luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม  (Read: 288920 times - Reply: 289 comments)   
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
« Thread Started on 14/5/2556 7:59:00 IP : 203.148.162.151 »
 

ถึงวันนี้ เว็บ luangpudu.com / luangpordu.com ซึ่งมีการตั้งชื่อเล่นจากเพื่อน ๆ สมาชิกว่า "บ้านหลวงปู่อมยิ้ม" ก็เปิดประตูบ้านมานานกว่า ๓ ปีแล้ว มีเพื่อน ๆ มาเป็นสมาชิกร่วม ๙๐๐ คน

ลุงสิทธิ์มาสังเกตว่าลุงสิทธิ์เขียนโม้อยู่คนเดียวเสียเป็นส่วนมาก (เขียนไปตั้งกว่า ๕๐๐ กระทู้)  จึงอยากได้ยินเรื่องเล่าจากสมาชิกบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ที่ตัวเองหรือคนใกล้ตัวเจอะเจอสิ่งกระทบต่าง ๆ แล้วอาศัยอุบายธรรมอะไรในการรักษาใจ

ลุงสิทธิ์ตระหนักเสมอว่าปัญญาแท้นั้นไม่ได้เกิดจากการอ่านมากหรือฟังมาก นั้นเป็นเพียงปัญญาขั้นต้น หากแต่เกิดจากการรักษาใจ (ผ่านการเจริญสติและปัญญา) ในเวลาที่เจอะเจอสิ่งกระทบซึ่งเป็นเหมือนแบบฝึกหัด ซึ่งถ้าผ่านแบบฝึกหัดมามาก สติปัญญาก็ยิ่งได้รับการฝึกฝนให้เฉียบคมมากขึ้น ดังที่ครูบาอาจารย์มักอุปมาว่า "สิ่งกระทบหรือแบบฝึกหัดเป็นเหมือนหินลับสติปัญญา"

นอกจากนี้ ลุงสิทธิ์ก็ยังเชื่ออีกว่า จุดอ่อน (กิเลส) เช่นความกลัวของแต่ละคน ย่อมแตกต่างกัน ปัญหาเล็ก ๆ ของคน ๆ หนึ่ง อาจเป็นปัญหาใหญ่ของอีกคนหนึ่ง สำหรับผู้ต้องการฝึกฝนอบรมตนแล้ว ย่อมไม่ปรารถนาให้จุดอ่อนเหล่านั้นติดตัวตัวเองไปจนตาย (แม้บางครั้งอาจให้เหตุผลให้ตัวเองสบายใจว่า เอาไว้ละทีหลังก็ตาม) การยอมรับในจุดอ่อนที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่เป็นจุดร่วมก็คือการเดินไปบนหนทางของการพัฒนาตน ทั้งเรื่องกายวาจา (ศีล) คุณภาพของจิต (สมาธิ) และปัญญา

ลุงสิทธิ์อารัมภบทมามากพอสมควร (หรืออาจเกินควร) แล้ว จึงอยากรับฟังเรื่องเล่าอันอาจจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ สมาชิก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชวนให้เศร้า แล้วระงับหรือบรรเทาความเศร้าไว้ได้ เรื่องที่ชวนให้โกรธ แล้วระงับหรือบรรเทาความโกรธไว้ได้ เรื่องที่ชวนให้ลุ่มหลง แล้วระงับหรือกลับตัวให้คลายหลงได้ ฯลฯ

น้องเอสกิโมซึ่งอยู่ขั้วโลกเหนือ อยู่กับกองหิมะ เจอะเจอผู้คนน้อย ก็ใช่ว่าจะมีสิ่งกระทบน้อยนะ เพราะสิ่งกระทบที่มาทางใจโดยตรง ก็อาจมีมากไม่แพ้ช่องทางตา หู ฯลฯ คุณพ่อน้องพลอยสวยก็คงมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของผู้เป็นพ่อ และอีก ๆ หลาย ๆ คนที่มีลูกเล็กลูกโต สิ่งกระทบที่เจอะเจอในที่ใกล้ตัว หรือแม้แต่ในวัดในวา ฯลฯ สิ่งกระทบที่อยู่ในประเทศ และนอกประเทศ (กรณีนอกประเทศนี่คงต้องให้เป็นการบ้านของคุณคนแถวหลัง ป้าน้อง หลานเอมี่ รวมทั้งน้องเอสกิโม) หรือสิ่งกระทบในแวดวงที่ทำงาน ก็ต้องถามคุณ DRAGON ฯลฯ หรือจะเป็นแวดวงการศึกษา ....ต้องถามใครล่ะ  อีกทั้งประสบการณ์ของคนที่ทำบ้านให้เป็นวัดอย่างน้องพุทธธิดา (และเชื่อว่าอีกหลาย ๆ คน) สารพัดเรื่องที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟัง 

เชิญทุกท่านช่วยกันทำให้บ้านหลวงปู่อมยิ้มที่เหมือนมีชีวิตอยู่แล้วนี้ให้มี "ชีวา" ด้วยนะครับ 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
จำนวนข้อความทั้งหมด:  110
 First page 
<
4
5
6
7
8
9
10
11
>
แสดงความคิดเห็น
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 81  « on 27/12/2556 8:00:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


เห็นภาพบรรยากาศความแออัดของการเดินทางทางรถไฟของประชาชนในประเทศอินเดียทีไร อดนึกเทียบเคียงกับการเดินทางบนหนทางธรรมไม่ได้

ทางหนึ่งเป็นทางแออัดคับข้อง แต่อีกทางหนึ่งเป็นทางไม่แออัด ไม่คับข้อง ไม่ว่าจะเป็นสมณะหรืออุบาสกอุบาสิกา ก็ล้วนกำลังเดินไปบนหนทางที่ไม่แออัด ไม่คับข้อง แต่ทั้งสองกลุ่มก็ล้วนมีความยินดีในการเดินไปบนหนทางที่ตนให้คุณค่า

ปฏิรูปเทส หรือการได้อยู่อาศัยในถิ่นที่สัปปายะก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก การได้เกิดมาในประเทศที่พระพุทธศาสนายังประดิษฐานมั่นคง พระธรรมคำสอนก็ยังปรากฏอยู่ ความวุ่นวายในบ้านเมืองแม้มีมากขึ้นเป็นลำดับ แต่โดยรวมก็ยังมีมุมสงบให้แสวงหาได้ไม่ลำบากนัก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโชค เป็นสัปปายะทั้งสิ้น

ทีนี้ก็เหลือแต่การใช้ความสัปปายะหรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปฏิบัติธรรมที่ได้นั้นเพื่อสร้าง "เครื่องอยู่ภายใน" ของพวกเราแต่ละคน ๆ ให้แข็งแรงพอจะต่อกรกับความไม่สัปปายะที่จะมีมากขึ้น ๆ อย่างแน่นอน จนกว่าจะหมดลมหายใจ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
eka.

Posts: 26 topics
Joined: 30/5/2554

ความคิดเห็นที่ 82  « on 8/1/2557 14:24:00 IP : 58.8.208.31 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

พี่รณธรรมเองหรือนี่ ... เห็นแว๊บๆ คิดว่าคู่แฝดของ ณเดช

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 83  « on 30/1/2557 12:51:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

ธรรมะคืออะไร

พระพรหมคุณาภรณ์ได้สรุปความหมายไว้อย่างกระชับแต่ครอบคลุม
พระอาจารย์ชยสาโรแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ ดังนี้

What does “Dhamma” mean?

 

i) the truth of things, “the way things are”.

ii) the Buddha’s teachings that illuminate that truth, and which detail

the path leading to the direct experience of it.

 

(ธรรมชาติ สัจธรรม ธรรมเทศนา ธรรมจริยา ....ล้วนแต่อยู่ในความหมายของคำว่า "ธรรม")

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 84  « on 30/1/2557 13:01:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

ธรรมเทศนาของหลวงพ่อชาที่ชี้ให้เห็นสัจธรรมของคำว่าธรรม โดยอุปมาธรรมเหมือนน้ำที่อยู่ใต้ดิน มันมีจริงของมันอยู่อย่างนั้น แต่ต้องอาศัย "ทำให้สุด ขุดให้ถึง"

The truth is always present like water beneath the ground. Those who say that the Dhamma cannot be realized in this day and age are like people who have never tried to dig a well, but still insist that there is no water to be found.

Ajahn Chah

 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 85  « on 20/3/2557 8:33:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

ทุกครั้งที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง เกี่ยวกับการเปิดตัววัตถุมงคลด้วยชื่อรุ่นที่สุดแสนจะเป็นเรื่องโลก ๆ เช่น รุ่นรวย รวย รวย  รุ่นโคตรเศรษฐี  รุ่นอภิมหาเศรษฐี รุ่นเศรษฐีจักรพรรดิ์ ฯลฯ ลุงสิทธิ์ก็อดที่จะสลดใจไม่ได้ 

การสร้างพระในอดีตกับปัจจุบันมันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

การสร้างพระในอดีต เพื่อเกื้อกูลและโยงเข้าหาธรรม เป็นสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดให้ลูกหลานเพื่อรักษาศีลเจริญธรรม

การสร้างพระในปัจจุบัน ผู้สร้างก็มุ่งเอาเงิน ผู้จับจองก็มุ่งเอาอานิสงส์ตามที่โฆษณา มิได้เกื้อกูลหรือโยงเข้าหาธรรมเอาเสียเลย

แถมการสร้างพระในปัจจุบัน ก็มักไม่ได้ทำโดยคณะศิษย์หรือทางวัดจริง ๆ หากแต่มักเป็นการสร้างของกลุ่มบุคคลที่เป็นมืออาชีพ ที่หาเลี้ยงชีวิตในทางนี้ จึงมีความช่ำชองในการโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งมีเครือข่ายในการเปิดรับจอง และแบ่งปันผลประโยชน์กันชนิดดึงดูดให้ร่วมกระบวนการด้วยอย่างมาก ที่สำคัญ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ มักเข้าถึงข้าราชการผู้ใหญ่ในท้องถิ่นนั้น ๆ แล้วเสนอแบ่งปันผลประโยชน์ให้ แลกกับการการเอาชื่อไปอ้างอิงในเอกสารโฆษณาให้น่าเชื่อถือ รวมทั้งเพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวก หรือช่วยรับมือเวลาทางวัดหรือคณะศิษย์มาร้องเรียนหรือโวยวายกับการดำเนินการของกลุ่มดังกล่าว 

หลาย ๆ วัด มักถูกเอาเปรียบ เช่น บอกว่าจะแบ่งปันผลประโยชน์ให้เท่านั้นเท่านี้ สุดท้ายแล้วก็ไม่เป็นไปอย่างที่บอกไว้ทีแรก แถมยังไม่สามารถไปร้องเรียนกับใคร ๆ ได้ เพราะเขาปิดปากด้วยผลประโยชน์หมดแล้ว มูลค่าผลประโยชน์โดยรวมของโครงการหนึ่ง ๆ นั้นเป็นหลักสิบล้าน หรือหลักร้อยล้านทั้งนั้น หากปีหนึ่งดำเนินการสักสองสามโครงการก็ไม่รู้ว่าผลประโยชน์จะมากมายมหาศาลเพียงใด ชวนดึงดูดให้ทำต่อไป ๆ ทำไปในทุก ๆ ภาคของประเทศไทย แต่ปัจจัยก็มิได้กลับมาส่งเสริมวัดวาอารามสักเท่าใดเลย

สุดท้าย เหยื่อก็คือผู้ที่ศรัทธาแต่ขาดปัญญา  

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 86  « on 24/3/2557 9:01:00 IP : 111.84.3.157 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

วันนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระกรรมฐานที่มี "ผี" เป็นอาจารย์

พระรูปนี้ ท่านเล่าให้ลุงสิทธิ์ฟังว่า แต่ก่อนท่านกลัวผีมาก แม้บวชเรียนมาได้ตั้งสิบกว่าพรรษา ความกลัวผีก็ยังไม่หาย ท่านจึงตัดสินใจเดินทางขึ้นเขาไปอยู่ในถ้ำที่ล่ำลือว่าเฮี้ยน เฮี้ยนชนิดมาปรากฏตัวให้เห็นในตอนสว่าง ๆ

ท่านเล่าว่า เวลามีเสียงอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าเสียงกิ่งไม้ใบหญ้า ท่านเป็นต้องคิดปรุงว่า ผี ๆ

บนเขาไม่มีชาวบ้าน ไม่มีที่บิณฑบาต แต่ท่านก็ตัดสินใจจะอยู่อบรมดวงจิตที่ขี้กลัวนี้ให้บรรเทาลงให้ได้ ท่ามกลางความมืดมิดในถ้ำ ยิ่งกลัวมากเท่าใด ใจก็ยิ่งหาเครื่องอยู่มากขึ้นเท่านั้น  ท่านบริกรรมพุทโธ ๆ จนไม่มีช่องว่างให้ความกลัวผีแทรกเข้ามา อุปมาเหมือนนำไม้แห้งมาสีกัน สีกันไม่หยุดหย่อน สุดท้ายความสว่างไสวในใจก็เกิดขึ้น ทีนี้ความกลัวผีมันก็เลยเป็นอันยุติ 

ท่านอยู่ปฏิบัติต่อในถ้ำแห่งนั้นโดยไม่ได้ฉันอาหาร ๓ วัน 

คำบริกรรมและสมาธิ แม้ยังไม่ถึงขั้นปัญญาชั้นสูงอะไรในตอนนี้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นที่มาของ "เครื่องอยู่" ที่มีคุณค่ายิ่ง

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
เหลิม

Posts: 2 topics
Joined: 18/5/2555

ความคิดเห็นที่ 87  « on 24/3/2557 8:18:00 IP : 134.204.208.36 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

สาธุ...ครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 88  « on 2/4/2557 8:30:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


วันก่อน ลุงสิทธิ์ได้ไปเยี่ยมคุณป้าชาวสวนที่รู้จักกันคนหนึ่ง เพราะได้ข่าวว่าแกถูกงูกะปะกัด

แกเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แกเดินเข้าสวนผลไม้ ตามปรกติทุก ๆ วัน โดยมีสุนัขสองตัววิ่งนำไป เข้าใจว่าสุนัขคงไปเหยียบถูกงูกะปะตัวนี้ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้กองใบไม้เพื่อกกไข่ของมันอยู่ ตอนสุนัขเหยียบโดนงู งูก็คงไม่ทันตั้งตัว แต่พอถึงคราวที่แกเดินไปถึง งูก็ฉกกัดแก

ตอนแรกแกมองไม่เห็นตัวงู แต่พอดูแผลที่เลือดเริ่มไหล แกก็เลยเอากิ่งไม้เขี่ยกองใบไม้ดู จึงเห็นตัวมัน

แกเล่าให้ลุงสิทธิ์ฟังว่า ใจตอนนั้น ไม่ได้คิดจะไปตีมันเลย คิดแต่ว่ามันคงเป็นเจ้ากรรมนายเวร ก็ใช้ ๆ กันไป ยิ่งเห็นแววตาบ้องแบ๊วใสแจ๋วของมัน เห็นมันกกหวงไข่ลูกของมัน ก็เห็นใจมัน มันคงตกใจและพยายามปกป้องลูก ๆ ของมัน แกบอกว่า ตอนนี้มันก็น่าจะยังไม่ไปไหน จะไปดูก็ได้ (ลุงสิทธิ์ผู้เป็นคนเชื่อคนง่าย แค่เขาพูดให้ฟังก็สมัครใจเชื่อแล้ว ไม่ต้องไปดูให้เห็นตัวหรอก มันเสียว)

แกปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วให้คนที่บ้านพาไปโรงพยาบาล ยิ่งแกสามารถบอกชนิดของงูได้ ก็ยิ่งง่ายสำหรับการเลือกเซรุ่มให้ถูกชนิด แกว่า แกยังไม่ทันมีอาการง่วง หรืออาการปวดมากมายอะไรนัก ฤทธิ์ยาก็เข้าไปช่วยแล้ว ทั้งยาฝรั่ง ทั้งยาสมุนไพรจากรากไม้ที่ต้องคอยหยอดไปที่ผ้าพันแผลชนิดไม่ให้แห้ง 

เหตุการณ์ครั้งนี้ ตอกย้ำลุงสิทธิ์ถึงคำว่า "จะรู้ว่ามีศีลจริงหรือไม่ ก็ตอนมีสิ่งกระทบ" ด้วยเหตุที่คุณป้าชาวสวนท่านนี้ เป็นคนปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ แม้มีสิ่งกระทบ ก็ยังคงตั้งสติได้ แถมยังไม่คิดอาฆาตมาดร้ายกับเจ้าอสรพิษที่ฉกกัดเธอ

เล่าสู่กันฟังครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
supa

Posts: 2 topics
Joined: 17/5/2554

ความคิดเห็นที่ 89  « on 2/4/2557 12:31:00 IP : 180.183.203.203 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

ขอบคุณลุงสิทธิ์สำหรับข้อสรุป จะรู้ว่ามีศีลจริงหรือไม่ ก็ตอนมีสิ่งกระทบ

หน้าแล้ง.. งูชอบออกมาอยู่ข้างนอกมากกว่าปกติค่ะ เราเห็นเขาบ่อยๆ บางทีโผล่หัวออกมาบนรอยแยกของดิน คราวละห้าตัวก็มี คือ แห่งละตัว ในบริเวณใกล้เคียงกัน เมื่อเดินต้องเดินระวังมาก หากนึกทันก็ได้กำหนดการก้าวของเท้า ที่สำคัญต้องสวมรองเท้าบูทเสมอ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 90  « on 5/4/2557 8:59:00 IP : 1.47.164.200 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
 First page 
<
4
5
6
7
8
9
10
11
>
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 7 Visits: 16,675,910 Today: 899 PageView/Month: 57,314