luangpudu.com / luangpordu.com
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

หลวงปู่ท่านสอนเสมอว่า ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน

คณะผู้จัดทำฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้มาเยือน Website แห่งนี้ จะได้รับความอิ่มเอิบใจและปีติกับเรื่องราวและธรรมะคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รวมทั้งเกิดศรัทธาและพลังใจในการขวนขวายปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ใจได้สัมผัสธรรม และมีธรรมเป็นที่พึ่งตลอดไป

(โปรดแลกเปลี่ยน/แสดงทัศนะอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นธรรมะคำสอนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของดเว้นบทความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่เป็นไปในเชิงพาณิชย์หรือปาฏิหาริย์ที่มิได้วกเข้าหาธรรม)

   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม  (Read: 287815 times - Reply: 289 comments)   
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
« Thread Started on 14/5/2556 7:59:00 IP : 203.148.162.151 »
 

ถึงวันนี้ เว็บ luangpudu.com / luangpordu.com ซึ่งมีการตั้งชื่อเล่นจากเพื่อน ๆ สมาชิกว่า "บ้านหลวงปู่อมยิ้ม" ก็เปิดประตูบ้านมานานกว่า ๓ ปีแล้ว มีเพื่อน ๆ มาเป็นสมาชิกร่วม ๙๐๐ คน

ลุงสิทธิ์มาสังเกตว่าลุงสิทธิ์เขียนโม้อยู่คนเดียวเสียเป็นส่วนมาก (เขียนไปตั้งกว่า ๕๐๐ กระทู้)  จึงอยากได้ยินเรื่องเล่าจากสมาชิกบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ที่ตัวเองหรือคนใกล้ตัวเจอะเจอสิ่งกระทบต่าง ๆ แล้วอาศัยอุบายธรรมอะไรในการรักษาใจ

ลุงสิทธิ์ตระหนักเสมอว่าปัญญาแท้นั้นไม่ได้เกิดจากการอ่านมากหรือฟังมาก นั้นเป็นเพียงปัญญาขั้นต้น หากแต่เกิดจากการรักษาใจ (ผ่านการเจริญสติและปัญญา) ในเวลาที่เจอะเจอสิ่งกระทบซึ่งเป็นเหมือนแบบฝึกหัด ซึ่งถ้าผ่านแบบฝึกหัดมามาก สติปัญญาก็ยิ่งได้รับการฝึกฝนให้เฉียบคมมากขึ้น ดังที่ครูบาอาจารย์มักอุปมาว่า "สิ่งกระทบหรือแบบฝึกหัดเป็นเหมือนหินลับสติปัญญา"

นอกจากนี้ ลุงสิทธิ์ก็ยังเชื่ออีกว่า จุดอ่อน (กิเลส) เช่นความกลัวของแต่ละคน ย่อมแตกต่างกัน ปัญหาเล็ก ๆ ของคน ๆ หนึ่ง อาจเป็นปัญหาใหญ่ของอีกคนหนึ่ง สำหรับผู้ต้องการฝึกฝนอบรมตนแล้ว ย่อมไม่ปรารถนาให้จุดอ่อนเหล่านั้นติดตัวตัวเองไปจนตาย (แม้บางครั้งอาจให้เหตุผลให้ตัวเองสบายใจว่า เอาไว้ละทีหลังก็ตาม) การยอมรับในจุดอ่อนที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่เป็นจุดร่วมก็คือการเดินไปบนหนทางของการพัฒนาตน ทั้งเรื่องกายวาจา (ศีล) คุณภาพของจิต (สมาธิ) และปัญญา

ลุงสิทธิ์อารัมภบทมามากพอสมควร (หรืออาจเกินควร) แล้ว จึงอยากรับฟังเรื่องเล่าอันอาจจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ สมาชิก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชวนให้เศร้า แล้วระงับหรือบรรเทาความเศร้าไว้ได้ เรื่องที่ชวนให้โกรธ แล้วระงับหรือบรรเทาความโกรธไว้ได้ เรื่องที่ชวนให้ลุ่มหลง แล้วระงับหรือกลับตัวให้คลายหลงได้ ฯลฯ

น้องเอสกิโมซึ่งอยู่ขั้วโลกเหนือ อยู่กับกองหิมะ เจอะเจอผู้คนน้อย ก็ใช่ว่าจะมีสิ่งกระทบน้อยนะ เพราะสิ่งกระทบที่มาทางใจโดยตรง ก็อาจมีมากไม่แพ้ช่องทางตา หู ฯลฯ คุณพ่อน้องพลอยสวยก็คงมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของผู้เป็นพ่อ และอีก ๆ หลาย ๆ คนที่มีลูกเล็กลูกโต สิ่งกระทบที่เจอะเจอในที่ใกล้ตัว หรือแม้แต่ในวัดในวา ฯลฯ สิ่งกระทบที่อยู่ในประเทศ และนอกประเทศ (กรณีนอกประเทศนี่คงต้องให้เป็นการบ้านของคุณคนแถวหลัง ป้าน้อง หลานเอมี่ รวมทั้งน้องเอสกิโม) หรือสิ่งกระทบในแวดวงที่ทำงาน ก็ต้องถามคุณ DRAGON ฯลฯ หรือจะเป็นแวดวงการศึกษา ....ต้องถามใครล่ะ  อีกทั้งประสบการณ์ของคนที่ทำบ้านให้เป็นวัดอย่างน้องพุทธธิดา (และเชื่อว่าอีกหลาย ๆ คน) สารพัดเรื่องที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟัง 

เชิญทุกท่านช่วยกันทำให้บ้านหลวงปู่อมยิ้มที่เหมือนมีชีวิตอยู่แล้วนี้ให้มี "ชีวา" ด้วยนะครับ 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
  ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
จำนวนข้อความทั้งหมด:  110
<
1
2
3
4
5
6
7
8
9
>
 Last page 
แสดงความคิดเห็น
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 31  « on 24/6/2556 21:10:00 IP : 27.145.188.119 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 
psyu Talk:

บ่ายวันนี้ ได้รับ CD ธรรมะ ของหลวงปู่ทา จารุธัมโม วัดถ้ำซับมืดที่คุณพรสิทธิ์ ได้กรุณาจัดส่งมาให้ ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ

ในขณะที่กำลังกังวลใจอยู่ว่า จะแจ้งให้ทราบได้อย่างไรว่า ได้รับ CD แล้ว เพราะจำได้ว่า เป็นการประกาศแจก ที่แทรกอยู่ในกระทู้ใดกระทู้หนึ่งซึ่งไม่ใช่กระทู้เฉพาะกิจ พอเข้าเวปครั้งแรกของวันนี้ ก็เจอข้อความนี้ของคุณเอสกิโมเป็นอันดับแรกเลย ขอบคุณคุณเอสกิโมด้วยครับที่ช่วยทำให้เจอกระทู้นี้ โดยที่ผมไม่ต้องไล่ตามหาทีละกระทู้ 



ด้วยความยินดีครับ
อ้อ ที่ช่วยเป็นธุระจัดส่งให้นั้นคือคุณเพียงดินเช่นเคยครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 32  « on 26/6/2556 0:04:00 IP : 27.145.188.119 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

"สติตั้งอยู่ที่ใจ ดูอยู่ที่ใจ มองอยู่ที่ใจ เห็นอยู่ที่ใจ เพ่งอยู่ที่ใจ กำหนดอยู่ที่ใจ ...อิริยาบถ ๔ ยืน เดิน นั่ง นอน สติอันเดียว ก็ไม่หลาย"

คติธรรมหลวงปู่ทา จารุธมฺโม

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
Suwera

Posts: 0 topics
Joined: none

ความคิดเห็นที่ 33  « on 27/6/2556 0:36:00 IP : 58.8.226.244 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 

   ต้องขออภัยพี่พรสิทธิ์ที่ผมไม่ได้เข้าเวปมาตอบเป็นอาทิตย์ๆ เนื่องจากช่วงนึ้ยุ่งในเรื่องการเรียนมาก ขอเรียนว่า cd ที่ส่งให้ ผมได้รับแล้วครับ ขอบคุณธรรมบรรณาการคร้งนึ้เป็นอย่างสูง ธรรมะขององค์หลวงปู่ฟังง่าย เหมาะกับนักปฏิบัติ ที่หา ช่องทาง แห่ง "สติ" ครับ

 

"กำหนดสติที่ใจ"

 

ขอบพระคุณครับ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 34  « on 8/7/2556 7:50:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


เช้านี้ได้ฟังข่าวสลดใจในเหตุการณ์ที่มุสลิมวางระบิดวัดพุทธคยาซึ่งเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา

โชคดีที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระพุทธเมตตายังปลอดภัย แต่พระสงฆ์ ๒ รูป ได้รับบาดเจ็บ

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวพวกมุสลิมเผาวัดพุทธที่บังคลาเทศหลายวัด

ตั้งแต่ลุงสิทธิ์จำความได้ ยังไม่เคยได้ยินข่าวชาวพุทธไปบุกทำลายศาสนาสถานของศาสนาอื่นสักที มีแต่ถูกกระทำตลอดมา เมื่อราว ๓๐ ปีก่อน ก็ยังได้ยินเรื่องเล่าของคนไทยที่ไปขายแรงงานที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง มีประเทศซาอุฯ เป็นต้น ซึ่งทางนั้นเขาเคร่งครัดมิให้มีรูปเคารพของต่างศาสนาเข้าประเทศเด็ดขาด ดังนั้น บรรดาชาวไทยที่ไปขายแรงงานที่นั่นต้องถูกถอดสร้อยคอเพื่อเอาพระที่ห้อยคอมานั้นมาทุบทิ้งต่อหน้าต่อตา

ถ้าคนในโลกเคารพสิทธิในศรัทธาของกันและกัน ไม่เบียดเบียนหรือบังคับให้ต้องศรัทธาอย่างตน โลกนี้คงสงบร่มเย็นขึ้นมาก ที่ร้ายกาจก็คือการนำศาสนามารับใช้อาณาจักร ประหัตประหารคนที่ไม่ศรัทธาอย่างที่ตนศรัทธา ประเทศอเมริกาเกิดขึ้นก็เพราะการหนีตายจากอังกฤษจากที่ถูกไล่ประหัตประหารจากคนต่างลัทธิในศาสนาเดียวกัน

ด้านหนึ่งก็สลดสังเวชใจกับความก้าวร้าวของศาสนาอื่น อีกด้านหนึ่งก็ภาคภูมิใจในพระพุทธศาสนาที่สอนให้คนไม่เบียดเบียนกัน ตรงกันข้าม ยังสอนให้รักกัน เกื้อกูลกัน แม้จะมีความเชื่อความศรัทธาที่ไม่ตรงกัน เพราะพระพุทธองค์ทรงสอนให้เมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ในฐานะ "เพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย" และทุกชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ล้วน "รักสุข เกลียดทุกข์" ด้วยกันทั้งสิ้น

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 35  « on 8/7/2556 8:02:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


(ภาพวัดพุทธในบังคลาเทศที่ถูกชาวมุสลิมเผาทำลาย เมื่อปีก่อน)

จะได้อะไรหนอ จากการทำลายศรัทธาของชาวพุทธ นอกจากหนทางสู่อบาย ความเสื่อม และความเนิ่นช้าในวัฏฏะ

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 36  « on 8/7/2556 12:59:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


ไม่ว่าจะเป็นการเผาทำลายวัดพุทธในประเทศบังคลาเทศ หรือการระเบิดวัดพุทธคยาในอินเดีย เรื่องราวความจริงเหล่านี้ ลุงสิทธิ์มิได้ถ่ายทอดเพื่อให้เกิดความชิงชังกัน เพราะเป็นชาวพุทธย่อมต้องรักษาใจให้ห่างจากความโกรธ ความเกลียดชัง ฯลฯ

อย่างไรก็ดี ชาวพุทธควรต้องรู้เท่าทัน เพื่อช่วยกันปกปักรักษาศาสนวัตถุและศาสนธรรมไว้เพื่อประโยชน์แก่สัตว์โลก 

การเผาทำลายศาสนสถานและศาสนวัตถุ จากคนต่างศาสนา นั่นก็ยังเรียกว่าเป็น "ภัยภายนอก" ที่สำคัญยิ่งกว่า คือ "ภัยภายใน" ได้แก่การประพฤติเสียหายของพุทธบริษัท ๔ เอง การไม่ศึกษาและเจริญไตรสิกขา คือสาเหตุสำคัญของความเสื่อมของพระศาสนา  

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
ปุถุชน

Posts: 1 topics
Joined: 8/5/2556

ความคิดเห็นที่ 37  « on 8/7/2556 13:34:00 IP : 101.108.107.88 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 
สิทธิ์ Talk:

...การไม่ศึกษาและเจริญไตรสิกขา คือสาเหตุสำคัญของความเสื่อมของพระศาสนา  



ขออนุญาตอนุโมทนาสาธุการ และน้อมนำเจริญสติได้ดียิ่งครับผม 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 38  « on 10/7/2556 7:59:00 IP : 203.148.162.151 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


ค่านิยมบางอย่าง สังคมน่าที่จะพิจารณาว่าไม่ใช่สิ่งดีงาม ไม่สอดคล้องเป็นธรรม ไม่น่าเข้าไปร่วมส่งเสริม เช่น การที่โยมนิยมจัดมหรสพในวัด การนิยมพนันหวยพนันมวยซึ่งนับวันจะมีความถี่มากขึ้น ๆ จนเป็นรายวัน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระ ก็มีเรื่องค่านิยมที่ต้องการประดับบารมีด้วยรถหรู เลยเถิดไปถึงการจัดหารถเก๋งไปมอบเป็นบรรณาการให้พระผู้ใหญ่ ฯลฯ

ลุงสิทธิ์เคยได้ยินเรื่องราวของพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่บอกกับโยมว่า รถญี่ปุ่น (หมายถึงรถโตโยต้าแคมรี่ที่มีโยมมาถวายไว้ใช้ประจำวัด) มันกิ๊ก ๆ ก๊อก ๆ พระระดับอย่างเราต้องรถเบนซ์ รถบีเอ็ม หลังจากที่ท่านพูดบ่นไม่กี่สัปดาห์ ท่านก็หาวิธีผลักดันให้นำรถญี่ปุ่นไปขาย เพื่อซื้อรถยุโรปมือสอง ก็เป็นเรื่องที่สะเทือนใจโยมชาวบ้านจนพากันเลิกใส่บาตรพระรูปนั้น จากนั้นท่านก็ย้ายไปสำนักสงฆ์แห่งอื่นเพื่อหลอกโยมใหม่ ๆ (โดยอุบายเดิม ๆ เช่น อ้างอิงครูบาอาจารย์ที่ท่านมรณภาพแล้วว่ารับรองตน ทำตัวให้ดูเป็นพระอริยเจ้า แสดงตนเป็นผู้มีเจโตปริยญาณ มีความไม่ยึดติด ฯลฯ) ที่หลอกได้ง่ายที่สุดก็คือคนนอกพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกรุงเทพที่ตื่น "พระอรหันต์" และ "พระอภิญญา"

ยิ่งช่วงนี้มีข่าวคราวพระสะสมรถหรู ก็ยิ่งทำให้นึกถึงคุณความดีของหลวงพ่อชาที่ท่านวางตัวเป็นแบบอย่างเอาไว้เมื่อคราวเหตุการณ์ที่โยมมาปรารภที่จะถวายรถแก่ท่าน แม้ที่ประชุมสงฆ์จะเห็นชอบว่าสมควรรับไว้ ด้วยเหตุผลว่าหลวงพ่อมีกิจธุระต้องไปดูแลวัดสาขาจำนวนหลายสิบแห่ง ประกอบกับหลวงพ่อก็ชราภาพลงทุกวัน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องใช้รถ แต่หลวงพ่อชากลับไม่เห็นด้วยเพราะ "อายโยม อายพระพุทธเจ้า"

ดังนั้น ในส่วนของพระว่าท่านจะอายโยม อายพระพุทธเจ้าหรือไม่นั้นก็เป็นส่วนของท่าน แต่ในส่วนของเรา ในฐานะอุบาสกอุบาสิกา ก็ต้องช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาด้วยการส่งเสริมแต่เฉพาะพระที่ประพฤติธรรม มีความมักน้อยสันโดษและรักษาข้อวัตรปฏิบัติที่ดีงาม เป็นต้น ที่ตรงกันข้ามก็ไม่ควรส่งเสริม แม้ในครั้งพุทธกาลที่พระสงฆ์ ๒ คณะทะเลาะกัน พระพุทธองค์ห้ามปรามก็ไม่ฟัง สุดท้ายชาวบ้านเลยพร้อมใจกันไม่ใส่บาตร คณะสงฆ์อดอาหารหลายวันเข้าจึงได้คลายทิฏฐิมานะ หันมาคืนดีกัน การที่โยมช่วยแก้ไขด้วยการไม่ส่งเสริมพระที่ประพฤติไม่เป็นธรรมอย่างนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ครั้งพุทธกาล

แม้เราไม่อาจจะต้านกระแสความเสื่อมหรือค่านิยมที่ผิด ๆ ของสังคม แต่ก็ขอให้เราอย่าได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่ไม่ควรเรียกว่า "วัฒนธรรม" นั้นเลย 

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
ปุถุชน

Posts: 1 topics
Joined: 8/5/2556

ความคิดเห็นที่ 39  « on 24/7/2556 10:26:00 IP : 202.29.26.249 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 
สิทธิ์ Talk:

ค่านิยมบางอย่าง สังคมน่าที่จะพิจารณาว่าไม่ใช่สิ่งดีงาม ไม่สอดคล้องเป็นธรรม ไม่น่าเข้าไปร่วมส่งเสริม...

แม้เราไม่อาจจะต้านกระแสความเสื่อมหรือค่านิยมที่ผิด ๆ ของสังคม แต่ก็ขอให้เราอย่าได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่ไม่ควรเรียกว่า "วัฒนธรรม" นั้นเลย 



ขออนุญาตเล่าบรรยากาศวันอาสาฬหบูชาครับผม

เข้าวัด เหมือนวัดกำลังใจ ร้านรวงเรียงรายเร่งขายก่อนบุญจะวาย บ้างแข่งขยายเสียงโฆษณา ว่าสะดวกซื้อ สะดวกกว่าด้วยอามิสบูชาราคาฉันเอง(แหม..สะดวกจังนะ) งานบูชาพระ แต่นะ..ดั่งตามล่าหาจำอวดอับดุลเอ้ย..รู้จริงหนอ

มหาชนนำมหาศรัทธาจากทิศานุทิศ รวมเป็นจิตเดียวกราบองค์พุทธปฏิมา หวังถวายสักการะแทนกตัญญูกตเวทิตาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทโธ

บ้างร่วมถวายสังฆทานที่เรียงรายละลานตารอบพระเจดีย์ บ้างระดมกระหน่ำตีระฆัง(จะให้ดังถึงไหน) บ้างร่วมสวดมนต์ธัมมจักกัปป์ บ้างนั่งภาวนานับลมหายใจ บ้างเดินขวักไขว่ปัดแขนปัดขาพร้อมกระทำประทักษิณสวดพระคาถา พลางระคนแอบบ่นว่า จะหยดไปถึงไหนเจ้าน้ำตาเทียน บ้างแทบอาเจียนด้วยกลิ่นธูปและควันไฟ ทั้งลูกเล็กเด็กไม่แดงไถ่ถามตามที่ตนสงสัย ให้ระงม

กราบนมัสการคุณแห่งพระพุทธเจ้า คุณแห่งพระธรรม และคุณแห่งพระอริยสงฆ์ น้อมระลึกคุณพระเมตตา พระปฏิปทาและพระจริยาวัตร พระอริยสังฆาธิการคัด กรองไว้ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ได้ศึกษา “ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ”ยสกุลบุตรอุทาน ล่วง ๒,๖๐๐ ปี ปัจจุบันสมัย อุดมมงคลดิถี สังเวชแห่งใจนี้ ช่างไม่ต่างกันเลย

ขออนุญาตบันทึกไว้เพื่อเตือนใจตน หากเห็นไม่เหมาะสมด้วยประการใดๆ ขอพี่ๆกรุณาลบทิ้งได้ อย่าปล่อยไว้ให้เป็นที่ระคายเคือง ขอบพระคุณยิ่งครับผม

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
สิทธิ์

Posts: 591 topics
Joined: 5/11/2552

ความคิดเห็นที่ 40  « on 24/7/2556 21:20:00 IP : 27.145.188.119 »   
Re: รวมเรื่องเล่าของสมาชิกบ้านหลวงปู่อมยิ้ม
 


เมื่อน้องปุถุชนอุตส่าห์มาเล่าบรรยากาศงานบุญวันอาสาฬหบูชาให้ฟังด้วยภาษาของกวีน้อย ลุงสิทธิ์ก็จะขอเล่าบรรยากาศที่วัดสะแกให้ฟังบ้าง แต่คงด้วยภาษาเชย ๆ อย่างลุงสิทธิ์นี้แหละ

หมู่คณะที่นัดหมายมาร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็น (แปล) และปฏิบัติสมาธิภาวนาถวายหลวงปู่ที่วัดสะแก ราว ๆ ๔๐ ท่าน ก็เริ่มกิจกรรมกันตั้งแต่ ๕ โมงเย็น โดยสวดมนต์ทำวัตรเย็น เสร็จแล้วก็ต่อด้วยการปฏิบัติสมาธิภาวนา ครั้งนี้ทำภาวนากันไม่นานเพราะมีคนใหม่มาด้วย ซึ่งบางคนก็ยังไม่เคยปฏิบัติมาก่อน แถมยังมีสตรีที่นับถือคริสต์มาร่วมด้วย ๑ ท่าน

เมื่อเสร็จจากการปฏิบัติสมาธิภาวนา ก็สนทนาธรรมกันเล็กน้อยก่อนที่จะไปตั้งแถวต่่อจากคณะสงฆ์ที่มานำเวียนเทียน ซึ่งก็มีผู้คนภายนอกมาร่วมด้วยหลายคน เมื่อครบ ๓ รอบ ต่างก็นำธูปและเทียนไปสักการะพระพุทธรูปที่หน้าโบสถ์ ส่วนดอกบัว ทุกคนก็นำกลับมาสักการะหลวงปู่ดู่ที่หน้ากุฏิท่าน

จากนั้นก็มีข้าวต้มและผลไม้คั่นรายการในบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น คือ นั่งเรียงรายที่หน้ากุฏิหลวงปู่ เรียกว่าจำลองบรรยากาศอย่างสมัยหลวงปู่มีชีวิต พออิ่มท้องแล้วก็ช่วยกันจัดเก็บเช็ดถูและล้างถ้วยล้างชาม เสร็จแล้วก็พร้อมใจกันมาปฏิบัติภาวนารวมกันอีก ๑ รอบ ก่อนที่บางส่วนจะเดินทางกลับบ้าน โดยยังคงมีบางส่วนอยู่ปฏิบัติภาวนาต่อจนถึงอรุณรุ่ง

แม้หลวงปู่จะละสังขารไปแล้ว แต่ทุกคนก็เชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจว่า "ท่านคอยจะสงเคราะห์พวกเราอยู่"

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share
 
<
1
2
3
4
5
6
7
8
9
>
 Last page 
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   ธรรมะทั่วไป
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  



Online: 7 Visits: 16,614,660 Today: 178 PageView/Month: 86,147