขารู้ เขาวิพากษ์วิจารณ์ จับตามองและลงความเห็นเอาเอง อย่างนี้ก็ตามใจเขา ทิฏฐิของใครก็ปล่อยให้เป็นของคนนั้น

              การแบ่งเขาแบ่งเรานี้อันตราย เปรียบเหมือนทางโค้งอันตรายของถนน ถ้าเราคิดว่า คนอื่นด้อยกว่า หรือเสมอกันกับเรา เราก็ตกทางโค้ง ถ้าเราแบ่งเขาแบ่งเรา เราก็จะเป็นทุกข์

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
<
1
2
3
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 4 Visits: 16,725,600 Today: 287 PageView/Month: 28,901